Ibanez GRG255DX

ขายเพียง  13,860฿ จาก  15,400฿

10 อันดับนักดนตรีสาวงาม

ใกล้ถึง 14 กพ. วันวาเลนไทน์เข้าไปทุกทีแล้ว ซึ่งนักดนตรีที่โสดอย่างเราๆหลายคนก็อาจจะมีกีต้าร์หรือเบสเป็นเพื่อนคู่ใจคลายเหงา แต่เชื่อว่าหลายท่านรวมไปถึงแอดมินด้วยใฝ่ฝันเหลือเกินว่าอยากจะมีสาวๆที่ชื่นชอบในดนตรีเหมือนเรามาอยู่ข้างกาย ดังนั้นคอลั่มน์ในวันนี้ขอเอาใจหนุ่มโสดทั้งปวงด้วยการจัดอันดับ 10 นักดนตรีสาวงามตามใจแอดมินนะจ๊ะ (อิอิ) ที่ปกติข้าพเจ้าชอบไปส่องใน Youtube มาบอกเล่าให้เพื่อนๆได้เข้าไปติดตามชมกัน ซึ่งแต่ละนางนั้นก็ไม่ได้มีดีแค่หน้าตา เพราะฝีไม้ลายมือจัดว่าเด็ดเข้าขั้น เพลงที่ Cover หรือเอามาเล่นโชว์ก็โหดๆคุ้นหูเราๆชนิดที่นักดนตรีอาชีพยังรู้สึกว่ายาก ฝีมือการเล่นดนตรีไม่แพ้ชายอกสามศอกแบบนี้จะมีใครบ้างนั้นก็เชิญรับชมกันได้เลย

อันดับ 10 Lisa-X

แค่คนแรกก็อย่าเพิ่งคิดว่าแอดมินเป็นสายโลลิกันซะล่ะ เพราะสาวน้อยมือกีต้าร์ชาวญี่ปุ่นคนนี้เพิ่งฉลองครบรอบ 12 ปีของเธอไปไม่นาน แต่ที่ต้องยกมาให้ติดอันดับนั้นเพราะฝีไม้ลายมือของน้องเค้าไม่ธรรมดาจริงๆ Lisa-X โด่งดังจากการเล่น Cover เพลง Scarified ของพี่ Paul Gilbert มือกีต้าร์คนดังได้แบบเป๊ะทุกตัวโน๊ต แถมขณะนั้นเธอยังอายุแค่ 7 ขวบอีกด้วย !!! O_o ความโด่งดังของเธอก็ไปเข้าหูเจ้าของเพลงซึ่ง Paul Gilbert ถึงกับประกาศผ่านสื่อโซเชี่ยลเลยว่าให้น้องมาเรียนกีต้าร์กับตนเองได้แบบฟรีๆเพราะเห็นพรสวรรค์กันแล้ว ปัจจุบันยอดวิวเพลง Scarified ทะยานไปถึง 4.7 ล้านวิวในยูทูปเรียบร้อย ซึ่งถ้าน้อง Lisa-X ยังไม่หยุดพัฒนาการเล่นกีต้าร์ต่อไปเชื่อว่าอนาคตเราจะได้เห็นสุดยอดมือกีต้าร์สาวจากญี่ปุ่นแน่นอน

อันดับ 9 Brooke C

3.8 ล้านวิวจากเพลง Forty Six & 2 ของวง Tool เป็นเครื่องการันตีฝีมือของมือกลองสาวรายนี้ได้ดี เพราะเธอเล่นมาหมดทุกเม็ดเหมือนเปิดแผ่นไม่มีผิดเพี้ยน แถมอนาคตยังอีกไกลแน่นอนเพราะเธอเพิ่งอายุ 14 ปีเท่านั้น (แต่ทรวดทรงองค์เอวเกินตัวมาก) ผมสีบรอนซ์กับดวงตาคมๆน่าจะทำให้ชายหนุ่มทั้งหลายต้องยิ้มแบบมีความสุขเมื่อได้ดูเพลงที่เธอ Cover ซึ่งปัจจุบันน้อง Brooke C ก็ยังอัพคลิปตนเองลงยูทูปอยู่ตลอดเป็นประจำทุกเดือน หากใครอยากยลความเก่งของเธอก็มีช่องส่วนตัวให้ได้ติดตามกัน

Image result for e-young afterschool guitar

อันดับ 8 E-Young

คนนี้หากใครชื่นชอบเกาหลีต้องรู้จักแน่นอน เพราะเธอเป็นหนึงในสมาชิกวง AfterSchool อันโด่งดังจากแดนกิมจิ แต่น้อยคนจะรู้ว่านอกจากจะเต้นเก่งแล้วฝีมือการเล่นดนตรีของเธอเข้าขันเทพเช่นกัน เพราะเธอคนนี้สามารถเล่นดนตรีได้แทบทุกประเภทไม่ว่าจะเป็นกีต้าร์ เบส กลอง และยังไม่ธรรมดาถึงขั้น Cover เพลง Far Beyeon the Sun ของ Yngwie Malmmsteen เจ้าพ่อโปรเกรสซีพร็อคที่ว่ากันว่าเร็วที่สุดในโลกได้อีกด้วย เห็นหน้าหมวยๆสวยๆแบบนี้นิ้วเร็วไม่ใช่เล่น ซึ่งหลังจากคลิปในยูทูปแพร่ออกไปต่างมีแต่คนประหลาดใจ (แน่ล่ะ) ช่วงหลังๆมาน้อง E-Young จึงได้เริ่มมีการโชว์สกิลการเล่นดนตรีของเธอบนคอนเสิร์ตให้ชมบ้าง เรียกว่าสวยแล้วความสามารถยังรอบด้านอีกด้วย

