LINE


Timeline เพลงร็อคไทยกับวงดังแห่งยุค Part 3

ไปซื้อ Timeline เพลงร็อคไทยกับวงดังแห่งยุค Part 3ที่สาขา

หลังจากผ่านยุคอัลเทอร์เนทีฟมาแล้ว ทำให้ค่ายเพลงใหญ่เริ่มเล็งเห็นแล้วว่าตลาดดนตรีร็อคเริ่มแพร่กระจายในหมู่คนฟัง ทั้งทางแกรมมี่และ RS จึงหันมาทำวงร็อคมากขึ้น ในช่วงนี้บางวงก็ได้รับอิทธิพล J-Rock จากทางญี่ปุ่นด้วย เช่น วงพีค แต่ผู้จุดกระแสวงร็อคในยุคสมัยนี้ได้แก่ทางคลื่น 91.5 Hot Wave ที่จัดการประกวด Hotwave Music Award ขึ้นมาเพื่อค้นหาวงที่มีฝีมือพอจะทำอัลบั้ม ทำให้เพลงร็อคเป็นที่นิยมในกลุ่มวัยเรียนและวงร็อคหลายๆวงก็มีจุดกำเนิดมาจากเวทีแห่งนี้ ถือเป็นช่วงที่วงร็อคหลายๆวงอยู่ภายใต้สังกัดใหญ่ไม่ใช่ค่ายเล็กๆแบบยุคอัลเทอร์เนทีฟ

 

1998 ลาบานูน

อีกหนึ่งวงดังจากค่ายมิวสิค บั๊กส์ที่ ธเนศ วรากุลนุเคราะห์ เห็นแววตั้งแต่การประกวดฮ็อตเวฟ มิวสิคอวอร์ดครั้งที่ 2 แม้ว่าจะไม่ได้รางวัลใดๆมาเชยชมแต่ก็ได้เซ็นสัญญาทำเพลง โดยสามหนุ่ม เมธี อนันต์ และสมพร เรียนด้วยกันที่โรงเรียนอิสลามวิทยาลัยแห่งประเทศไทย ออกอัลบั้มแรกเมื่อปี 1998 ชุดนมสดมีซิงเกิลเปิดตัวคือ “ยาม” ด้วยซาวด์กีต้าร์แบบอาหรับที่แปลกหูชาวไทยทำให้เพลงนี้ดังไปทั่วประเทศภายในเวลาไม่นาน เพลงชุดแรกของลาบานูนนั้นวงที่เล่นห้องซ้อมต้องแกะกันเกือบทั้งอัลบั้มเพราะดังแทบทุกเพลงจริงๆ ซึ่งในปีต่อมาก็ตามกระแสความแรงด้วยผลงานชุดที่ 2 191 ก็โด่งดังไม่แพ้ชุดแรกเช่นเดียวกัน มีเพลงดังทั้ง 191 และ ถูกทุกข้อ ปี 1998-1999 จึงเป็นช่วงลาบานูนฟีเวอร์ในหมู่นักดนตรีเป็นอย่างมาก ปัจจุบันวงนี้ก็กลับมาทำเพลงอีกครั้งคือเพลง เชือกวิเศษ, แพ้ทาง โดยที่ความนิยมจากแฟนเพลงยังไม่เสื่อมคลาย

 

