Static-X, Machine (2001)
อัลบั้มที่ 2 ของวง Static-X วงเมทัลจากอเมิรกาที่บินไปอัดเสียงกันที่แคลิฟอร์เนีย ซาวด์ในอัลบั้มนี้มีการเปลี่ยนแปลงจากชุดแรกพอสมควรเนื่องจากใช้ซาวด์อิเลคโทรนิคส์มากขึ้นแต่ตัวดนตรียังหนักแน่นเช่นเดิม อัลบั้มนี้ โคอิชิ ฟุคุดะ มือกีต้าร์ในชุดแรกผันตัวมาเล่นคีย์บอร์ดและเป็นโปรแกรมมิ่งดูแลด้านอิเล็คโทรนิคส์ซาวด์เต็มตัว เนื่องจากวงได้ตัว ทริปป์ เอสเซ่น มาเล่นกีต้าร์แมน โปรโมทด้วย 2 เพลง ที่ปล่อยออกมาติดต่อกันทั้ง This Is Not และ Black and White ได้รับกระแสตอบรับที่ดีเกินคาดและคำชมว่าเป็นเพลงนูเมทัลที่ทำออกมาได้หนักแน่นเข้าถึงอารมณ์ ก่อนที่จะปล่อยเพลง Cold ออกมาตอกย้ำกระแส ซึ่งเพลงนี้คนฟังจะคุ้นหูกันดีเนื่องจากประกอบภาพยนตร์เรื่อง Queen of the Damned อัลบั้มน้กวาดยอดขายไปเกิน 5 แสนชุด และขึ้นถึงอันดับ 11 ในบิลบอร์ดชาร์ต ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องยากมากที่วงนูเมทัลจะมาถึงจุดนี้ได้

Korn, Korn (1994)
อัลบั้มแจ้งเกิดของตำนานนูเมทัลอย่าวง Korn ที่ใช้ชื่ออัลบั้มชื่อเดียวกับวง ออกมาเมื่อวันที่ 11 ตุลาคม ปี 1994 คอนเซปต์ของอัลบั้มค่อนข้างรุนแรงทั้งเรื่องยาเสพติดและเรื่องทางเพศ แต่เพลงเปิดตัว Blind ที่ส่งมาชิมลางเดือนสิงหาคมก่อนจะออกอัลบั้มเต็มกลับได้รับความนิยมเกินคาดในหมู่วัยรุ่นและนักเล่นสเก็ตบอร์ด จนวงต้องบินไปอัดเสียงกันที่แคลิฟอร์เนียเพื่อที่จะทำเพลงเพิ่มให้เต็มอัลบั้มทั้งที่ช่วงแรกนั้นคาดว่าจะมีคนฟังเฉพาะกลุ่มเท่านั้น แต่เมื่อออกอัลบั้มเต็มมากระแสแรงอย่างไม่น่าเชื่อทั้งเพลง Need To และเพลง Clown ฮิตจนขึ้นชาร์ตเพลงตามค่ายวิทยุ ซึ่งเป็นเรื่องแปลกเพราะดนตรีนูเมทัลในขณะรั้นยังไม่ได้รับความนิยมมากนัก แต่อัลบั้มนี้ของวง Korn ฟันยอดขายไปเกิน 10 ล้านชุดทั่วโลก เฉพาะที่อเมริกาก็เกิน 2 ล้านชุดเข้าไปแล้ว จัดเป็นอัลบั้มตำนานของเจ้าพ่อนูเมทัลอย่าง Korn ที่ขึ้นหิ้งไปแล้ว

