Yamaha YCL-450 คลาริเน็ตคุณภาพ

ขายเพียง  60,000฿ จาก  75,000฿

Boss DS-1 Distortion 40th Anniversary เอฟเฟคกีตาร์

ขายเพียง  1,990฿ จาก  2,500฿

Medeli DD-518DX

ขายเพียง  39,200฿ จาก  56,000฿

Timeline เพลงร็อคไทยกับวงดังแห่งยุค Part 3

หลังจากผ่านยุคอัลเทอร์เนทีฟมาแล้ว ทำให้ค่ายเพลงใหญ่เริ่มเล็งเห็นแล้วว่าตลาดดนตรีร็อคเริ่มแพร่กระจายในหมู่คนฟัง ทั้งทางแกรมมี่และ RS จึงหันมาทำวงร็อคมากขึ้น ในช่วงนี้บางวงก็ได้รับอิทธิพล J-Rock จากทางญี่ปุ่นด้วย เช่น วงพีค แต่ผู้จุดกระแสวงร็อคในยุคสมัยนี้ได้แก่ทางคลื่น 91.5 Hot Wave ที่จัดการประกวด Hotwave Music Award ขึ้นมาเพื่อค้นหาวงที่มีฝีมือพอจะทำอัลบั้ม ทำให้เพลงร็อคเป็นที่นิยมในกลุ่มวัยเรียนและวงร็อคหลายๆวงก็มีจุดกำเนิดมาจากเวทีแห่งนี้ ถือเป็นช่วงที่วงร็อคหลายๆวงอยู่ภายใต้สังกัดใหญ่ไม่ใช่ค่ายเล็กๆแบบยุคอัลเทอร์เนทีฟ

 

1998 ลาบานูน

อีกหนึ่งวงดังจากค่ายมิวสิค บั๊กส์ที่ ธเนศ วรากุลนุเคราะห์ เห็นแววตั้งแต่การประกวดฮ็อตเวฟ มิวสิคอวอร์ดครั้งที่ 2 แม้ว่าจะไม่ได้รางวัลใดๆมาเชยชมแต่ก็ได้เซ็นสัญญาทำเพลง โดยสามหนุ่ม เมธี อนันต์ และสมพร เรียนด้วยกันที่โรงเรียนอิสลามวิทยาลัยแห่งประเทศไทย ออกอัลบั้มแรกเมื่อปี 1998 ชุดนมสดมีซิงเกิลเปิดตัวคือ “ยาม” ด้วยซาวด์กีต้าร์แบบอาหรับที่แปลกหูชาวไทยทำให้เพลงนี้ดังไปทั่วประเทศภายในเวลาไม่นาน เพลงชุดแรกของลาบานูนนั้นวงที่เล่นห้องซ้อมต้องแกะกันเกือบทั้งอัลบั้มเพราะดังแทบทุกเพลงจริงๆ ซึ่งในปีต่อมาก็ตามกระแสความแรงด้วยผลงานชุดที่ 2 191 ก็โด่งดังไม่แพ้ชุดแรกเช่นเดียวกัน มีเพลงดังทั้ง 191 และ ถูกทุกข้อ ปี 1998-1999 จึงเป็นช่วงลาบานูนฟีเวอร์ในหมู่นักดนตรีเป็นอย่างมาก ปัจจุบันวงนี้ก็กลับมาทำเพลงอีกครั้งคือเพลง เชือกวิเศษ, แพ้ทาง โดยที่ความนิยมจากแฟนเพลงยังไม่เสื่อมคลาย

 

1999 กะลา

วงดนตรีที่มีเสียงร้องของหนุ่ม ยุทธพงศ์ นักร้องนำเป็นเอกลักษณ์ โดยกะลาเริ่มมาจากการประกวดเวทีฮ็อตเวฟมิวสิคอวอร์ดครั้งที่ 2 และ 3 แม้ว่าพวกเขาจะหยุดแค่รอบ 10 วงสุดท้ายแต่ก็ยังได้ทำเพลงกับค่ายจีนี่ เร็คคอร์ดส์ในเครือแกรมมี่ ทำให้ 4 สมาชิก หนุ่ม (ร้องนำ), โต (กีต้าร์) นุ (เบส) และ รุส (กลอง) มีอัลบั้มแรกเมื่อปี 1999 ในชื่อชุดเดียวกับชื่อวง อัลบั้มนี้แจ้งเกิดทันทีกับเพลง แม่ครับ และ ไม่มาก็คิดถึง ก่อนจะต่อยอดกับอัลบั้มที่ 2 มีเพลงฮิตอย่าง ขอเป็นตัวเลือก ซึ่งเพลงช้าของวงกะลาที่ได้เสียงแหบๆของหนุ่มถ่ายทอดมักจะติดหูคนฟังอย่างรวดเร็ว ไม่ว่าจะเป็น 4 นาที, ใช่ฉันหรือเปล่า ช่วงพีคของวงกะลานั้นมีเพลงฮิตติดชาร์ตเพียบและยังได้ทำอัลบั้มรวม Little Rock Project กับวงร็อคชั้นนำวงอื่นๆ แต่หลังจากอัลบั้มชุดที่ 6 “Minute” วงกะลาชุดก่อตั้งก็ได้แยกย้ายกันไป โดยหนุ่ม นักร้องนำยังคงฟอร์มวงกับสมาชิกใหม่ในชื่อเดิมออกผลงานมาอีก 2 ชุด แต่ปัจจุบันก็ได้กลายเป็นศิลปินเดี่ยวเต็มตัวไปแล้ว

 