1999 กะลา

วงดนตรีที่มีเสียงร้องของหนุ่ม ยุทธพงศ์ นักร้องนำเป็นเอกลักษณ์ โดยกะลาเริ่มมาจากการประกวดเวทีฮ็อตเวฟมิวสิคอวอร์ดครั้งที่ 2 และ 3 แม้ว่าพวกเขาจะหยุดแค่รอบ 10 วงสุดท้ายแต่ก็ยังได้ทำเพลงกับค่ายจีนี่ เร็คคอร์ดส์ในเครือแกรมมี่ ทำให้ 4 สมาชิก หนุ่ม (ร้องนำ), โต (กีต้าร์) นุ (เบส) และ รุส (กลอง) มีอัลบั้มแรกเมื่อปี 1999 ในชื่อชุดเดียวกับชื่อวง อัลบั้มนี้แจ้งเกิดทันทีกับเพลง แม่ครับ และ ไม่มาก็คิดถึง ก่อนจะต่อยอดกับอัลบั้มที่ 2 มีเพลงฮิตอย่าง ขอเป็นตัวเลือก ซึ่งเพลงช้าของวงกะลาที่ได้เสียงแหบๆของหนุ่มถ่ายทอดมักจะติดหูคนฟังอย่างรวดเร็ว ไม่ว่าจะเป็น 4 นาที, ใช่ฉันหรือเปล่า ช่วงพีคของวงกะลานั้นมีเพลงฮิตติดชาร์ตเพียบและยังได้ทำอัลบั้มรวม Little Rock Project กับวงร็อคชั้นนำวงอื่นๆ แต่หลังจากอัลบั้มชุดที่ 6 “Minute” วงกะลาชุดก่อตั้งก็ได้แยกย้ายกันไป โดยหนุ่ม นักร้องนำยังคงฟอร์มวงกับสมาชิกใหม่ในชื่อเดิมออกผลงานมาอีก 2 ชุด แต่ปัจจุบันก็ได้กลายเป็นศิลปินเดี่ยวเต็มตัวไปแล้ว

 

2001 แคลช 

วงร็อคฝีมือจัดจ้านที่รวมตัวกันตั้งแต่สมัยเรียนมัธยมที่โรงเรียนราชวินิตบางแก้ว ในพระบรมราชูปถัมภ์เพื่อประกวดฮ็อตเวฟ มิวสิคอวอร์ดครั้งที่ 3 และได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 จึงได้เซ็นสัญญากับค่ายอัพจีในเครือแกรมมี่ แคลชปล่อยทีเซอร์เพลง “กอด” มาเป็นเพลงแรกในปี 2001 ในสไตล์เพลงช้าๆ แต่ก็ชนะใจคนฟังมาได้เรื่อยๆ มีเพลงดังอย่าง “รับได้ทุกอย่าง” อยู่ในอัลบั้มแรก ก่อนที่จะค่อยๆเผยตัวตนในแนวดนตรีหนักๆมากขึ้นในชุดหลังๆ ด้วยเสียงร้องอันเป็นเอกลักษณืของแบงค์ นักร้องนำและซาวด์ดนตรีที่เข้มข้นของ แฮ็ค (กีต้าร์), พล (กีต้าร์), สุ่ม (เบส) และ ยักษ์ (กลอง) ทำให้อัลบั้มทั้งหมด 7 ชุดที่วงออกมาระหว่าง 2001-2010 ได้รับความนิยมทุกชุด แนวเพลงแต่ละอัลบั้มของแคลชถือว่าหลากหลายเพราะเป็นการรวบรวมความคิดมาจากสมาชิกในวง ไม่ว่าจะเป็นแนวฮิพ-ฮ็อพอย่างเพลง “โรคประจำตัว” หรือเพลงหนักๆอย่าง “ค้างคา” ที่ออกมาแล้วได้รับการตอบรับดีมาก ในปี 2010 ก็ได้ประกาศยุบวงแยกย้ายกันไปทำเพลงตามทางของตนเอง แต่ปัจจุบันแฟนเพลงอาจมีข่าวดีเมื่อลือกันว่าแคลชจะกลับมารวมตัวทำเพลงกันอีกครั้ง

 

2001 โปเตโต้ 

วงที่ฟอร์มกันมาจากการถ่ายโฆษณาโค้กโดยมี ปีย์ ปีย์ชนิตเป็นนักร้องนำหลัก ออกอัลบั้มแรกชื่อชุดโปเตโต้ในปี 2001 ซึ่งขณะนั้นเป็นแนวดนตรีป็อปแต่งกายสไตล์นักเรียนญี่ปุ่น แต่หลังจากอัลบั้มแรกก็มีข่าวร้ายเมื่อปีย์เสียชีวิต ทำให้ต้องฟอรมวงกันใหม่โดยมีปั๊ปเป็นนักร้องนำและเปลี่ยนมือเบสมาเป็น โอม รวมถึงเพิ่มวินมาเป็นมือกีต้าร์ ซาวด์ดนตรีในอัลบั้มที่ 2 หนักแน่นและมีกลิ่นอายร็อคมาขึ้นจึงได้รับความนิยมดีขึ้นกว่าเดิม มีเพลงฮิตอย่าง กล้าพอไหม และ ไม่ให้เธอไป วงโปเตโต้เริ่มค่อยๆทำแนวดนตรีในสไตล์ร็อคที่พวกเขาชื่นชอบได้ในอัลบั้มต่อมาเรื่อยๆแต่ก็มีการเปลี่ยนตัวสมาชิกอยู่บ่อยครั้ง ปัจจุบันมือกีต้าร์กลายเป็น หั่ง และมือกลองเปลี่ยนเป็นกานต์ คงสมาชิกไว้ที่ 4 คน และมีผลงานเพลงออกมาถึงปัจจุบัน มีเพลงดังๆทั้ง ไม่รู้จะอธิบายยังไง และ ทิ้งไว้กลางทาง รวมไปถึงผลงานเพลงประกอบละครอีกมากมายและจัดคอนเสิร์ตใหญ่ของตนเองได้ถึง 3 ครั้ง คือ ในปี 2009, 2011 และ 2015