Linkin Park, Hybrid Theory (2000)
อัลบั้มแรกของ Linkin Park หนึ่งในตำนานนูเมทัล ซึ่งชื่ออัลบั้มมาจากชื่อวงเก่าของพวกเขาก่อนจะเปลี่ยนเป็น Linkin Park เปิดตัวด้วยเพลง “One Step Closer” ก็เรียกเสียงฮือฮาด้วยการเข้าบิลบอร์ดชาร์ตในอันดับ 75 ก่อนจะปล่อยเพลง “Crawling” และ “Papercut” ออกมาตอกย้ำความสำเร็จกับซาวด์ดนตรีที่หนักแน่นและเสียงร้องแร๊พเท่ๆของเชสเตอร์และไมค์ ชิโนดะ และก็มาถึงซิงเกิ้ลที่ 4 เพลง In the end เพลงที่ส่งให้พวกเขาขึ้นแท่นวงนูเมทัลระดับแถวหน้าของโลก ขึ้นอันดับ 2 ในบิลบอร์ดชาร์ตและอันดับ 1 ในอีกหลายประเทศ อัลบั้มนี้ดังแทบทุกเพลงถือเป็นวงนูเมทัลที่โด่งดังในวงกว้างที่สุด ฟันยอดขายไปถึง 30 ล้านชุดทั่วโลกและถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลแกรมมี่อวอร์ดอีกด้วย

Slipknot, Slipknot (1999)
อัลบั้มเปิดตัวของวงนูเมทัลอันมีเอกลักษณืคือใส่หน้ากาก สำหรับอัลบั้มนี้พวกเขายังเพิ่มความแหวกแนวด้วยการใส่ชุดนักโทษทั้งวงอีกด้วย เปิดตัวด้วยเพลง WAIT AND BLEED ในแนวเมทัลขนานแท้ซาวด์ดนตรีดิบเถื่อนและมีการทำเสียงคำรามหรือว๊าก ต่อด้วย Slip it out มาให้เหล่าสาวกโยกหัวกันอย่างเมามันส์ เพียงแค่ 2 เพลงก็ทำให้ชื่อของวง Slipknot ขึ้นแท่นวงนูเมทัลหน้าใหม่ที่ต้องจับตามองในขณะนั้น อัลบั้มนี้สามารถขึ้นถึงอันดับ 51 ในบิลบอร์ดชาร์ต ซึ่งตามปกติแล้วแค่แนวดนตรีเมทัลจะขึ้นชาร์ตเพลงยังยาก แต่กระแสของ Slipknot แรงจนฉุดไม่อยู่จริงๆ และคว้ารางวัลยอดขายแพลตตินั่มในอเมริกา รวมไปถึงได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงแกรมมี่อวอร์ดสาขาวงเมทัลยอดเยี่ยมอีกเช่นกัน

Slipknot, Iowa (2001)
อัลบั้มที่ 2 ของวงนูเมทัลที่มีเอกลักษณืคือการสวมหน้ากาก หลังจากทำให้โลกประจักษ์ถึงความดิบเถื่อนในชุดแรกแล้ว ทางวงก็ได้พัฒนางานเพลงของพวกเขาอย่างต่อเนื่อง และนี่คืออัลบั้มที่ว่ากันว่าดีที่สุดของพวกเขา เริ่มด้วยการเพิ่มสมาชิกในวงเป็น 9 คน ได้ตัว โจอี้ ยอร์ดิสัน มาตีกลอง และ พอล เกรย์ มาเล่นเบส ไปอัดเสียงกันที่ลอสแองเจลิส ชื่ออัลบั้ม IOWA นั้น เอามาจากชื่อเมืองอันเป็นบ้านเกิดอันที่รักของสมาชิกในวง ซึ่งชื่อเมือง IOWA นี้ ตั้งตามชื่อของเผ่าอินเดียนแดงเผ่าหนึ่งที่ชื่อ IOWA นั่นเอง เปิดตัวซิงเกิ้ลแรกด้วยเพลง Left Behind กลายเป็นเพลงที่โด่งดังที่สุดของพวกเขาและขึ้นอันดับชาร์ตเพลงทันที อัลบั้มนี้แนวเพลงพูดถึงเรื่อง บาป และ ซาตานอย่างชัดเจน มีการลือว่า Slipknot เป็นพวกบูชาซาตาน โดยตีความจากเนื้อเพลง HERETIC ANTHEM ในท่อนที่ร้องว่า “IF YOU’RE 555 THEN I’M 666” เนื่องจาก 666 เป็นเลขแทนความหมายของซาตาน อย่างไรก็ตามสำหรับสาวกนูเมทัลแล้ว อัลบั้มนี้จัดว่าขึ้นหิ้งและต้องหามาฟังอย่างยิ่ง