2001 แคลช 

วงร็อคฝีมือจัดจ้านที่รวมตัวกันตั้งแต่สมัยเรียนมัธยมที่โรงเรียนราชวินิตบางแก้ว ในพระบรมราชูปถัมภ์เพื่อประกวดฮ็อตเวฟ มิวสิคอวอร์ดครั้งที่ 3 และได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 จึงได้เซ็นสัญญากับค่ายอัพจีในเครือแกรมมี่ แคลชปล่อยทีเซอร์เพลง “กอด” มาเป็นเพลงแรกในปี 2001 ในสไตล์เพลงช้าๆ แต่ก็ชนะใจคนฟังมาได้เรื่อยๆ มีเพลงดังอย่าง “รับได้ทุกอย่าง” อยู่ในอัลบั้มแรก ก่อนที่จะค่อยๆเผยตัวตนในแนวดนตรีหนักๆมากขึ้นในชุดหลังๆ ด้วยเสียงร้องอันเป็นเอกลักษณืของแบงค์ นักร้องนำและซาวด์ดนตรีที่เข้มข้นของ แฮ็ค (กีต้าร์), พล (กีต้าร์), สุ่ม (เบส) และ ยักษ์ (กลอง) ทำให้อัลบั้มทั้งหมด 7 ชุดที่วงออกมาระหว่าง 2001-2010 ได้รับความนิยมทุกชุด แนวเพลงแต่ละอัลบั้มของแคลชถือว่าหลากหลายเพราะเป็นการรวบรวมความคิดมาจากสมาชิกในวง ไม่ว่าจะเป็นแนวฮิพ-ฮ็อพอย่างเพลง “โรคประจำตัว” หรือเพลงหนักๆอย่าง “ค้างคา” ที่ออกมาแล้วได้รับการตอบรับดีมาก ในปี 2010 ก็ได้ประกาศยุบวงแยกย้ายกันไปทำเพลงตามทางของตนเอง แต่ปัจจุบันแฟนเพลงอาจมีข่าวดีเมื่อลือกันว่าแคลชจะกลับมารวมตัวทำเพลงกันอีกครั้ง

 

2001 โปเตโต้ 

วงที่ฟอร์มกันมาจากการถ่ายโฆษณาโค้กโดยมี ปีย์ ปีย์ชนิตเป็นนักร้องนำหลัก ออกอัลบั้มแรกชื่อชุดโปเตโต้ในปี 2001 ซึ่งขณะนั้นเป็นแนวดนตรีป็อปแต่งกายสไตล์นักเรียนญี่ปุ่น แต่หลังจากอัลบั้มแรกก็มีข่าวร้ายเมื่อปีย์เสียชีวิต ทำให้ต้องฟอรมวงกันใหม่โดยมีปั๊ปเป็นนักร้องนำและเปลี่ยนมือเบสมาเป็น โอม รวมถึงเพิ่มวินมาเป็นมือกีต้าร์ ซาวด์ดนตรีในอัลบั้มที่ 2 หนักแน่นและมีกลิ่นอายร็อคมาขึ้นจึงได้รับความนิยมดีขึ้นกว่าเดิม มีเพลงฮิตอย่าง กล้าพอไหม และ ไม่ให้เธอไป วงโปเตโต้เริ่มค่อยๆทำแนวดนตรีในสไตล์ร็อคที่พวกเขาชื่นชอบได้ในอัลบั้มต่อมาเรื่อยๆแต่ก็มีการเปลี่ยนตัวสมาชิกอยู่บ่อยครั้ง ปัจจุบันมือกีต้าร์กลายเป็น หั่ง และมือกลองเปลี่ยนเป็นกานต์ คงสมาชิกไว้ที่ 4 คน และมีผลงานเพลงออกมาถึงปัจจุบัน มีเพลงดังๆทั้ง ไม่รู้จะอธิบายยังไง และ ทิ้งไว้กลางทาง รวมไปถึงผลงานเพลงประกอบละครอีกมากมายและจัดคอนเสิร์ตใหญ่ของตนเองได้ถึง 3 ครั้ง คือ ในปี 2009, 2011 และ 2015

 

2002 อุลตร้าช้วดส์ 

วงดีกรีชนะเลิศฮ็อตเวฟ มิวสิคอวอร์ดครั้งที่ 5 โรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้เซ็นสัญญากับค่าย Mad Catz ในเครือแกรมมี่หลังจากการประกวด โดยอุลตร้าช้วดส์ได้มีอัลบั้มพิเศษ Spicy Kids ร่วมกับอีก 9 วงดนตรี ที่ได้รับรางวัลต่างๆ ในการประกวดฮ็อตเวฟ มิวสิคอวร์ดปีเดียวกัน เพลงหิริโอตัปปะที่พวกเขาร้องก็ได้รับความนิยมค่อนข้างสูงโดยเป็นแนวเพลงเมทัลคอร์ที่ค่อนข้างแปลกใหม่ในสมัยนั้น จนมาถึงอัลบั้มแรกของพวกเขาที่ออกมาเมื่อปี 2002 ชื่ออัลบั้ม Ultra Sound ก็ยังสานต่อความนิยมไว้ได้ดี มีเพลงฮิตอย่าง ไม่เป็นไร และ กล้าขอกล้าให้ ที่แฟนๆชาวร็อคต้องยกนิ้วให้กับฝีมือของวง อุลตร้าช้วดส์ยังได้ร่วมทำอัลบั้มพิเศษ Little Rock Project กับวงร็อคอีก 6 วง ซึ่งเป็นการนำเพลงของวงไมโครมาทำใหม่โดยทางวงได้ขับร้องในเพลง “ตายเปล่า”, “ม้าเหล็ก”, “ดับเครื่องชน” ก่อนจะมีอัลบั้มเต็มที่ 2 ของวงในปี 2005 ชื่อเดียวกับวง แม้ว่าจะมีเพลงฮิตอย่าง เสียแรงเปล่า แต่กระแสความนิยมถือว่าตกลงไปเยอะ จึงเป็นอัลบั้มชุดสุดท้ายของพวกเขา

 

