สำหรับงาน PA แล้ว มิกเซอร์ถือเป็นหนึ่งในองค์ประกอบสำคัญ เพราะหน้าที่หลักของของ Mixer คือการผสมสัญญาณเสียง มีทั้งแบบดิจิตอลและอนาล็อค โดยจะนำสัญญาณเสียงเข้าทาง Input และผสมสัญญาณเสียงต่างๆเช่น บาลานซ์เสียงไมโครโฟนให้ดังมากขึ้น หรือปรับเสียงกีต้าร์และเครื่องดนตรีอื่นๆตามความเหมาะสมและความชอบ ก่อนที่จะส่งสัญญาณเสียงที่มีการแก้ไขแล้วออกทางช่อง Output และเป็นช่วงที่สามารถตัดแต่งเสียง เพิ่มออปชั่นลูกเล่นตามความต้องการก่อนจะออกไปสู่เครื่องขยายเสียงอีกด้วย

ปัจจุบันนั้นมีการแบ่งมิกเซอร์ออกเป็น 3 แบบ คือ พาวเวอร์มิกเซอร์, อนาล็อคมิกเซอร์ และ ดิจิตอลมิกเซอร์ การทำงานของทั้ง 3 แบบก็จะแตกต่างกันไป สำหรับพาวเวอร์มิกเซอร์นั้นเป็นมิกเซอร์ที่มีเครื่องขยายเสียงในตัว หรือมีการขยายสัญญาณให้มีกำลังพอที่จะไปขับลำโพง เรียกว่าตัวเดียวทำงานถึง 2 แบบ จึงเหมาะกับคนที่ชอบความสำเร็จรูป หรือผู้ที่ไม่ต้องการยุ่งยากกับขั้นตอนการแปลงของเสียง ออกแนวห้องคาราโอเกะหรือโฮมเธียร์เตอร์ ชุดเดียวจบ แต่การทำงานของนักอัดเพลง หรือ ศิลปินอื่นๆ จะใช้เป็นอนาล็อคมิกเซอร์และดิจิตอลมิกเซอร์ซะเป็นส่วนใหญ่

เราจะมาพูดถึงอนาล็อคมิกเซอร์กันก่อน เป็นมิกเซอร์ที่เกิดมาก่อนดิจิตอล คำว่าอนาล็อคก็คือเราจะทำการปรับแต่งทุกอย่างด้วยมือของเราเอง มิกเซอร์แบบนี้จึงมีราคาที่ถูกกว่าดิจิตอล แต่เหมาะสำหรับคนที่มีความรู้ในเรื่องมิกซ์เสียงซักนิด เพราะขั้นตอนการใช้งานจะยุ่งยาก ถ้าเป็นมือใหม่นี่มีใบ้กินกันได้มั่ง ปุ่มไหนทำอะไรต้องชำนาญและเป๊ะพอควร และสำหรับมืออาชีพหลายคนจะบอกว่าชอบมิกเซอร์แบบอนาล็อคมากกว่าตรงที่สามารถควบคุมทุกอย่างได้ด้วยตัวเองนี่แหละ

ต่อมาเป็นมิกเซอร์ดิจิตอล ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าดิจิตอล ย่อมต้องมีความทันสมัยมากกว่า โดยเฉพาะการเชื่อมต่อเข้ากับแอปใหม่ๆจะทำได้ดีกว่า แต่มีราคาที่สูง เหมาะสำหรับมือใหม่หรือคนที่ยังไม่ชำนาญการมิกซ์เสียงเท่าไหร่นัก รวมไปถึงมืออาชีพหลายคนที่ชอบความสะดวก แต่บางคนอาจจะรำคาญความ”รู้มาก”ของเจ้าดิจิตอลมิกเซอร์ คล้ายๆเวลาที่เราเล่นคอมแล้วโปรแกรมอัตโนมัติมันชบขึ้นมาให้กดปิดนั่นแหละ ทำให้มือมิกซ์เทพๆที่มั่นใจฝีมือตัวเองยังคงนิยมแบบอนาล็อคกันอยู่

ทีนี้ก็มีคำถามโลกแตกเลยว่า แล้วมิกเซอร์แบบไหนดีกว่ากันล่ะ ถ้าเราเป็นมือใหม่ไปเล่นแบบอนาล็อคจะไหวมั้ย คำตอบคือไหวครับ แต่ต้องศึกษากันหน่อย เชื่อว่าไม่เกินความสามารถแน่นอน เพราะเค้าออกแบบมาให้มิกซ์กันอยู่แล้ว รวมถึงยังมีรุ่นเล็กๆที่ไม่ยุ่งยากให้ใช้ หรือจะไปเล่นแบบดิจิตอลจะปวดหัวมั้ย คำตอบคือถ้าคุณชินกับมัน อะไรมันก็ได้หมดครับ วันนี้ Musicarms จึงขอเปรียบเทียบ 5 ข้อ ให้เพื่อนๆได้ตัดสินใจเรื่องอนาล็อคมิกเซอร์และดิจิตอลมิกเซอร์ด้วยตัวเองกัน