Limp Bizkit, Three Dollar Bill, Y’all (1997)
งานเดบิวต์ของวง”แร๊พร็อค”อเมริกันในชื่อวง Limp Bizkit ปล่อยออกมาเมื่อวันที่ 1 กรกฎาคมปี 1997 สร้างความแปลกใหม่ให้กับวงการเพลงทันทีเพราะผสมผสานดนตรีร็อคกับท่อนแร๊พได้อย่างลงตัว อัลบั้มนี้ได้ รอสส์ โรบินสัน โปรดิวเซอร์วง Korn มาทำเพลงให้ ดังนั้นแนวดนตรีจึงเป็นเมทัลขนานแท้ เปิดตัวด้วยเพลง “Counterfeit” ถูกจริตชาวนูเมทัลเป็นอย่างมาก ก่อนจะมาเปรี้ยงปร้างกับเพลง “Faith” ที่เปลี่ยนอารมณ์เพลงจากกีต้าร์เบาๆในช่วงต้นเพลงมาเป็นฮาร์ดคอร์สุดเจ๋งผสมผสานกับเทิร์นเทเบิ้ลได้ลงตัว ขึ้นที่ 22 บิลบอร์ดชาร์ตและคว้ารางวัลนักร้องหน้าใหม่ยอดเยี่ยม รวมไปถึงกวาดยอดขายระดับดับเบิ้ลแพลตตินั่ม

Limp Bizkit, Chocolate Starfish and the Hot Dog Flavored Water (2000)
หลังจากเปิดตัวได้สวยงามกับสองอัลบั้มที่ผ่านมา วง Limp Bizkit ก็ออกอัลบั้มที่ 3 ในปี 2000 ซึ่งว่ากันว่านี่คืออัลบั้มที่ประสบความสำเร็จสูงสุดของพวกเขา สามารถทะยานขึ้นอันดับ 1 บิลบอร์ดชาร์ตอย่างที่ไม่เคยมีวงนูเมทัลวงไหนทำได้ และทำยอดขายเกิน 1 ล้านชุดในสัปดาห์แรกที่วางแผงเท่านั้น แค่ซิงเกิ้ลแรก “Take a Look Around” ก็ทำให้เหล่าสาวกเฮลั่นกับการคัมแบ็ค ก่อนจะต่อด้วยเพลง “My Generation” ที่กลายเป็นเพลงโด่งดังที่สุดของวงถึงขนาดคนที่ไม่ได้ฟังเพลงแนวนี้ยังเคยได้ยิน นอกจากนี้ยังมีเพลง “Rollin'” ให้โยกหัวกันอย่างถึงใจกับซาวด์ดนตรีอันเป็นเอกลักษณ์ งานเพลงชุดนี้ไม่ได้นิยมกันแค่กลุ่มนูเมทัลแต่โด่งดังไปทั่วโลก ทำยอดขายได้รวมเกิน 10 ล้านชุด

Papa Roach, Infest (2000)
งานชุดที่ 2 ของวงร็อคอเมริกัน ก่อนหน้านี้เคยออกผลงาน Old Friends from Young Years ในปี 1997 แต่ได้รับความนิยมเฉพาะกลุ่มเท่านั้น อัลบั้มที่ 2 นี้จึงมีการปรับแนวดนตรีให้เข้าถึงตลาดกันเล็กน้อย เปิดตัวด้วยเพลง “Last Resort” ได้รับความนิยมเกินคาดขึ้นถึงอันดับ 57 ในบิลบอร์ดชาร์ต ทำให้วงการดนตรีรับรู้ว่ามีวงนูเมทัลที่น่าจับตามองเกิดขึ้นแล้ว ต่อเนื่องด้วยเพลง “Broken Home” และ “Between Angels and Insects” ก็ได้รับการตอบรับที่ดีเยี่ยมจากผู้ฟัง เรียกว่าการเปลี่ยนแนวเพลงประสบความสำเร็จอย่างสูง อัลบั้มนี้ขึ้นสูงสุดถึงอันดับ 5 ในบิลบอร์ดชาร์ต และทำยอดขายได้เกิน 7 ล้านชุดทั่วโลก เฉพาะที่อเมริกาก็เกิน 3 ล้านชุดเข้าไปแล้ว และทำให้พวกเขากลายเป็นวงนูเมทัลชื่อดังในช่วงเวลาไม่กี่เดือน