2002 บอดี้สแลม 

วงที่ชนะเลิศจากการประกวดเวทีฮ็อตเวฟ มิวสิคอวอร์ดครั้งที่ 1 จากโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย โดยสมัยนั้นใช้ชื่อวงว่า ละอ่อน ได้ออกอัลบั้มหลังจากการประกวดกับค่ายมิวสิค บัคส์เมื่อปี 1997 แต่หลังจากออกอัลบั้มแรกแล้วนั้น ตูน นักร้องนำก็ได้ออกไปฟอร์มวงใหม่ในชื่อบอดี้แสลม ทำให้วงละอ่อนต้องหานักร้องใหม่ซึ่งได้ ปั้น มาแทน วงบอดี้แสลมออกอัลบั้มแรกกับค่ายมิวสิค บัคส์โดยมีสมาชิก 3 คนคือ ตูน เภา และปิ๊ด ในปี 2002 ชื่ออัลบั้มเดียวกับวง ซึ่งก้ได้รับกระแสที่ดีมีเพลงฮิตอย่าง งมงาย, ย้ำ และสักวันจะดีพอ จึงทำอัลบั้มที่ 2 ในปีต่อมาก็ยังมีเพลงอย่างหวั่นไหว และ ปลายทาง เข้าติดหูคนฟัง จนมาถึงอัลบั้มที่ 3 ที่พวกเขาย้ายไปค่ายจีนี่ เร็คคอร์ดส์ในเครือแกรมมี่ มีการเปลี่ยนสมาชิกวงได้ ยอด และ ชัด มาเพิ่ม โดยที่เภา มือกีต้าร์นั้นออกจากวงไป แนวดนตรีของบอดี้แสลมเริ่มเปลี่ยนมาเป็นร็อคหนักๆมากขึ้น ในขณะที่เนื้อหาของเพลงเริ่มพูดถึงการใช้ชีวิตในมุมมองที่โตขึ้น อัลบั้มที่ 3-5 ของพวกเขาก็ยังได้รับความนิยมเหมือนเดิม มีเพลงฮิตมากมาย เช่น ความเชื่อ, ยาพิษ และยังมีผลงานมาถึงปัจจุบัน

 

2002 ซีล 

วงดนตรีจากมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ สาขาวิชาดุริยางคศาตร์สากล กับ 4 สมาชิก เป๊ก (ร้องนำ), ชุ (กีต้าร์), ป็อก (เบส) และ เคน (กลอง) ที่รวมวงกันเป็นแบ็คอัพให้กับศิลปินดังๆมากมายเช่น ดัง พันกร, อ้อม สุนิสา ก่อนออกอัลบั้ม จนมาเข้าตาค่ายมอร์ มิวสิคในเครือแกรมมี่และได้ทำอัลบั้มแรกในชีวิตเมื่อปี 2002 ชื่อชุด Zeal ในแนวดนตรีร็อคแต่มีซาวด์ของซินธิไซเซอร์หรือเครื่องสังเคราะห์เสียงมาใช้มากกว่าวงอื่น เพลงเปิดตัว เหวี่ยง ทำให้คอร็อคบ้านเราหันมาสนใจวงนี้กันทันที ต่อเนื่องกันด้วยเพลงโง่เขลาที่ติดตลาดคนฟัง และมาถึงเพลงสองรักที่กลายเป็นเพลงฮิตที่สุดของวง ทำให้แค่อัลบั้มแรกวงซีลก็แจ้งเกิดได้ในทันที ก่อนที่จะมีผลงานมาทั้งหมด 5 อัลบั้มมีเพลงดังๆเช่น หมดชีวิต(ฉันให้เธอ), พบเพื่อเพียงผ่าน รวมไปถึงการทำ Little Rock Project นำเพลงวงไมโครมาร้องใหม่ ปัจจุบันเพิ่มสมาชิกใหม่คือ ศิลา มือกีต้าร์ แต่ผลงานของวงซีลในช่วงหลังจะเน้นไปที่เพลงประกอบละครซะมากว่า

 

2003 เรโทรสเปกต์ 

วงดนตรีแนวเมทัลที่เริ่มจาก แน๊ป (ร้องนำ), บอม (เบส), บิ๊ก (กีต้าร์), น็อต (กีต้าร์) มีความในแนวดนตรีร็อคหนักๆเช่นเดียวกันจึงฟอร์มวงขึ้นมาโดยใช้ชื่อว่า “Retrospect” ในช่วงแรกนั้นเล่นตามงานเล็กๆก่อนที่ บิ๊ก จะไปศึกษาต่อที่ต่างประเทศ แต่ได้ เบิร์ธ (มือกลอง) มาเพิ่ม ทำให้สมาชิกที่เหลืออีก 4 คนยังคงเล่นดนตรีต่อไปและได้รับการชักชวนจาก ต้น ดีเซมเบอร์ ให้ออกอัลบั้มจึงมีผลงานมินิอัลบั้มเมื่อปี 2003 ชื่อชุด E.P. For Your Ears Only ซึ่งได้รับความนิยมสูงมาก ขึ้นคอนเสิร์ต Fat Festival ครั้งที่ 3 ก่อนจะไปเข้าตาค่ายจีนี่ เร็คคอร์ดส์ทำซิงเกิ้ลเพลง “ไม่มีเธอ” ออกมาเมื่อปี 2004เหมือนเป็นการโยนหินถามทาง เมื่อรู้ว่ามีกลุ่มแฟนเพลงตอบรับดนตรีสไตล์นี้ เรโทรสเปกต์จึงมีอัลบั้มเต็มครั้งแรกเมื่อปี 2007 ในชื่อ อัลบั้มว่า อันลีชท์ (Unleashed) ส่งเพลงดังๆอย่าง เพราะว่ารัก, ปล่อยฉัน เข้าติดหูคนฟังทันที จึงมีผลงานออกมาจนถึงปัจจุบันอีก 3 อัลบั้ม มีเพลงฮิตมากมายทั้ง เหนื่อยไหมหัวใจ, ศรัทธาแห่งรัก ครองใจผู้ฟังอย่างต่อเนื่อง

 

2003 สวีตมัลเล็ต 

วงที่ทำเพลงกันเองโดยมีเต๋า อดีตนักร้องนำวง napkin และ วีน รุ่นน้องของวงอีโบล่ารวบรวมสมาชิกทำวงกันขึ้น โดยออกมินิอัลบั้มชื่อชุด Panaphobia ในปี 2003โดยเน้นเปิดเพลงทาง 104.5 Fat Radio คลื่นที่สนับสนุนค่ายเพลงเล็กๆ ทำให้ชื่อของสวีตมัลเล็ต เริ่มเป็นที่รู้จักมากขึ้น จนปี 2004 ได้เซ็นสัญญากับค่ายจีนี่ เร็คคอร์ดส์ในเครือแกรมมี่ทำซิงเกิ้ลเพลง “ตอบ” กับวงอื่นๆเช่นเรโทรสเปกต์และได้รับความนิยมพอสมควร จึงค่อยๆมีกระแสมากขึ้นและเป็นวงเปิดให้กับศิลปินอื่นๆเช่น บอดี้สแเลม ในปี 2007 พวกเขาก้ได้มีอัลบั้มเต็มอัลบั้มแรกของตนเองขึ้นมาชื่อชุด Light Heavyweight มีเพลงฮิตอย่าง “หลอมละลาย” “หลับข้ามวัน” และ “เพลงของคนโง่” ติดหูคนฟังทันที ก่อนจะมีผลงานชุดที่ 2 ในอีก 3 ปีต่อมาชื่อชุด Sound of Silence ก็ยังมีเพลงดัง “สภาวะหัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน” เข้าสู่กลุ่มคนฟัง ทำให้ได้รับการยกย่องในฝีมือว่าเป็นวงที่เล่นสดได้ดีและเข้าถึงอารมณ์เพลง

