แอมป์ Amplifier
แอมป์ Amplifiers
เรามีแอมป์ ทั้งแอมป์กีต้าร์โปร่ง กีต้าร์ไฟฟ้า เบส กลอง คีย์บอร์ด ตั้งแต่ราคาไม่ถึง 1พัน ถึงหลายหมื่นบาท เรายินดีแนะนำแอมป์ที่เหมาะกับการใช้งานของคุณที่สุด
- ประวัติแอมป์
- แอมป์เหมาะกับใคร
- การดูแลรักษาแอมป์
- แบรนด์แอมป์ที่แนะนำ
- วิธีการเลือกซื้อแอมป์
- ทำไมถึงต้องเลือกซื้อแอมป์
แอมป์ Amplifiers ในภาษาอังกฤษ หมายถึงตัวขยายสัญญาณไฟฟ้าโดยภายในตู้แอมป์นั้นจะเป็นวงจรอิเล็คทริคส์โดยการใช้พลังงานจากแหล่งจ่ายไฟและการควบคุมสัญญาณเอาต์พุทให้มีรูปร่างเหมือนสัญญาณอินพุท แต่มีขนาดใหญ่กว่า มียี่ห้อดังมากมาย เช่น Fender, Marshall, Vox, Fishman, Blackstar, Laney, Peavey, Boss, Orange, Roland, Yamaha, Line 6, Tech 21, Kardon
แบรนด์แอมป์ที่แนะนำ
Fender แบรนด์ที่มีชื่อเสียงโด่งดังจากการผลิตกีต้าร์ โดยแอมป์กีต้าร์นั้นก็ถทอเป็นสินค้าหลักของทาง Fender เช่นกัน เพราะทำการผลิตแอมป์มาตั้งแต่ปี 1963 เรียกว่าควบคู่มากับกีต้าร์เลย ปัจจุบันก็มีรุ่นดังมากมาย เช่น Fender Champion-100 แอมป์ไซด์จัมโบ้จากค่าย Fender ที่มาพร้อมความกระหึ่มด้วยดอกลำโพงขนาด 12 นิ้วจาก Fender ถึง 2 ตัวด้านใน และกำลังไฟ 100 วัตต์
Marshall แบรนด์แอมป์ชื่อดังเก่าแก่จากอังกฤษที่ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 1962 หลายคนน่าจะคุ้นเคยกันดีเพราะเวลทีคอนเสิร์ตระดับโลกหลายเวทีต่างเลือกใช้แอมป์ Marshall ทั้งนั้น เพราะคุณภาพที่ยอดเยี่ยม ให้เสียงที่สมบูรณ์แบบ มีรุ่นยอดนิยม เช่น Marshall DSL40CR แอมป์หลอดแก้วคุณภาพสุดยอดจากแบรนด์ดังอย่างมาร์แชล รุ่นนี้ใช้หลอดเกรดดีๆอย่าง ECC83 ในภาคปรีแอมป์ถึง 4 หลอด ซึ่งคาแรคเตอร์ของหลอดนี้คือความสดใสของเสียง จึงมั่นใจได้ว่าเสียงกิ๊งใสกังวานสมราคาอย่างแน่นอน
Vox แบรนด์จากประเทศอังกฤษที่มีอายุมากกว่า 60 ปี เนื่องจากก่อตั้งในปี 1957 ก่อนที่ปัจจุบันจะมาจับมือกับ Korg ถูกใช้งานโดย The Beatles, The Rolling Stones มาแล้ว จุดเด่นของแอมป์ Vox คือการจำลองเสียงแอมป์รุ่นอื่นๆ และเป็นเจ้าแรกๆที่แหวกแนวทำแอมป์ปลั๊กสำหรับซ้อมส่วนตัวซึ่งให้เสียงตามแนวเพลง เช่น Vox amPlug2 V2 Classic Rock ซาวด์แบบคลาสสิคร็อคโบราณ เป็นซาวด์แบบเกาะอังกฤษในสมัยวงเดอะบีทเทิ่ลโด่งดัง จำลองมาจากแอมป์ Vox 100W ให้เสียงที่เป็นเอกลักษณ์