P.O.D., Satellite (2001)
อัลบั้มที่เปิดตัวอย่างสวยงามของวง P.O.D สามารถทำยอดขายได้ถึง 7 ล้านชุด และขึ้นถึงอันดับ 6 บิลบอร์ดชาร์ต จริงอยู่ว่าชุดนี้อาจจะยังไม่เป็นนูเมทัลเต็มตัวเพราะมีแนวเพลงเร็กเก้ร็อคเข้ามาผสมเล็กน้อย เปิดตัวด้วยเพลง Alive ที่ใส่แนวเพลงนูเมทัลกันมาเต็มที่บ่งบอกให้แฟนเพลงรับรู้ถึงแนวทาง ซึ่งกระแสตอบรับนั้นดีเกินคาดสำหรับวงหน้าใหม่ จากนั้นก็โด่งดังต่อเนื่องกับเพลง “Youth of the Nation” และ “Boom” ไม่บ่อยครั้งที่นิตยสารโรลลิ่งสโตนจะให้คะแนนถึง 4 ดาวกับวงเมทัล แต่ P.O.D สามารถทำได้ นอกจากนี้ยังได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลแกรมมี่อวอร์ดสาขาวงเมทัลยอดเยี่ยมอีกด้วย แม้ว่าจะพลาดรางวัลไปแต่ก็ถือเป็นอัลบั้มที่เปิดตัวได้อย่างสวยงาม

อัสนี-วสันต์
คู่นี้น่าเป็นคู่พี่น้องนักดนตรีที่ดังที่สุดในประเทศไทย ทั้งสองคนอายุห่างกัน 2 ปี โดยอัสนีเกิดเมื่อปี 2498 ส่วนวสันต์เกิดปี 2500 เป็นคนจังหวัดเลย ครอบครัวมีพี่น้องทั้งหมด 4 คน หลังจากจบการศึกษาระดับมัธยมปลายแล้วทั้งคู่ก็ได้เข้ามาเรียนต่อที่กรุงเทพ โดยอัสนีเข้าเรียนที่ม.รามคำแหง ส่วนวสันต์เรียนที่วิทยาลัยเพาะช่าง สองพี่น้องรักในเสียงดนตรีจึงชักชวนกันไปประกวดโฟล์คซองและได้รางวัลชนะเลิศเมื่อปี 2517 อาจารย์วิมล จงวิไล ซึ่งเป็นหนึ่งในกรรมการพาไปอัดเสียง จนได้ทำวงอีสซึ่น ออกอัลบั้มมา 5 ชุด อัสนีก็ขอแยกตัวออกไปทำวง โอเรียนเต็ล ฟังก์ ของ เรวัต พุทธินันท์ และ บัตเตอร์ฟลายได้ร่วมทำงานเบื้องหลังให้กับศิลปินอีกมากมาย หลังจากสั่งสมประสบการณ์มาเต็มที่ อัสนีได้กลับมาชวนวสันต์ออกอัลบั้มคู่กัน ชื่อชุด บ้าหอบฟาง ในปี 2529 และนั่นคือจุดเริ่มต้นของพี่น้องตำนานเพลงร้อคเมืองไทย

