DI BOX จำเป็นไหม ?
คุณคิดว่า DI BOX จำเป็นไหม ? ในงาน Live Sound ไม่ว่าจะงานขนาดเล็ก หรืองานขนาดใหญ่ DI BOX ถือเป็นอุปกรณ์ที่พบเห็นได้ทั่วไป หลายๆ คนคงเคยได้ยินหรืออาจจะคุ้นๆ ชื่อ DI BOX กันมาบ้าง แล้วเจ้า DIBOX นั้นสำคัญยังไง ? จำเป็นต้องใช้จริง ๆ หรือเปล่า วันนี้ Music Arms จะมาแชร์เรื่องราวของ DI BOX ให้คุณได้อ่านกันครับ
Di Box คืออะไร
DI BOX หรือชื่อเต็ม ๆ คือ “Direct Injection Box” คืออุปกรณ์ที่ใช้ในการแปลงสัญญาณจากสัญญาณแบบ Unbalance ให้เป็นสัญญาณแบบ Balance และยังแปลงค่าความต้านทานในวงจรไฟฟ้าจาก High Impedance ให้เป็น Low Impedance อีกด้วย ทั้ง 2 หน้าที่นี้ถือเป็นหลักของ DI BOX เลยก็ว่าได้ แต่ DI BOX บางรุ่นก็จะมีฟีเจอร์อื่น ๆ ให้คุณได้ใช้งาน ทั้ง PAD สัญญาณ เมื่อสัญญาณมาแรงเกินไปก็สามารถ PAD สัญญาณให้เบาลงได้ หรือจะเป็น ฟีเจอร์ Ground Life หรือใช้สำหรับ ป้องกันกาารเกิด Ground Loop ช่วยลดเสียงจี่ เสียงฮัม ที่ไม่พึงประสงค์ได้ และที่สำคัญ DI BOX ยังสามารถป้องกันไฟฟ้าย้อนอีกด้วยทำให้อุปกรณ์ที่คุณใช้มีความปลอดภัยมากขึ้นอีกด้วย
ทำไม Di Box ถึงต้องแปลงจาก Unbalance ให้เป็น Balance
สำหรับเครื่องดนตรีไฟฟ้าส่วนใหญ่อย่างเช่น กีตาร์ไฟฟ้า กีตาร์เบสไฟฟ้า หรือคีย์บอร์ดไฟฟ้า ส่วนใหญ่จะเป็น Output แบบ Unbalance และสายสัญญาณส่วนใหญ่ที่นักดนตรีเลือกใช้ก็จะเป็นหัว Plug แบบ TS ซึ่งข้อจำกัดของสัญญาณ Unbalance คือไม่สามารถเดินสายสัญญาณในระยะทางที่ไกลกว่า 10 เมตรได้ เพราะสัญญาณจะเกิดการ Loss หรือเกิดการสูญเสียคุณภาพสัญญาณ ในการใช้งานจริง ๆ ยกตัวอย่างเช่น กีตาร์ไฟฟ้า หากใช้สายสัญญาณเกิน 6 ถึง 7 เมตร ก็ Loss แล้วครับ ทีนี้เมื่อสัญญาณเกิดการ Loss สิ่งที่จะเกิดขึ้นก็คือ เสียงเบาลง ความชัดเจนของเสียงลดลง เสียงมีความผิดเพี้ยน และที่สำคัญเกิดสัญญาณรบกวนได้ง่ายอีกด้วย แต่สัญญาาณแบบ Balance นั้นสามารถเดินสาายสัญญาณได้ไกลกว่า 10 เมตร ซึ่งในงาน Live Sound นั้นต้องเดินสายสัญญาณเป็นระยะทางที่ไกล รูปแบบสัญญาณแบบ Balance จึงตอบโจทย์มากกว่า และสัญญาณแบบ Balance ยังไม่มีเสียงรบกวน หรือ Noise อีกด้วย
ทำไม Di Box ถึงต้องแปลงจาก High Impedance ให้เป็น Low Impedance
วงจรไฟฟ้าอย่างเช่น Pick Up ที่ใช้รับเสียงพวก กีตาร์ไฟฟ้า หรือกีตาร์เบสไฟฟ้า ด้านในจะเป็นขดลวดพันรอบแกนแม่เหล็ก ยิ่งพันหลาย ๆ รอบ ความต้านทานทางไฟฟ้า ก็จะยิ่งสูงขึ้นตาม ดังนั้น เครื่องดนตรีไฟฟ้าอย่าง กีตาร์ไฟฟ้า หรือกีตาร์เบสไฟฟ้า จึงมีความต้านทานในวงจรไฟฟ้าที่สูงเป็นธรรมชาติ แต่ปัญหาไม่ได้อยู่ที่ เครื่องดนตรีมีความต้นทานสูง แต่เป็น Input ของ Mixer ธรรมชาติของ Mixer ในช่อง Input จะมีค่าความต้านทานเป็น Low Impedance ดังนั้น เมื่อนำเครื่่่องดนตรี High Impedance ไปต่อช่อง Input ของ Mixer โดยตรงจะทำให้ ค่าความต้านทานของ 2 อุปกรณ์นั้นไม่เท่ากัน ทำให้เสียงที่ได้จะมี 2 กรณี คือ ไม่ดังจน Peek ก็ เบาเกินไป เพราะสัญญาณเสียง 100 % สามารถผ่านไปถึงปลายทางได้ไม่ถึง 100% อาจจะ 20 %- 30% ขึ้นอยู่กับความห่างของค่า Impedance ระหว่างอุปกกรณ์
สรุป
DI BOX นั้นมีควาามจำเป็นไม่ว่าคุณจะเล่น กีตาร์ กีตาร์เบส หรือคีย์บอร์ด เพราะ ต้อง Matching Impedance ระหว่างอุปกรณ์ให้เข้ากัน และสามารถทำงานร่วมกันได้ และแปลงรูปแบบสัญญาณเป็นแบบ Balance เพื่อการเดินสัญญาณในระยะทางที่เกิด 10 เมตร และลดปัญหาเสียง Noise อีกด้วย ต่อให้ Multi – Effect ของคุณจะมีช่อง XLR Balance Di Box ก็ยังคงจำเป็นอยู่ดีเพราะ Multi-Effeect แทบจะทุกตัวนั้นไม่ได้กันไฟย้อน แต่ Di Box นั้นกันไฟย้อน ช่วย Save อุปกรณ์ของคุณจากระบบไฟภายในงาน สุดท้ายนี้ คุณคิดว่า DI BOX จำเป็นไหม ?
หากคุณสนใจ DI BOX สามารถเข้ามาทดลองได้ที่ Music Arms ทั้ง 11 สาขา หรือสั่งซื้อผ่านช่องทางออนไลน์ต่าง ๆ ของ Music Arms ได้ทุกช่องทาง หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์กับคุณนะครับ สวัสดีครับ