 

2002 อุลตร้าช้วดส์ 

วงดีกรีชนะเลิศฮ็อตเวฟ มิวสิคอวอร์ดครั้งที่ 5 โรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้เซ็นสัญญากับค่าย Mad Catz ในเครือแกรมมี่หลังจากการประกวด โดยอุลตร้าช้วดส์ได้มีอัลบั้มพิเศษ Spicy Kids ร่วมกับอีก 9 วงดนตรี ที่ได้รับรางวัลต่างๆ ในการประกวดฮ็อตเวฟ มิวสิคอวร์ดปีเดียวกัน เพลงหิริโอตัปปะที่พวกเขาร้องก็ได้รับความนิยมค่อนข้างสูงโดยเป็นแนวเพลงเมทัลคอร์ที่ค่อนข้างแปลกใหม่ในสมัยนั้น จนมาถึงอัลบั้มแรกของพวกเขาที่ออกมาเมื่อปี 2002 ชื่ออัลบั้ม Ultra Sound ก็ยังสานต่อความนิยมไว้ได้ดี มีเพลงฮิตอย่าง ไม่เป็นไร และ กล้าขอกล้าให้ ที่แฟนๆชาวร็อคต้องยกนิ้วให้กับฝีมือของวง อุลตร้าช้วดส์ยังได้ร่วมทำอัลบั้มพิเศษ Little Rock Project กับวงร็อคอีก 6 วง ซึ่งเป็นการนำเพลงของวงไมโครมาทำใหม่โดยทางวงได้ขับร้องในเพลง “ตายเปล่า”, “ม้าเหล็ก”, “ดับเครื่องชน” ก่อนจะมีอัลบั้มเต็มที่ 2 ของวงในปี 2005 ชื่อเดียวกับวง แม้ว่าจะมีเพลงฮิตอย่าง เสียแรงเปล่า แต่กระแสความนิยมถือว่าตกลงไปเยอะ จึงเป็นอัลบั้มชุดสุดท้ายของพวกเขา

 

2002 บอดี้สแลม 

วงที่ชนะเลิศจากการประกวดเวทีฮ็อตเวฟ มิวสิคอวอร์ดครั้งที่ 1 จากโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย โดยสมัยนั้นใช้ชื่อวงว่า ละอ่อน ได้ออกอัลบั้มหลังจากการประกวดกับค่ายมิวสิค บัคส์เมื่อปี 1997 แต่หลังจากออกอัลบั้มแรกแล้วนั้น ตูน นักร้องนำก็ได้ออกไปฟอร์มวงใหม่ในชื่อบอดี้แสลม ทำให้วงละอ่อนต้องหานักร้องใหม่ซึ่งได้ ปั้น มาแทน วงบอดี้แสลมออกอัลบั้มแรกกับค่ายมิวสิค บัคส์โดยมีสมาชิก 3 คนคือ ตูน เภา และปิ๊ด ในปี 2002 ชื่ออัลบั้มเดียวกับวง ซึ่งก้ได้รับกระแสที่ดีมีเพลงฮิตอย่าง งมงาย, ย้ำ และสักวันจะดีพอ จึงทำอัลบั้มที่ 2 ในปีต่อมาก็ยังมีเพลงอย่างหวั่นไหว และ ปลายทาง เข้าติดหูคนฟัง จนมาถึงอัลบั้มที่ 3 ที่พวกเขาย้ายไปค่ายจีนี่ เร็คคอร์ดส์ในเครือแกรมมี่ มีการเปลี่ยนสมาชิกวงได้ ยอด และ ชัด มาเพิ่ม โดยที่เภา มือกีต้าร์นั้นออกจากวงไป แนวดนตรีของบอดี้แสลมเริ่มเปลี่ยนมาเป็นร็อคหนักๆมากขึ้น ในขณะที่เนื้อหาของเพลงเริ่มพูดถึงการใช้ชีวิตในมุมมองที่โตขึ้น อัลบั้มที่ 3-5 ของพวกเขาก็ยังได้รับความนิยมเหมือนเดิม มีเพลงฮิตมากมาย เช่น ความเชื่อ, ยาพิษ และยังมีผลงานมาถึงปัจจุบัน