บางแก้ว
พี่น้องฝาแฝด บาส-บอล แห่งตระกูล สินสุวรรณ์ เกิดเมื่อปี 2527 โดยห่างกันแค่ 13 นาที ทั้งสองคนชอบเล่นดนตรีตั้งแต่ยังเด็กโดยชักชวน นิว น้องชายอีกคนตั้งวงดนตรีเล่นตามผับ ในขณะนั้น บาสเป็นมือกลอง ส่วนบอลเล่นกีต้าร์ นิวเล่นเบส ที่งคู่จริงจังในงานดนตรีจนถึงขั้นดร็อปเรียนมัธยมหันมาฝึกกีต้ารือย่างจริงจังวันละ 7 ชัวโมง จนมีโอกาสได้เป็นวงปิดเบรกให้กับรายการ ตีสิบ ขณะนั้นใช้ชื่อวงว่า พารานอมอล และด้วยความบังเอิญที่ทีมงานเมกเกอร์เฮดจากเทปรายการนั้นได้เข้ามาเทสต์เสียงกับ เสือ ธนพล อินทฤทธิ์ ฝีมือของพี่น้องคู่นี้จึงเข้าตาทีมงานและถูกชักชวนทำเพลง ออกอัลบั้มแรกชื่อชุด บางแก้ว ชื่อเดียวกับวงที่เพิ่งเปลี่ยนหลังเข้าววงการ ก็กลายเป็นที่สนใจของผู้ฟังทันทีเพราะหายากมากที่จะมีฝาแฝดมาประดับวงการ และฝีมือทั้งคู่เองก้ไม่ธรรมดา ทำให้อัลบั้มชุดแรกประสบความสำเร็จมา ถึงขั้นได้แสดงหนังเรื่อง หนีตาย…ไปกับเธอ บางแก้วมีผลงานกับทางแกรมมี่ 6 ชุด ก่อนจะแยกมาออกอัลบั้มที่ 7 ค่ายแอ๊บบ้า แต่กระแสค่อนข้างเงียบ จึงพักงานดนตรีไปหลายปี

แมว จิระศักดิ์ – เล็ก ทีโบน
ชื่อของ จิระศักดิ์ ปานพุ่ม เป็นที่รู้จักกันดีในฐานะนักร้องเพลงร็อคแถวหน้าของเมืองไทย แต่หลายคนอาจไม่ทราบว่านี่คือน้องชายแท้ๆของ อริญญ์ ปานพุ่ม หรือ เล็ก มือกลองแห่งวงดัง ทีโบน พี่น้องคู่นี้เป็นชาวจังหวัดอุดรธานี คนพี่เข้าสู่วงการดนตรีก่อนโดยเริ่มจากเล่นตามผับทั่วประเทศ ตั้งแต่อุดรธานีก่อนจะย้ายไปเล่นที่ภูเก็ต, นครพนม และย้ายเข้ามาเล่นที่กทม. ขณะที่อยู่กทม.นั้น แมว จิระศักดิ์ เข้ามาศึกษาต่อที่ม.รามคำแหงจึงได้ร่วมวงพี่ชายเล่นตามผับด้วย ก่อนที่ทางวงจะไปเล่นผับแซ็คโซโฟนและเข้าตาวงทีโบน เล็กจึงโดนดึงตัวไปเป็นมือกลองให้กับวงทีโบนในอัลบั้มที่ 3 เล็ก ชิ้น สด ส่วนแมวไปเป็นแบ็คอัพให้ศิลปินต่างๆตั้งแต่แนวลูกทุ่งจนถึงร็อค ก่อนจะได้เป็นโปรดิวเซอร์ให้กับ อ่ำ อัมรินทร์ และวงไมโคร มาถึงปี 2540 แมว จิระศักดิ์จึงมีอัลบั้มชุดแรกของตนเองชื่อชุด Catarock จนอัลบั้มที่ 2 Get Up Higher พี่น้องคู่นี้ก็ได้กลับมาร่วมงานกันอีกครั้งเมื่อแมวดึงพี่ชายมาเป็นแบ็คอัพให้ตนเอง ถือเป็นพี่น้องคนดนตรีที่ฝีมือแถวหน้าของเมืองไทยคู่นึงเลยทีเดียว