 

2004 โซคูล 

วงที่มีความเป็นเอกลักษณ์โดยเริ่มจากสมาชิกอย่าง โจ๊ก (กีต้าร์,ร้องนำ) และ มาร์ช (กลอง) กับ แจน (กีต้าร์) และ เจมส์( เบส) 2 คู่พี่น้องแท้ๆ 2 ครอบครัวตั้งวงขึ้นมาโดยมีวงโลโซเป็นไอดอล วงเริ่มจากการเดินสายประกวดตามเวทีต่างๆจนมาถึงเวทีการประกวดถ้วยพระราชทานชิงแชมป์ประเทศ ซึ่งวงโซคูลติด 1 ใน 10 วงสุดท้ายจนได้เซ็นสัญญาเข้าสังกัดอัพจีในเครือแกรมมี่ มีอัลบั้มเต็มครั้งแรกเมื่อปี 2004 ในชื่อชุด So Cool สงเพลงคนเจียมตัวติดหูคนฟังอย่างรวดเร็ว จึงได้ทำอัลบั้มที่สองต่อเนื่องในปี 2005 ชื่อชุด So Hot และกระแสการตอบรับถือว่าดีกว่าเดิม มีเพลงฮิตอย่าง เลี้ยงส่ง ที่ร้องกันได้ทั่วบ้านทั่วเมือง ทำให้วงโซคูลที่แม้จะเป็นวงร็อคลุคบ้านๆกลับโดนใจคนฟังได้อย่างรวดเร็วด้วยควาหลุดโลก ไม่ว่าจะเป็นมิวสิควีดีโอที่ขี่ควายเน้นความตลก แต่ด้วยฝีไม้ลายมือที่ไม่ธรรมดา วงโซคูลจึงมีปัลบั้มออกมาทั้งหมด 7 ชุดจนถึงปี 2012 ซึ่งได้รับควานิยมทุกชุด ก่อนที่จะยุบวงกันไปเมื่อปี 2015 เพราะโจ๊ก นักร้องนำให้เหตุผลว่าต้องการให้เวลากับครอบครัว

Timeline เพลงร็อคไทยกับวงดังแห่งยุค Part 2

หลังจากหมดยุควงฮาร์ดร็อคหรือวงเมทัลก็จะเข้าอยู่ยุคอัลเทอร์เนทีฟ ในยุคนี้จะมีค่ายเพลงเล็กๆเกิดขึ้นมากมายเพื่อเป็นทางเลือกให้คนฟังเลือกเสพย์เพลงในแนวที่แปลกใหม่ออกไปไม่ซ้ำซากจำเจกับเพลงป็อปตลาดของค่ายใหญ่ เวลานั้นค่ายแกรมมี่ก็จะปั้นนักร้องอย่าง มอส, ทาทา ยัง, UHT ส่วนทางฝั่ง RS ก็จะเป็น ลิฟท์-ออย, แร็พเตอร์ ทำให้กระแสเพลงร็อคไปตกอยู่กับค่ายเล็ก ซึ่งถือเป็นการดีต่อตัวศิลปินเอง เนื่องจากจะได้ทำเพลงที่ตนเองต้องการอย่างเต็มที่ไม่ต้องสนกระแส แต่ก็ถือเป็นดาบสองคมเช่นเดียวกันเพราะค่ายเล็กหลายค่ายต้องยุบลงไปเนื่องจากความอินดี้สูงสวนกับยอดขายที่ต่ำ ค่ายเพลงอย่างเบเกอรี่ก็กำเนิดขึ้นมาในยุคนี้พร้อมกับวงดังอย่างโมเดิร์นด็อกอีกด้วย จนมาช่วงปลายยุค 90 ที่ทางแกรมมี่เริ่มหันมาปั้นวงร็อคอย่างจริงจังเพราะเล็งเห็นว่าตลาดเพลงร็อคเริ่มกลับมาและสามารถขายได้

 

1994 โมเดิร์นด็อก

หลังจากอัลบั้มชุดที่ 1 ของวงหินเหล็กไฟก็ได้มีวงที่จุดประกายเพลงร็อคขึ้นมาอีกครั้งในแนวอัลเทอร์เนทีฟกับค่ายเบเกอรี่ มิวสิคด้วยเนื้อหาที่แปลกแหวกแนวไม่เหมือนใครในเพลงบุษบา ต่างจากเพลงทั่วไปที่จะพูดเกี่ยวกับเรื่องความรัก และฝีไม้ลายมือขั้นเทพแน่นปั๋งกับเครื่องดนตรีแต่ 3 ชิ้นคือ ป็อด ธนชัย (ร้อง), เมธี (กีต้าร์) บ็อบ สมอัตถ์ (เบส) และ โป้ง ปวิณ (กลอง) รวมวงกันประกวดโค้กมิวสิคอวอร์ดเมื่อปี 1992 และได้รางวัลชนะเลิศ ออกอัลบั้มแรกชุดเสิรมสุขภาพในปี 1994 กลายเป็นตำนานของอัลเทอร์เนทีฟไทยไปตั้งแต่เพลงแรกและเป็นวงที่ทำให้ค่ายเบเกอรี่ มิวสิคมีชื่อคุ้นหูนักฟังเพลงอีกเช่นกัน ปี 1994 ทั้งเพลงบุษบา, ก่อน, มานี, กะลา และบางสิ่ง หรือแทบทั้งอัลบั้มวัยรุ่นยุคนั้นร้องกันได้หมด เนื้อหาของเพลงนั้นฉีกแนวเดิมๆของเมืองไทยไปอย่างสิ้นเชิง รวมไปถึงแนวดนตรีที่เปิดโลกทัศน์ใหม่ให้กับวงการเพลงร็อคของไทย ดังนั้นช่วงเวลาปี 1994 คงไม่มีใครเกินวง โมเดิร์นด็อก วงดนตรีที่เป็นสัญลักษณ์ของยุคอัลเทอร์เนทีฟ โดยวงโมเดิร์นด็อกมีผลงานมาทั้งหมด 6 อัลบั้มจนถึงปัจจุบัน ซึ่งหลังจากอัลบั้มที่ 2 ชุดคาเฟ่ ก็ได้มีการเปลี่ยนมือเบสเป็นมือเบสสมทบจากวงอื่นหลายท่าน