Blackstar แอมป์สัญชาติอังกฤษ ที่เปิดตัวในปี 2009 โดยผู้บริหารที่แนกตัวออกมาจาก Marshall ด้วยความที่มีประสบการณ์ในการทำแอมป์มาก่อน ทำให้แอมป์ของ Blackstar นั้นมีคุณภาพสูงโดยที่ราคาถือว่าย่อมเยาคุ้มค่า จุดเด่นจะเป็นเรื่องฟังก์ชั่นการใช้งานต่างๆรวมถึงเอฟเฟคที่มีติดมาให้แทบทุกรุ่น มีรุ่นยอดนิยม เช่น Blackstar Fly 3 Bluetooth แอมป์ราคาถูกสามารถพกพาไปได้ในทุกสถานที่ ตัวแอมป์เป็นระบบ Solid State ให้เสียงแน่น กำลังขับ 3 วัตต์พร้อมลำโพงในตัวขนาด 3 นิ้ว สามารถจัดงานปาร์ตี้ขนาดย่อมได้สบาย
Boss แบรนด์ดังที่สร้างชื่อมาจากการผลิตเอฟเฟค ซึ่งเมื่อแตกไลน์มาทำแอมป์กีต้าร์ย่อมต้องมีจุดเด่นในเรื่องของเสียงเอฟเฟคอย่างแน่นอน แอมป์กีต้าร์ของ Boss ทุกรุ่นจะมีเอฟเฟคมาให้และเป็นซาวด์ที่ผ่านการการันตีโดยนักดนตรีอาชีพมาทั้งสิ้น มีรุ่นดังอย่าง Boss Katana -100 MkIIซีรี่ย์ Katana สุดฮิตที่ครองใจมือกีต้าร์มาอย่างยาวนาน พร้อมเอฟเฟคในตัวหลักๆถึง 5 แบบ ใช้งานได้หลากหลาย
ประวัติความเป็นมาของแอมป์
แอมป์มีหลายประเภทตามเครื่องดนตรีได้แก่ แอมป์คีย์บอร์ด, แอมป์กีต้าร์ไฟฟ้า, แอมป์กีต้าร์โปร่ง และ แอมป์เบส นอกจากนี้แล้วการเรียกประเภทแอมป์ยังเรียกตามวัสดุที่นำมาผลิตได้อีกเช่นกัน เช่นแอมป์หลอดแก้ว เป็นแอมป์ที่ใช้หลอดแก้วเป็นตัวขยายสัญญาณเสียง นิยมใช้มาตั้งแต่ยุคโบราณมีข้อดีคือเสียงที่ได้มาจะเป็นธรรมชาติและค่อนข้างใสกังวาน หรือแอมป์แบบตัวขยายสัญญาณแบบแม่เหล็ก (ที่รู้จักกันว่าเป็น “แม็กแอมป์”) เป็นอุปกรณ์แม่เหล็กไฟฟ้าเพื่อขยายสัญญาณไฟฟ้า ถูกคิดค้นในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 และถูกนำมาใช้เป็นทางเลือกแทนแอมป์หลอดสูญญากาศเมื่อต้องการความทนทานและความจุกระแสสูง ปัจุุบันก็มีหลายบริษัทที่ผลิตแอมป์แต่ละชนิดตามการใช้งาน ซึ่งแต่ละแบรนด์นั้นก็จะมีจุดเด่นที่แตกต่างกันไปให้นักดนตรีเลือกตามความชอบ
แอมป์หลอดกับแอมป์ Modeling แตกต่างกันอย่างไร
เรารู้กันดีว่า แอมป์หลอด ให้เสียงที่มือกีตาร์ทุกคนชื่นชอบและให้การยอมรับ แต่มาในยุคนี้ก็มี แอมป์ Modeling ที่ผลิตออกมาให้เสียงที่คล้ายแอมป์หลอดโผล่ขึ้นมา หลายคนมีคำถามให้หัวมากมายว่า แอมป์หลอด กับ แอมป์ Modeling ต่างกันขนาดไหน และจะเลือกซื้อแบบไหนดี
- เสียง
แอมป์หลอด จะให้เสียงที่ อุ่น มีฮาโมนิกชัด และการตอบสนองต่อการเล่นที่เป็นธรรมชาติ โดยคาเลคเตอร์จะแตกต่างกันไปตามชนิดของหลอดที่ใช้
แอมป์ Modeling ออกแบบมาให้เสียงคล้ายกับแอมป์หลอด แม้การตอบสนองต่อการเล่นจะไม่ดีเท่า แต่สามารถปรับ คาร์เลคเตอร์ของเสียงได้หลากหลายกว่า - กำลังขับ
แอมป์หลอด จะมีกำลังขับที่มาก แม้จะมีวัตต์น้อยก็ตาม
แอมป์ Modeling มีกำลังขับน้อยกว่าแอมป์หลอดในวัตต์ที่เท่าๆกัน - การดูแลรักษา