สินเจริญ บราเธอร์ส
วงดนตรีสามหนุ่ม บอม, เบิ้ล และ บอย พี่น้องตระกูลสินเจริญ เริ่มเล่นดนตรีมาตั้งแต่ยังเป็นเด็ก แล้วจึงมาตั้งวงดนตรีร่วมกับเพื่อน ๆ ที่ชื่อวง ฟาง หลังจากสมาชิกก็แยกย้ายไป เหลือเพียง 3 พี่น้อง จึงตกลงกันทำเพลงเสนอค่ายเทปโดยใช้เวลาแค่ 6 เดือนเท่านั้น ถือว่าโชคดีเพราะเวลานั้นกระแสอัลเทอร์เนทีฟกำลังมาแรงค่ายดนตรีเล้กๆผุดเต็มบ้านเต็มเมือง สามพี่น้องจึงได้มีผลงานอัลบั้มแรกสังกัดอีเอ็มไอ ที่ชื่อ สินเจริญ บราเธอร์ส มีเพลงดังอย่าง สัญญา และรักเธอ มียอดขายกว่า 1 แสนชุด อัลบั้มชุดที่ 2 ย้ายมาอยู่ค่ายโซนี่แต่ไม่ประสบความสำเร็จจึงพักงานในวงการไปหลายปีเนื่องจากติดสัญญากับโซนี่จึงใช้ชื่อวงว่า สินเจริญ บราเธอร์ส ไม่ได้ ก่อนที่จะคัมแบ็คในเวทีเดี่ยวไมโครโฟนของโน๊ตอุดมเมื่อปี 2551 ซึ่งหมดสัญญาแล้ว เรียกกระแสความนิยมกลับมาได้พอสมควร ปัจจุบันมีผลงานไปทางเบื้องหลังรายการต่างๆหรือเวทีคอนเสิร์ตเสียมากกว่า

โซคูล
วงร็อคที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วประเทศเกิดจากการ่วมตัวของพี่น้อง 2 คู่ โดย โจ๊ก กรภพ จันทร์เจริญ เป็นพี่ชายของ มาร์ช ภูเบศ จันทร์เจริญ ทั้งคู่อายุห่างกัน 4 ปี ส่วน แจน ปรัชนันท์ ทองสุข มือกีต้าร์ ก็เป็นพี่ชายของ เจมส์ ณวัสพล ทองสุข มือเบส ซึ่งคู่นี้อายุห่างกัน 5 ปี สมาชิกทุกคนในวงเป็นคนจังหวัดพิษณุโลก ทั้ง 2 ครอบครัวนี้เป็นญาติกัน มีแรงบันดาลใจจากวงโลโซจึงฝันอยากเป็นนักดนตรีกัน รวมตัวกันตั้งวงในชื่อ มิลเลเนียม ตระเวนเล่นตามงานต่างๆในจังหวัด เช่นงานวัด, งานวันเด็ก และเดินสายประกวดตามเวทีต่างจนคว้ารางวัลชนะเลิศถ้วยพระราชทานชิงแชมป์ประเทศเมื่อปี 2544 ความฝันของ 4 หนุ่มจึงเป็นจริงเสียทีเมื่อทางแกรมมี่ชักชวนให้ทำเพลง ผลงานชุดแรก So Cool ออกในปี 2547 เรียกกระแสความนิยมได้พอสมควร และมาดังสุดๆกับอัลบั้มชุดที่ 2 So Hot กับเพลงประจำตัว เลี้ยงส่ง ส่งผลให้ 2 คู่พี่น้องดังไปทั้งประเทศ วงโซคูลมีผลงานทั้งหมด 7 อัลบั้มก่อนจะยุบวงไปเนื่องจากโจ๊กต้องการเวลาให้ครอบครัว