 

1994 Y not 7

หนึ่งในวงร็อคดังแห่งยุค 90 ที่มีเอกลักษณ์จากการถือโทรโข่งร้องของเหน่ง นักร้องนำ สมาชิกในยุคแรกเริ่มมี 6 คน คือ เหน่ง (ร้องนำ), กอล์ฟ (เบส), แป๊ะ (กีต้าร์), ก้อย (กีต้าร์), ไก่ (กลอง) และ โต๊ด (คีย์บอร์ด) รวมตัวกันทำวงดนตรีเล่นกลางคืนและทำงานที่บริษัท ORANGE MUSIC ไปด้วย ก่อนจะได้ออกเทปกับค่ายแกรมมี่เมื่อปี 1994 ในชื่อชุด Y not 7 แค่เพลงแรก “ค่อยๆพูด” ก็ส่งให้คนฟังเพลงทั่วประเทศรู้จักกับวงนี้ทันที อัลบั้มชุดแรกประสบความสำเร็จอย่างมากมีเพลงฮิตอย่าง “เกลียดความสงสาร” และ “ทิ้งรักลงแม่น้ำ” ร้องกันได้ทั่วบ้านทั่วเมือง 2 ปีต่อมาก็อัลบั้มที่สองชื่อชุด Six แต่ด้วยเนื้อหาที่หนักขึ้นทำให้ประสบความสำเร็จน้อยกว่าชุดแรก จนมาอัลบั้มที่ 3 ในปี 1998 ที่มีการเปลี่ยนแปลงสมาชิกเนื่องจาก แป๊ะ ต้องย้ายไปอยู่ญี่ปุ่น และ โต๊ด มือคีย์บอร์ดออกจากวงไป จึงได้ เชษฐ์ พิเชษฐ์ เครือวัลย์ เป็นมือกีต้าร์แทน เหลือสมาชิกแค่ 5 คน แต่อัลบั้ม Yeah!ก็กลับมาประสบความสำเร็จไม่น้อยไปกว่าอัลบั้มแรก มีเพลงฮิตอย่าง “Yeah! Yeah!” และ “เรื่องขี้หมา” หลังจากนั้นก็มีอัลบั้มออกมาอีก 2 ชุด ก่อนจะแยกย้ายไปทำเพลงเบื้องหลัง อย่างกอล์ฟ มือเบสก็ไปเป็นโปรดิวเซอร์ให้กับปาล์มมี่ ในอัลบั้ม Stay และ เชษฐ์ มือกีต้าร์ก็ไปเล่นแบ็คอัพให้กับอัสนี-วสันต์

 

1995 สไมล์บัฟฟาโล่

วง”ควายยิ้ม”ที่แจ้งเกิดกับกระแสอัลเทอร์เนทีฟในบ้านเราด้วยเพลงเปิดตัว ดีเกินไป ในปี 1995 ส่งผลให้ 4 สมาชิก ดิษฐ์, เต็น, หนึ่ง และเชษฐ์ ก้าวขึ้นมาเป็นหนึ่งในวงร็อคชั้นนำของบ้านเราทันที อัลบั้มชุดแรกยังมีเพลง ฟ้ายังฟ้าอยู่ หนึ่งในเพลงฮิตตลอดกาลของพวกเขาเช่นเดียวกัน วงสไมล์บัฟฟาโล่ออกเทปกับค่าย EMI มา 2 ชุดก่อนจะย้ายไปค่ายเมคเกอร์เฮดในเครือแกรมมี่และมีผลงานออกมาอีก 3 ชุด มีเพลงฮิตอย่าง จำใจ และ กุหลาบในมือ แม้ว่าช่วงอยู่แกรมมี่จะสามารถคว้ารางวัลวงร็อคยอดเยี่ยมจากสีสันอวอร์ดมาได้ในปี 1999 แต่กระแสความนิยมถือว่าน้อยลงกว่าตอนอยู่ค่ายEMI เพราะแนวเพลงค่อนข้างเบาลงเยอะพอสมควร จนหมดอัลบั้มสุดท้าย สาวชุดดำ ในปี 2000 สมาชิกในวงก็ต้องแยกย้ายกันไป ช่วงแรกนั้นแต่ละคนแยกไปทำอัลบั้มส่วนตัว เช่นดิษฐ์และเต็นไปทำวงชื่อ สไนเปอร์ หนึ่งและเชษฐ์ไปทำอัลบั้มสไมล์ร็อค แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จเหมือนตอนทำวงร่วมกัน ปัจจุบันสมาชิกต่างก็ไปทำงานเบื้องหลังกันแทบทั้งหมด เช่น ดิษฐ์ที่ยังคุ้นหน้ากับการเป็นแบ็คอัพให้ เสก โลโซ ในขณะที่เชษฐ์มือกลองหันหลังให้กับวงการไปทำเกษตรกรรม

 