 

2002 ซีล 

วงดนตรีจากมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ สาขาวิชาดุริยางคศาตร์สากล กับ 4 สมาชิก เป๊ก (ร้องนำ), ชุ (กีต้าร์), ป็อก (เบส) และ เคน (กลอง) ที่รวมวงกันเป็นแบ็คอัพให้กับศิลปินดังๆมากมายเช่น ดัง พันกร, อ้อม สุนิสา ก่อนออกอัลบั้ม จนมาเข้าตาค่ายมอร์ มิวสิคในเครือแกรมมี่และได้ทำอัลบั้มแรกในชีวิตเมื่อปี 2002 ชื่อชุด Zeal ในแนวดนตรีร็อคแต่มีซาวด์ของซินธิไซเซอร์หรือเครื่องสังเคราะห์เสียงมาใช้มากกว่าวงอื่น เพลงเปิดตัว เหวี่ยง ทำให้คอร็อคบ้านเราหันมาสนใจวงนี้กันทันที ต่อเนื่องกันด้วยเพลงโง่เขลาที่ติดตลาดคนฟัง และมาถึงเพลงสองรักที่กลายเป็นเพลงฮิตที่สุดของวง ทำให้แค่อัลบั้มแรกวงซีลก็แจ้งเกิดได้ในทันที ก่อนที่จะมีผลงานมาทั้งหมด 5 อัลบั้มมีเพลงดังๆเช่น หมดชีวิต(ฉันให้เธอ), พบเพื่อเพียงผ่าน รวมไปถึงการทำ Little Rock Project นำเพลงวงไมโครมาร้องใหม่ ปัจจุบันเพิ่มสมาชิกใหม่คือ ศิลา มือกีต้าร์ แต่ผลงานของวงซีลในช่วงหลังจะเน้นไปที่เพลงประกอบละครซะมากว่า

 

2003 เรโทรสเปกต์ 

วงดนตรีแนวเมทัลที่เริ่มจาก แน๊ป (ร้องนำ), บอม (เบส), บิ๊ก (กีต้าร์), น็อต (กีต้าร์) มีความในแนวดนตรีร็อคหนักๆเช่นเดียวกันจึงฟอร์มวงขึ้นมาโดยใช้ชื่อว่า “Retrospect” ในช่วงแรกนั้นเล่นตามงานเล็กๆก่อนที่ บิ๊ก จะไปศึกษาต่อที่ต่างประเทศ แต่ได้ เบิร์ธ (มือกลอง) มาเพิ่ม ทำให้สมาชิกที่เหลืออีก 4 คนยังคงเล่นดนตรีต่อไปและได้รับการชักชวนจาก ต้น ดีเซมเบอร์ ให้ออกอัลบั้มจึงมีผลงานมินิอัลบั้มเมื่อปี 2003 ชื่อชุด E.P. For Your Ears Only ซึ่งได้รับความนิยมสูงมาก ขึ้นคอนเสิร์ต Fat Festival ครั้งที่ 3 ก่อนจะไปเข้าตาค่ายจีนี่ เร็คคอร์ดส์ทำซิงเกิ้ลเพลง “ไม่มีเธอ” ออกมาเมื่อปี 2004เหมือนเป็นการโยนหินถามทาง เมื่อรู้ว่ามีกลุ่มแฟนเพลงตอบรับดนตรีสไตล์นี้ เรโทรสเปกต์จึงมีอัลบั้มเต็มครั้งแรกเมื่อปี 2007 ในชื่อ อัลบั้มว่า อันลีชท์ (Unleashed) ส่งเพลงดังๆอย่าง เพราะว่ารัก, ปล่อยฉัน เข้าติดหูคนฟังทันที จึงมีผลงานออกมาจนถึงปัจจุบันอีก 3 อัลบั้ม มีเพลงฮิตมากมายทั้ง เหนื่อยไหมหัวใจ, ศรัทธาแห่งรัก ครองใจผู้ฟังอย่างต่อเนื่อง