ก้อง – เก็น
คนพี่ ก้อง สหรัถ สังคปรีชา นั้นเป็นสมาชิกวงนูโวที่โด่งดังไปทั้งประเทศ โดยก้องกับโจเป็นเพื่อนสนิทตั้งแต่เรียนมัธยมที่กรุงเทพคริสเตียน จน้ายมาอยุ่โรงเรียนศรีวิกรม์ ได้มารู้จักกับ จอห์น รัตนเวโรจน์ ปีเตอร์ สุ และใหม่ จึงตั้งวงดนตรีชื่อ ไฮสคูล ในช่วงที่ศึกษามหาวิทยาลัยนั้นก็ตระเวนเล่นตามผับรวมไปถึงส่งเดโมเทปไปตามค่ายเพลงต่างๆ ซึ่งก็เป็นแกรมมี่ที่ได้ลายเซ็นของ 6 หนุ่มไป ออกอัลบั้มชุดแรก ป็นอย่างงี้ตั้งแต่เกิดเลย เมื่อปี พ.ศ. 2531 ก็ดังกระหึ่มไปทั่วประเทศเป็นวงดนตรีแถวหน้าทันที หลังจากคนพี่ออกอัลบั้มกับวงนูโวได้ 4 ชุด เก็น ฐากูร สังคปรีชา ก็เดินตามรอยพี่ชายกับอัลบั้มแรก Nott Gen ปี 2543 เป็นการทำเพลงคู่กับน็อต วรฤทธิ์บุตรชายของชลิต เฟื่องอารมณ์ ทั้งคู่มาในลุคผมยาวที่กำลังนิยมในยุคนั้น ตัวเก็นร้องนำและเล่นกีต้าร์ไปด้วย แม้จะสร้างความฮือฮาเพราะเป็นน้องชายก้อง แต่อัลบั้มนี้ไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร ทำให้ปัจจุบันเหลือแค่พี่ชายที่ยังคงโลดแล่นในวงการ

เสก แสน
จัดว่าเป็นคู่พี่น้องที่โด่งดังอีกคู่ น้องชาย เสกสรรค์ ศุขพิมาย นั้นเข้าวงการมาก่อนด้วยการรวมตัวกับเพื่อนๆในชื่อวงโลโซตระเวนเล่นดนตรีตามผับ จนได้ ศักดิ์สิทธิ์ แท่งทอง ชวนเข้าแกรมมี่และสร้างตำนานวงร็อคเบอร์ 1 ของไทยในยุคนั้นกับอัลบั้มแรก โลโซไซตี้ เมื่อปี 2539 ช่วงเวลา 6 ปีตั้งแต่ปี 2539-2544 นั้นชื่อเสียงของ เสก ไม่มีใครไม่รู้จัก และพี่ชาย อมร ศุขพิมาย ก็ตามมาติดๆด้วยการฟอร์มวงชื่อ วงนากา ในวงนี้ยังมีพี่ใหญ่แห่งตระกูลสุขภิมาย โจ้ มวัศ ศุขพิมาย อีกเช่นกัน เมื่อพี่ชาย 2 คนจะออกอัลบั้ม เสกก็ได้เข้าไปช่วยทำเพลงโดยการใช้นามปากกาว่า ส. ศรีวรา เขียน คำร้อง-ทำนอง ในอัลบั้มแรกของพีชายถึง 7 เพลง หนึ่งในนั้นคือเพลง คิดถึงเธอ เพลงแจ้งเกิดของวงนากา ทำให้ทั้งคู่โลดแล่นในวงการดนตรีแถวหน้าของเมืองไทย ปัจจุบันแสนก็มาร่วมแจมร้องเพลง จักรยานสีแดง ในอัลบั้ม 20ปี โลโซ เราและนาย

โจ-เจ
แม้ว่าน้องชายจะไม่ใช่นักดนตรี แต่ก็อดพูดถึงไม่ได้เพราะคู่นี้เป็นหนึ่งในคู่พี่น้องที่โด่งดังที่สุดของวงการเพลงไทย คนพี่เข้าวงการมาก่อนด้วยการเป็นมือกีต้าร์วงนูโวที่ฟอร์มวงเล่นกันกับเพื่อนตั้งแต่สมัยมัธยม 2 อัลบั้มแรกของนูโวชุด เป็นอย่างนี้ตั้งแต่เกิดเลย และ บุญคุณปูดำ นั้นประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก ทำให้ชื่อ โจ จิรายุส นั้นโด่งดังไปทั่วประเทศมีงานเข้ามาไม่ขาดสายทั้งเล่นดนตรีและถ่ายแบบ จนปี 2534 คนน้อง เจ เจตริน ก็เข้าสู่วงการเช่นกัน แต่เป็นนักร้องเดี่ยวในอัลบั้ม จอ เอะ บอ ถือว่าประสบความสำเเร็จไม่น้อยไปกว่าพี่ชาย ก่อนจะมาดังแบบสุดๆกับอัลบั้มที่ 2 108-1009 ที่ผันตัวเองเป็นนักร้องแร๊พเต็มตัว ทำให้คู่พี่น้องคู่นี้กลายเป็นนักร้องแถวหน้าของวงการเพลงทันทีแม้ว่าจะอยู่กันคนละแนวดนตรีก็ตาม