1995 แบล็คเฮด

วงร็อคหัวดำที่อดีตสมาชิกวงยูเรเนี่ยมในสมัยก่อนอย่าง ปู อานนท์ (กีต้าร์) และ ต๋อง สมทบ (เบส) ออกมาฟอร์มวงใหม่จึงได้ เอก อภิสิทธิ์ มือกีต้าร์จากวงบิ๊กกัน และ ยุ่น วิโรจน์มาตีกลอง ช่วงแรกนั้นยังเล่นดนตรีกลางคืนทั่วไปแต่ก็ไม่ธรรมดาอยู่แล้วเพราะเป็นอดีตนักดนตรีจึงเล่นร็อคผับ ผับชื่อดังที่สุดของชาวร็อค ก่อนที่ชั่วโมงนั้นกระแสเพลงแนวอัลเทอร์เนทีฟกับค่ายเล็กกำลังมา พวกเขาจึงได้ร่วมงานกับค่ายดนตรีเอ็มสแควร์ออกมินิอัลบั้มที่มีแค่ 4 เพลงในปี 1995 ชื่อชุด แบล็คลิสต์ ได้รับกระแสตอบรับที่ดีมากกับเพลงยืนยัน จึงออกอัลบั้มเต็ม 11 เพลงมาในเดือนสิงหาคมปีเดียวกัน ทำให้ชื่อวงแบล็คเฮดเข้าไปอยู่ในใจชาวร็อคหลายคนและต่อยอดด้วยอัลบั้มที่ 2 Full Flavor ในปี 1997 ซึ่งอัลบั้มนี้ทำให้พวกเขาได้รับรางวัลสีสันอวอร์ดถึง 3 รางวัลคือ รางวัล “ศิลปินกลุ่มร็อคยอดเยี่ยม” รางวัล “อัลบั้มร็อคยอดเยี่ยม” รางวัล “เพลงร็อคยอดเยี่ยม” จากนั้นจึงย้ายมาค่ายมอร์ มิวสิคในปี 1999 ทำอัลบั้ม Pure ส่งเพลง ยิ่งโต ยิ่งสวย และ อยู่ไป ไม่มีเธอ ดังเปรี้ยงจนขึ้นแท่นวงร็อคแถวหน้าของประเทศ วงแบล็คเฮด ออกอัลบั้มมาทั้งหมด 8 ชุด ซึ่งชุดล่าสุด White Line ก็เพิ่งปล่อยมาเมื่อปี 2013 กับค่ายสหภาพดนตรี

 

1996 โลโซ

ตำนานนักดนตรี 3 ชิ้นของเมืองไทย โดยเริ่มจากเสก มือกีต้าร์ชาวโคราชที่ตระเวนเล่นผับกลางคืนก่อนจะพบสมาชิกร่วมวงคือ รัฐ และ ใหญ่ ร่วมกันทำเพลงไปนำเสนอกับค่ายมอร์ มิวสิกในเครือแกรมมี่ ตามคำแนะนำของ ศักดิ์สิทธิ์ แท่งทอง จึงได้ออกอัลบั้มแรกในชื่อว่า Lo Society ในปี 1996 แค่เพลงแรก “ไม่ต้องห่วงฉัน” ก็ทำให้คนทั้งประเทศรู้จักกับวงร็อคมากฝีมือวงนี้กันทันที จึงมีอัลบั้มพิเศษประกอบภาพยนตร์เรื่องจักรยานสีแดงในปี 1997 และทำอัลบั้มที่ 2 ของตนเองในปี 1998 ชื่อชุด Entertainment ซึ่งก็ดังไม่แพ้ชุดแรก ส่งเพลง ซมซาน เป็นหนึ่งในตำนานเพลงร็อคไทย และยังมีเพลงช้าซึ่งๆอย่าง อะไรก็ยอม ในช่วงปี 1996 – 2003 นั้นโลโซออกอัลบั้มเต็มมาทั้งหมด 5 ชุด  ซึ่ง 7 ปีทองของโลโซนี้เรียกว่าออกชุดไหนมาก็ดังเปรี้ยงขึ้นชาร์ตอันดับ 1 ตลอดเป็นวงร็อคแม่เหล็กเบอร์ 1 ของค่ายแกรมมี่ที่ทำยอดขายได้เกิน 1 ล้านตลับแทบทุกอัลบั้มที่ออกมา ถือเป็นการคัมแบ็คกลับมาครองตำแหน่งจ้าวเพลงร็อคของค่ายใหญ่แกรมมี่ได้ในรอบหลายปีหลังจากปล่อยให้ค่ายอินดี้ยึดครองในยุคอัลเทอร์เนทีฟมานาน ก่อนที่จะมีข่าวช็อคแฟนๆหลังจากออกอัลบั้มที่ 5 ปกแดง มาได้ 2 ปี เมื่อเสกประกาศยุบวงไปออกอัลบั้มเดี่ยวและมีผลงานจนถึงปัจจุบัน ส่วนรัฐและใหญ่ไปทำวงชื่อ ฟาเรนไฮด์

 

1996 ฟลาย

เป็นวงที่ต่อยอดความสำเร็จทางด้านเพลงร็อคของค่ายแกรมมี่ได้เป็นอย่างดี ด้วยสมาชิก 6 คน คือ แจ็คและเท็น (กีต้าร์), อ็อฟ (เบส), วิน (คีย์บอร์ด), ชาลี (กลอง) มีอี๊ด สำราญ ช่วยจำแนกเป็นนักร้องนำในลุคสกินเฮดแว่นดำจนโด่งดังไปทั่วบ้านทั่วเมือง วงฟลายฟอร์มวงเล่นกันตั้งแต่อยู่ที่เชียงใหม่โดยช่วงแรกตระเวนเล่นกันตามผับที่เชียงใหม่ ก่อนจะเข้ามาเล่นที่กรุงเทพและได้ทำเดโมเทปไปเสนอค่ายเพลง และได้ออกอัลบั้มกับค่ายแกรมมี่ชื่อชุด Fly 12 ปีก ในปี 1996 ส่งเพลง บิน เข้าสู่ใจคนฟังได้อย่างทันที ตามด้วย ใบไม้ เพลงช้าๆที่ได้อารมณ์ ซึ่งนอกจากลุคของนักร้องนำแล้ว ซาวด์ของวงนี้ค่อนข้างเป็นจุดเด่นเพราะมีทั้งคีย์บอร์ดและตัวแจ็ค มือกีต้าร์เองนั้นก็เป็นคนที่ชื่นชอบการใช้เอฟเฟคอีกเช่นกัน วงฟลายมีอัลบั้มที่ 2 ชื่อชุด Fly แมลงเพลง ในปี 1998 ก็มีเพลง พายุในใจและบัวช้ำน้ำขุ่น ที่เป็นเพลงดัง อัลบั้มที่ 3 Fly 2 K ในปี 2000 ก็เป็นอัลบั้มที่ประสบความสำเร็จสูงสุดของพวกเขา สามารถทำยอดขายได้เกิน 1 ล้านตลับและมีเพลงฮิต ชาวนากับงูเห่า ที่ขาร็อคยังร้องได้มาจนยุคนี้ วงฟลายออกอัลบั้มมา 4 ชุดก่อนที่อี๊ดจะแยกตัวไปเป็นนักร้องเดี่ยว อัลบั้มที่ 5 จึงเปลี่ยนนักร้องเป็น เอ็ด อาคม นุชนิล แต่ไม่ประสบความสำเร็จเหมือนเก่า จึงต้องยุบวงแยกย้ายกันไป