แอมป์หลอด ต้องได้รับการดูแลรักษาที่มากกว่าแอมป์ปกติ โดยเฉพาะตัวหลอด ที่เกิดความเสียหายได้ง่ายที่สุด
แอมป์ Modeling ใช้การดูแลรักษาทั่วไป - เอฟเฟคในตัว
แอมป์หลอดโดยทั่วไป จะมีเป็นเอฟเฟคพื้นฐานมาให้ เช่น เสียงแตก Reverb เป็นต้น
แอมป์ Modeling จะมาพร้อมกับเสียงเอฟเฟคให้เลือกใช้มากมายไม่ว่าจะเป็นเสียง modulation delay หรือFX อื่น รวมทั่งเสียงแตกแบบต่างๆด้วยเหมาะกับใคร
แอมป์หลอด เหมาะกับคนที่ ทำห้องอัด หรือคนที่ต้องการเสียงกีตาร์ที่ วอร์ม มีการตอบสนองที่ดี
แอมป์ Modeling เหมาะกับการใช้งานฝึกซ้อม หรือหาเสียงที่เราชอบเพราะมีเอฟเฟคให้เลือกเยอะ
แอมป์เหมาะกับใคร
- ผู้ที่ต้องการเครื่องขยายเสียงให้กับเครื่องดนตรีที่ใช้งาน เช่นกีต้าร์ไฟฟ้าหรือกีต้าร์โปร่ง
- การจัดเวทีคอนเสิร์ตที่ต้องการพลังเสียงอย่างมากเพื่อกระจายถึงผู้ฟังในทุกจุด
การดูแลรักษาแอมป์
- ทุกครั้งที่เลิกใช้งานให้ปิดสวิทช์ Power แอมป์ก่อนจะถอดปลั๊กเพื่อป้องกันไฟกระชาก
- ก่อนเปิดแอมป์พยายามลด Volume ให้อยู่ในระดับต่ำที่สุดก่อนแล้วค่อยๆเร่งเสียงไปถึงจุดที่ต้องการ
- ควรเคลื่อนย้ายแอมป์ด้วยความระมัดระวัง หากมีการกระแทกหนักๆอาจส่งผลต่อระบบภายในแอมป์ได้
- ไม่ควรเอาน้ำหรือเครื่องดื่มวางบนแอมป์ เพราะอาจเกิดอุบัติเหตุทำให้แอมป์เสียหายได้
- พยายามหลีกเลี่ยงการใช่เครื่องมือที่เกี่ยวข้องกับคลื่นแม่เหล็กหรือการวางโทรศัพท์มือถือไว้ใกล้แอมป์ เพราะคลื่นแม่เหล็กหรือคลื่นโทรศัพท์จะมีผลทำให้ลำโพงแอมป์เสื่อมสภาพไว
วิธีการเลือกซื้อแอมป์
- เลือกแอมป์ที่มีกำลังวัตต์เพียงพอต่อความต้องการในการใช้งาน ซึ่งส่วนมากกำลังวัตต์ของแอมป์จะหมายถึงระดับเสียงสูงสุดที่ทำได้
- คาแร็คเตอร์เสียงของแอมป์แต่ละยี่ห้อจะแตกต่างกันไป ดังนั้นการเลือกซื้อแอมป์ควรจะศึกษาก่อนว่าแต่ละแบรนด์ลักษณะเสียงเป็นอย่างไร หรือจะให้ดีควรไปลองเสียงที่ร้าน
- ปัจจุบันแอมป์ทั้งกีต้าร์โปร่งและไฟฟ้าจะมีฟังก์ชั่นเสริม เช่น เอฟเฟค หรือการเชื่อมต่อ Bluetooth หากต้องการใช้ฟังก์ชั่นเสริมควรเลือกแอมป์ที่มีสิ่งเหล่านี้
- น้ำหนักและขนาดของแอมป์เป็นสิ่งสำคัญ เพราะแอมป์เป็นอุปกรณ์ที่ต้องขนย้ายอยู่บ่อยครั้ง หากมีขนาดที่เทอะทะมากเกินไปหรือน้ำหนักมากเกินไปอาจทำให้ขนย้ายลำบาก
ทำไมถึงต้องเลือกซื้อแอมป์
- เป็นอุปกรณ์หลักที่ใช้กับเครื่องดนตรีไฟฟ้า ซึ่งหากไม่มีแอมป์เป็นเครื่องขยายเสียงแล้ว เครื่องดนตรีเหล่านั้นก็จะไม่สมบูรณ์
- มีฟังก์ชั่นการใช้งานที่ครบ เพราะนอกจากจะเป็นตัวขยายเสียงแล้ว บางรุ่นยังมีเอฟเฟคในตัว ซึ่งจะเพิ่มทางเลือกในการใช้งานและช่วยประหยัดงบไปได้