 

2003 สวีตมัลเล็ต 

วงที่ทำเพลงกันเองโดยมีเต๋า อดีตนักร้องนำวง napkin และ วีน รุ่นน้องของวงอีโบล่ารวบรวมสมาชิกทำวงกันขึ้น โดยออกมินิอัลบั้มชื่อชุด Panaphobia ในปี 2003โดยเน้นเปิดเพลงทาง 104.5 Fat Radio คลื่นที่สนับสนุนค่ายเพลงเล็กๆ ทำให้ชื่อของสวีตมัลเล็ต เริ่มเป็นที่รู้จักมากขึ้น จนปี 2004 ได้เซ็นสัญญากับค่ายจีนี่ เร็คคอร์ดส์ในเครือแกรมมี่ทำซิงเกิ้ลเพลง “ตอบ” กับวงอื่นๆเช่นเรโทรสเปกต์และได้รับความนิยมพอสมควร จึงค่อยๆมีกระแสมากขึ้นและเป็นวงเปิดให้กับศิลปินอื่นๆเช่น บอดี้สแเลม ในปี 2007 พวกเขาก้ได้มีอัลบั้มเต็มอัลบั้มแรกของตนเองขึ้นมาชื่อชุด Light Heavyweight มีเพลงฮิตอย่าง “หลอมละลาย” “หลับข้ามวัน” และ “เพลงของคนโง่” ติดหูคนฟังทันที ก่อนจะมีผลงานชุดที่ 2 ในอีก 3 ปีต่อมาชื่อชุด Sound of Silence ก็ยังมีเพลงดัง “สภาวะหัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน” เข้าสู่กลุ่มคนฟัง ทำให้ได้รับการยกย่องในฝีมือว่าเป็นวงที่เล่นสดได้ดีและเข้าถึงอารมณ์เพลง

 

2004 โซคูล 

วงที่มีความเป็นเอกลักษณ์โดยเริ่มจากสมาชิกอย่าง โจ๊ก (กีต้าร์,ร้องนำ) และ มาร์ช (กลอง) กับ แจน (กีต้าร์) และ เจมส์( เบส) 2 คู่พี่น้องแท้ๆ 2 ครอบครัวตั้งวงขึ้นมาโดยมีวงโลโซเป็นไอดอล วงเริ่มจากการเดินสายประกวดตามเวทีต่างๆจนมาถึงเวทีการประกวดถ้วยพระราชทานชิงแชมป์ประเทศ ซึ่งวงโซคูลติด 1 ใน 10 วงสุดท้ายจนได้เซ็นสัญญาเข้าสังกัดอัพจีในเครือแกรมมี่ มีอัลบั้มเต็มครั้งแรกเมื่อปี 2004 ในชื่อชุด So Cool สงเพลงคนเจียมตัวติดหูคนฟังอย่างรวดเร็ว จึงได้ทำอัลบั้มที่สองต่อเนื่องในปี 2005 ชื่อชุด So Hot และกระแสการตอบรับถือว่าดีกว่าเดิม มีเพลงฮิตอย่าง เลี้ยงส่ง ที่ร้องกันได้ทั่วบ้านทั่วเมือง ทำให้วงโซคูลที่แม้จะเป็นวงร็อคลุคบ้านๆกลับโดนใจคนฟังได้อย่างรวดเร็วด้วยควาหลุดโลก ไม่ว่าจะเป็นมิวสิควีดีโอที่ขี่ควายเน้นความตลก แต่ด้วยฝีไม้ลายมือที่ไม่ธรรมดา วงโซคูลจึงมีปัลบั้มออกมาทั้งหมด 7 ชุดจนถึงปี 2012 ซึ่งได้รับควานิยมทุกชุด ก่อนที่จะยุบวงกันไปเมื่อปี 2015 เพราะโจ๊ก นักร้องนำให้เหตุผลว่าต้องการให้เวลากับครอบครัว

Music Arms