 

1996 Paradox

วงร็อคเอนเตอร์เทนจากกลุ่มกลุ่มนิสิตจากคณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยต้าร์ อิทธิพงศ์ เริ่มความคิดจะตั้งวงเพื่อร่วมกิจกรรมภายในมหาวิทยาลัยตั้งแต่ปี 1 จึงชวน สอง สิริริน มาเล่นเบส และได้ โน๊ต พรภัฏ จากคณะนิเทศศาสตร์มาตีกลอง ภายใต้ชื่อวง “หอยจ๊อ” พอขึ้นปี 2 ก็มีความคิดอยากจะออกเทปจึงทำเดโมส่งไปเสนอค่ายต่างๆ โดยขณะนั้นเป็นยุคอัลเทอร์เนทีฟที่ค่ายเพลงเล็กๆผุดขึ้นมามาก จนได้รับการตอบรับจากค่ายอิสเทอร์นสกาย เร็คคอร์ดส พวกเขาจึงได้มีอัลบั้มแรก Lunatic Planet ในปี 1996 มีเพลงดังอย่าง นักมายากล และ ไก่ ติดหูคนฟังด้วยแนวเพลงที่แปลกใหม่ และได้ บิ๊ก ขจัดภัย มาเล่นกีต้าร์เพิ่มอีก 1 ราย น่าเสียดายที่ค่ายอิสเทอร์นสกาย เร็คคอร์ดส ไม่สามารถยืนระยะได้ต้องปิดตัวลงไป ประกอบกับโน๊ตมือกลองแต่งงานและย้ายไปอเมริกา วงพาราด็อกซ์จึงว่างเว้นผลงานไประยะเวลาหนึ่ง มีเพียงอัลบั้มใต้ดิน “แมลงวันสเปน” ที่จำหน่ายแค่ 1000 ม้วนทำออกมา ภายใต้ค่ายเพลงชื่อ ตาต้า เร็คคอร์ดส และอัลบั้ม Paradox & My Friends ซึ่งได้รวมเอาผลงานของเพื่อนๆของสมาชิกในวงเอาไว้ด้วย จนมีโอกาสได้เข้ามาอยู่ค่ายจีนี่ เร็คคอร์ดส์ทำอัลบั้มรวม Intro 2000 กับเพลง ท่ามกลาง ปลุกกระแสคนฟังเรียกร้องให้วงนี้กลับมาออกอัลบั้มอีกครั้ง จึงได้ โจอี้ เสรฐพร มาตีกลอง และเพิ่มตำแหน่งว๊ากเกอร์ คือ เก่ง นัทธา และ ออฟ ชาญณรงค์ เข้ามาในวง อัลบั้มเต็มชุดแรกกับค่ายจีนี่ Summer จึงประสบความสำเร็จอย่างสูง มีเพลงฮิตมากมายทั้ง น้องเปิ้ล, ฤดูร้อน และ ร.ด.Dance จนพาราด็อกซ์กลายเป็นหนึ่งในวงแถวหน้าของเมืองไทย ในปีนั้นเองวงพาราด็อกซ์ก็ได้ออกอัลบั้มใต้ดินชุดสุดท้ายชื่อชุด แค้นผีนรก หลังจากนั้นก็มาออกอัลบั้มกับค่ายใหญ่อย่างเต็มตัวจนถึงปัจจุบัน

 

1996 Dezember

Dezember ก่อตั้งขึ้นเมื่อธันวาคม1993 โดยสยาม ชุมทอง (ต้น) และวรพจน์ สิงห์น้อย (โต้ง) มือกีตาร์และมือเบสในยุคเริ่มต้น โดยที่ทั้งคู่แยกตัวออกมาจากวงดนตรีวงหนึ่งชื่อ Mad Hot ซึ่งเป็นวงดนตรีที่ได้เข้าร่วมการประกวดเป๊ปซี่ มิวสิค เฟสติวัล เมื่อปี 1993 และเป็นวงดนตรีชนะเลิศของปีนั้น ซึ่งต้นได้รับรางวัลมือกีตาร์ยอดเยี่ยม มาทำวงกันเองในนาม Dezember ออกอัลบั้มชุดแรกเป็น EP 4 เพลง “คนโลกแคบ” “อสูรกาย” “เดนสงคราม” และ “ลัทธิซาตาน” ในปี 1994โดยที่ต้นทำหน้าที่ กีตาร์และร้องนำ โต้งทำหน้าที่เบส และกลองใช้เป็นกลองโปรแกรม หลังจากมินิอัลบั้มแรกได้รับการตอบรับค่อนข้างดี ทางวงจึงทำอัลบั้มที่ 2 “วินาศกรรม” ออกมาเมื่อปี 1996 ได้ กุ้ง คำรณฐ์ มร้องนำ และ รัตน์ โกบายาชิ มาตีกลอง ก่อนจะย้ายไปค่าย โซนี่ มิวสิค มีผลงานออกมาอีก 2 ชุด และเปลี่ยนมือกลองเป็น โจ๊ก พีรพัฒน์ ชื่อชุด บาป และ คลั่ง จนปี 1999 ต้นได้ออกจากวงด้วยเหตุผลส่วนตัว สมาชิกส่วนที่เหลือได้เปลี่ยนชื่อวงเป็น โชกุน จั้มป์ โดยยังอยู่กับทาง โซนี่ มิวสิค หลังจากนั้น 2 ปี ต้นได้มีโอกาสพบกับ รัตน์ อดีตมือกลองและมีความคิดจะฟื้น Dezember กลับมาอีกครั้ง จึงได้ เช็ค ณพล มาเล่นเบส และ อ็อฟ นรเทพ มาร้องนำ จึงออกผลงานชุด Naturalism มาในปี 2005 กลับมาเป็นวง Dezember อย่างเต็มตัว หลังจากนั้นก็มีผลงานมาอีก 2 ชุดคือ Spiritual Leader และ Crisis ก่อนจะเปลี่ยนมือกลองเป็น ธน สธน เพราะ รัตน์ โกบายาชิ ย้ายไปตีกลองให้กับวงซิลลี่ฟูลส์