The sis
สามสาวพี่น้องตระกูลพลับทองที่พ่อแม่นั้นรักในเสียงดนตรีมาก่อนแล้ว ถึงขนาดตั้งชื่อเล่นของลูกๆว่า เปีบโน ซอ เบส ตามเครื่องดนตรีต่างๆ โดยลูกๆทั้งสามคนก็ไม่ทำให้ผิดหวัง น้องคนเล็ก ซอ มนต์มนัส พลับทอง ชิมลางจากการออกอัลบั้มรวม World The International ในเพลงหางเสือ ก่อนที่จะจูงมือพี่ๆมาทำอัลบั้มแรก The Sis ที่หมายถึง 3 สาวพี่น้องในปี 2545 อัลบั้มนี้พวกเธอมีส่วนร่วมในการเขียนเนื้อร้องและแต่งทำนองด้วยเช่นกัน ก่อนที่ชุดหลังๆจะเริ่มมีการโชว์ฝีมือเล่นดนตรีต่างๆไม่ว่าจะเป็ย เปียโน และ กีต้าร์ ซึ่งเล่นได้ดีเกินคาดเลยทีเดียว น่าเสียดายที่สามสาวนั้นหยุดออกผลงานเพลงมาตั้งแต่ปี 2549 แล้ว แต่ในช่วง 4 ปีที่พวกเธอโดลแล่นในวงการนั้น ถือเป็นกลุ่มพี่น้องที่ได้รับการจับตามองมากวงหนึ่ง

วีทรีโอ
กลุ่มนักดนตรีคลาสสิคจากค่ายเอ็กแซ็กท์ ที่ได้มีโอกาสทำเพลง โดยก่อนหน้านี้พวกเขาเป็นแบ็คอัพให้กับ บี้ เดอะสตาร์ จน บอย ถกลเกียรติเกิดไอเดียอยากทำวงดนตรีแปลกใหม่ขึ้นมา สามพี่น้องจึงมีอัลบั้ม Miracle เกิดขึ้น มี เป้ ทวีเวท ศรีณรงค์ (ไวโอลิน), ป่าน อุทัยศรี ศรีณรงค์ (เชลโล่) และ ปุย พินทุสร ศรีณรงค์ (ไวโอลิน) ฝีไม้ลายมือของแต่ละคนนั้นไม่ธรรมดาเพราะเป็นถึงนักเรียนทุนดนตรีคลาสสิคที่อังกฤษ, นักดนตรีวงบางกอกซิมโฟนี่ และ หัวหน้าวงดุริยางค์เยาวชนไทย รวมไปถึงรับสอนดนตรีคลาสสิคเป็นงานเสริม กลายเป็น ปรากฏการณ์ใหม่ของวงการเพลงไทยขึ้นมาทันที เพราะปกติก็แทบไม่มีวงดนตรีคลาสสิคออกอัลบั้มแบบนี้ และนี่ยังเป็นพี่น้องตะกูลเดียวกันอีกด้วย เป็นการผสมผสานดนตรีคลาสสิคเข้ากับแนวอื่นๆเช่น ป็อป ร็อค ได้อย่างลงตัวมีศิลปินอื่นๆเช่น วง Retrospect มาร่วมแจมในอัลบั้มนี้ ทำให้ทั้งตัววงวีทรีโอและแนวดนตรีนั้นเป็นที่น่าจับตามองไม่น้อย