ความหลากหลาย

ตรงนี้ต้องยกให้กับทางดิจิตอลไปเลย เพราะอย่างที่บอกว่าเป็นมิกเซอร์ ที่เกิดมาทีหลัง ดังนั้นจะให้มาห่วยกว่าของเดิมก็คงไม่ใช่ และเรื่องการรองรับโปรแกรมต่างๆทางดิจิตอลทำให้ดีกว่าอยู่แล้วเพราะวงจรความซับซ้อนภายในมากกว่า รวมถึงการออกแบบให้มีความสำเร็จรูปมากขึ้น ตรงนี้ต้องให้คะแนนดิจตอลมิกเซอร์นำไปก่อน = Digital +1

ราคา

ไม่ว่าเราจะซื้อของอะไรซักชิ้น ราคาถือเป็นสิ่งสำคัญอย่างมาก ซึ่งตรงนี้ขอบอกว่าอนาล็อคมิกเซอร์ชนะขาด เนื่องจากของใหม่และทันสมัยกว่ายอมแพงกว่า ดังนั้นผู้ใช้ต้องถามตัวเองก่อนว่ารับได้มั้ยกับฟังก์ชั่นหรือการทำงานแบบเก่า ถ้ารับได้และพร้อมเรียนรู้ เชื่อเถอะว่าคุณจะได้มิกเซอร์ที่คุณภาพใกล้เคียงกันโดยที่ประหยัดงบไปได้เยอะทีเดียว = Analog +1

ความสะดวกสบาย

แน่นอนว่าของใหม่ย่อมดีกว่า เพราะการที่กดปุ่มเดียวแล้วสามารถเปลี่ยนเสียงทั้งแผงย่อมดีกว่ามาใช้มือเลื่อนขึ้นเลื่อนลงทีละจุดอยู่แล้ว จริงอยู่ว่าอนาล็อคมิกเซอร์ก็มีระบบเลื่อนทั้งแผง แต่ผู้ใช้ต้องควบคุมเสียงหรือ Output ให้เป๊ะ แตกต่างจากดิจิตอลที่”จัดให้” กันแบบชิลๆไปเลย ถ้าใครชอบความสะดวกสบายแล้ว เดินตามโลกไปเลยครับ เค้าผลิตมาเพื่อให้มนุษย์เราสบายขึ้นอยู่แล้ว = Digital +1

เสียง

สำหรับมิกเซอร์เสียงถือเป็นเรื่องสำคัญ ตรงนี้ขอบอกว่าอนาล็อคมิกเซอร์จะได้เปรียบอยู่เล็กน้อย เพราะสามารถปรับแต่งให้ตรงตามความต้องการได้เลย ต่างดิจิตอลที่มักจะมีระบบเสียงที่”เซ็ทมาแล้ว”ไว้ให้ ซึ่งอาจจะไม่ตรงกับที่ชอบนัก หากมาปรุงแต่งเองก็จะยุ่งยากเข้าไปอีก หรือถ้าดิจิตอลมิกเซอร์จะเอาการควบคุมเสียงหลายแบบก็มีราคาสูง นี่จึงเป็นสาเหตุหลักให้หลายคนยังใช้อนาล็อคมิกเซอร์กันอยู่ = Analog +1

ความยากง่าย

ตรงนี้ก็อย่างที่เราเกริ่นกันไปแล้วว่าขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละคนเลย เพราะขนาดมืออาชีพที่เล่นมิกเซอร์เป็นประจำยังแตกออกเป็นสองสาย ใครที่ถนัดแบบไหนเขาก็จะใช้แบบนั้น หรือบางโปรแกรมอาจใช้ได้กับรุ่นนี้เค้าก็จะถนัดมิกเซอร์รูปแบบนั้นไปเลย ตรงนี้เพื่อนอาจไปทดลองใช้ของคนอื่นก่อน หรือลองศึกษาดูว่าเราชอบแบบไหน รวมถึงการใช้งานโปรแกรมต่างๆว่าเหมาะกับแบบไหนก่อนตัดสินใจซื้อนะครับ = เสมอ

และนี่คือ 5 เหตุผล รวมถึงคำอธิบายคร่าวๆของมิกเซอร์ทั้งสองแบบนี้ เพื่อนที่สนใจมิกเซอร์คนไหนยังมีข้อสงสัยก็สามารถสอบถามเพิ่มเติมจากทางร้าน Musicarms กันได้ะนะครับ หรือถ้าอยาดจับจองเป็นเจ้าของเพียงแค่คุณเดินเข้าร้านเราก็พร้อมมีมิกเซอร์ทั้งสองแบบรอให้เพื่อนๆเป็นเจ้าของกันอยู่ คิดถึงเครื่องดนตรีเมื่อไหร่ให้คิดถึง Musicarms เพราะเราคือตัวแทนจำหน่ายเครื่องดนตรีคุณภาพแบรนด์ดังระดับโลกทุกๆชิ้นครับ