 

1997 บิ๊กแอส

ในช่วงยุคปลายอัลเทอร์เนทีฟนั้น ค่ายเล็กๆหลายค่ายได้เริ่มล้มหายตายจากกันไปตามกำลังทรัพย์ แต่มีค่ายหนึ่งที่ชื่อว่า มิวสิค บั๊กส์ กลับยืนหยัดอยู่ได้เป็นเวลานาน เพราะผู้บริหารค่ายนี้คือ ธเนศ วรากุลนุเคราะห์ ซึ่งเป็นพันธมิตรกับค่ายแกรมมี่ ค่ายนี้จัดว่ามาแรงกับการปั้นศิลปินร็อคในยุคนั้นโดยหนึ่งในวงที่แจ้งเกิดกับค่ายคือ บิ๊กแอส วงที่เริ่มมาจากอ็อฟและหมูสองมือกีต้าร์เพื่อนร่วมชั่นเรียนมัธยมตั้งวงดนตรีขึ้นมา และแยกย้ายไปศึกษาระดับอาชีวะจึงได้รู้จัก แด๊ก (ร้อง) และ ต้น (เบส) จึงฟอร์มวงด้วยกันทำเพลง และได้กบ น้องชายของหมูมาตีกลอง ออกอัลบั้มชุดแรกปี 1997 มีเพลงฮิตอย่างทางผ่าน แต่อัลบั้มที่ทำให้พวกเขาดังเปรี้ยงขึ้นมาจริงๆคือชุดที่ 2 XL เมื่อปี 1999 ที่มีเพลงฮิต ก่อนตาย ด้วยซาวด์ดนตรีที่หนักแน่นขึ้นจึงเข้าสู่กลุ่มคนฟังเพลงร็อคได้มากกว่าเดิม ก่อนจะเปลี่ยนมือเบสเป็น โอ๊ค ในอัลบั้มที่ 3 My World ปี 2003 ก็มีเพลงฮิต ไม่ค่อยเต็ม และ ทิ้งไว้ในใจ อัลบั้มที่ 4 พวกเขาได้ย้ายไปอยู่ค่ายจีนี่ เร็อคคอร์ด ส่งเพลง เล่นของสูง ดังไปทั่วบ้านทั่วเมือง ทำให้บิ๊กแอสได้รับการยกย่องให้เป็นวงร็อคระดับแถวหน้าของไทยทันที หลังจากอัลบั้มที่ 6 Love ก้ได้เปลี่ยนนักร้องนำจาก แด๊ก มาเป็น เจ๋ง แทน แต่วงยังได้รับความนิยมจนถึงปัจจุบัน โดยมีเพลงฮิตช่วงหลังคือ ลมเปลี่ยนทิศ และ ไม่เดียงสา

 

1998 ซิลลี่ฟูลส์

สุดยอดวงร็อคเบอร์ 1 ของประเทศอย่างซิลลี่ฟูลส์ที่ได้ 4 หนุ่ม โต, ต้น, หรั่ง และ เต้ย รวมวงกันทำเพลง ซึ่งก่อนหน้านี้ โตเองเคยเป็นสมาชิกวง Chicken Only วงประจำมหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ (ABAC) ซึ่งชื่อมาจากที่ ไก่ เป็นเนื้อสัตว์ประเภทเดียวที่สมาชิกทุกคนในวงทานได้ เพราะในวงมีทั้งอิสลามที่ไม่ทานหมูและผู้นับถือเจ้าแม่กวนอิมไม่ทานเนื้อ ใช่วงแรกได้ทำเดโมไปเสนอค่ายเบเกอรี่ มิวสิคตั้งแต่ปี 1996 แล้วแต่ได้แค่ออกเป็นชุด E.P ภายใต้ชื่อวง Silly Foolish ต่อมาต้นได้เปลี่ยนชื่อวงจาก Silly Foolish เป็น Silly Fools เนื่องจากเหตุผลที่ว่าชื่อเก่ายาวเกินไป อัลบั้ม E.P ประสบความสำเร็จพอสมควร ก่อนจะมาสร้างตำนานเมื่อย้ายมาออกเทปกับค่ายมอร์ มิวสิคชุด I.Q.180 เมื่อปี 1998 มีเพลงดัง สู้ไม่ได้ และ เมื่อรักฉันเกิด ต่อด้วยชุด 2 Candyman ในปีต่อมา โดยอัลบั้มนี้เปลี่ยนมือกลองมาเป็น ต่อ ต่อตระกูล ใบเงิน ส่งเพลงดังๆอย่าง อย่าบอกว่ารัก, เพียงรัก, ฝัน กระแทกใจชาวร็อคจนยอดขายถล่มทลายและชื่อของวงซิลลี่ฟูลส์ก็รู้จักกันไปทั่วประเทศทันที จนซิลลี่ฟูลส์กลายเป็นวงร็อคที่ดังที่สุดของเมืองไทย อัลบั้มที่ 3 Mint ปี 2000 ก็มีเพลง จิ๊จ๊ะ และ คิดถึง ฮิตติดชาร์ต ส่วนอัลบั้มที่ 4 ก็มีเพลง วัดใจ, บ้าบอ มาให้สาวกได้โยกหัวกันอีก ในช่วงปี 1999-2002 ที่เป็นอัลบั้ม 2-4 ของซิลลี่ฟูลส์ไม่มีวงร็อควงไหนโค่นพวกเขาจากบัลลังก์อันดับหนึ่งได้เลย ด้วยซาวด์ดนตรีมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวอย่างมาก แต่หลังจากอัลบั้มที่ 5 ก็มีข่าวช็อคเมื่อ โต นักร้องนำขอถอนตัวออกจากวงด้วยเหตุผลทางศาสนา ทิ้งบทเพลงดังๆอย่าง วัดใจ, ขี้หึง, จิจ๊ะ ไว้เป็นเพลงตำนาน โดยซิลลี่ฟูลส์ก็ยังมีผลงานจนถึงปัจจุบันแม้จะเปลี่ยนสมาชิกทั้งนักร้องและมือกลองก็ตาม

 

Crafter HDE-200

ขายเพียง  6,400฿ จาก  8,000฿

Crafter HI Lite D

ขายเพียง  10,800฿ จาก  13,500฿