Related image

อันดับ 7 Laura Cox

มือกีต้าร์สาวสูงยาวเข่าดีจากฝรั่งเศสคนนี้เธอโด่งดังมากจากการ Cover เพลง Canon Rock ของ Jerry C ซึ่งเป็นเพลงกีต้าร์ฮีโร่ (ไม่มีเนื้อร้อง) ที่ว่ายากลำดับต้นๆของโลก และเธอก็ทำออกมาได้ดี เอาง่ายๆก็ยอดคนดูคลิปเพลงนี้ของเธอปัจจุบัน 10 ล้าน 3 แสนวิว O_o การันตีถึงฝีมืออันไม่ธรรมดาได้เป็นอย่างดี ก็ไม่น่าแปลกใจที่ค่ายเพลงดังในฝรั่งเศสจะเห็นแววและจับเธอออกอัลบัมซึ่งจะวางแผงในวันที่ 10 มีนาคม 2017 นี้ แต่เป็นแบบวง 4 ชิ้น ซึ่งตัว Laura ก็รับหน้าที่มือกีต้าร์ลีดและร้องนำ ปัจจุบันแฟนเพจของเธอก็มียอดติดตามสูงถึง 3 แสนราย ซึ่งดูแล้วน่าจะรุ่งในเส้นทางดนตรีอีกไกล

Related image

อันดับ 6 Giulia Marta Vallar

แค่เพลงแรกที่สาวจากลอส แองเจลิสรายนี้โชว์ก็ทำให้ตกตะลึงกันแล้ว เพราะเธอใส่กางเกงในเล่น !!! ครับ อ่านไม่ผิดครับ ใส่กางเกงในกับเสื้อกล้ามเล่นเพลง Highway Star ของ Deep Purple เล่นจริงๆ แต่เชื่อไหมว่าฝีมือของเธอถึงขั้นทำให้แอดมินตาค้างจนลืมมองความเซ็กซี่ไปเลย เอาง่ายๆเพลง Highway Star ยากแค่ไหนถ้าใครเคยแกะก็น่าจะรู้ เพราะคุณลุง Ritchie Blackmore ใส่เต็มจนทำให้เป็นหนึ่งในตำนานเพลงของมือกีต้าร์ แต่สาว Giulia เธอเล่นแบบชิลๆสบายๆ เพลงเปิดตัวของเธอนี้ก็กดไปเบาะๆ 2.2 ล้านวิว ซึ่งแน่นอนว่าอนาคตจะมีคลิปเพลงโหดๆจากสาวอเมริกันรายนี้อีกเยอะ

อันดับ 5 Marina Andrienko

สาวชาวยูเครนคนนี้มาพร้อมกับกีต้าร์ Schecter ZV Mirror ที่บอดี้เป็นกระจกสวยงามโดดเด่นยามเธอเล่น ส่วนเรื่องความเก่งไม่ต้องสืบเพราะยอดทะลุล้านวิวแทบทุกคลิปที่เธอโพสลงยูทูป เช่นเพลง Psycho ของวง Muse ที่ยอด 2.5 ล้านวิว และที่เจ๋งสุดๆคือเล่นเพลง Anastasia ของป๋า Slash มือกีต้าร์วง Gun’N Rose ได้แบบเป๊ะๆทุกตัวโน๊ต จนยอดเพลงนี้กดไปถึง 8.8 ล้านวิว อีกทั้งน้อง Marina ยังได้รับการยอมรับในเรื่องของซาวด์ด้วยเพราะนอกจากเล่นเร็วแล้ว ซาวด์กีต้าร์ที่ออกมาของเธอยังร็อคได้แบบมืออาชีพอย่างแรง จนหลายคนต้องสอบถามเกี่ยวกับเอฟเฟคและตู้แอมป์ทีสาวคนนี้ใช้ ซึ่งก็เหมือนนักดนตรีทั่วไปคือ เอฟเฟค Line6 และแอมป์ Fender ซึ่งของแบบนี้ต้องบอกว่าอยู่ที่ฝีมือล้วนๆนะจ๊ะ

Related image

อันดับ 4 S.White 

หลายคนน่าจะคุ้นหน้าคุ้นตากับมือกลองสาวคนนี้เพราะเธอ Cover เพลงในยูทูปค่อนข้างมาก S.White หรือ Luo ShiRu (罗仕茹) เป็นมือกลองสาวชาวไต้หวันที่พกพาความโมเอะให้หนุ่มๆได้หลงใหลกันเต็มๆด้วยความขาวหมวยและแว่นแบบตัวการ์ตูนอาราเล่ เรื่องฝีมือการตีไม่ธรรมดาอยู่แล้ว และสิ่งที่ทำให้ใครหลายคนอมยิ้มคือท่าตีกลองอันแสนจะมีความสุขของเธอที่ยิ้มทั้งเพลง แบบนี้ใครจะไม่หลงรักได้ลง ซึ่งก็ไม่แปลกที่ยอดผู้ติดตามในเฟสบุ๊คของเธอจะทะลุ 6 แสนคนภายในเวลาแค่ 2 ปี และเพลงดังๆเช่น It’s my life ของ Bon Jovi หรือเพลงของวง  Maroon5 ที่สาวน้อยคนนี้นำไป Cover จะมียอดวิวสูงหลายล้านวิวเช่นเพลง Moves like jagger ที่มียอด 1.5 ล้านวิว หรือเพลง Fantastic Baby ที่มากถึง 4.5 ล้านวิว

Image result for Kelly Yu

อันดับ 3 Kelly Yu

บอกเลยครับว่าคนนี้เด็กเส้นแอดมินเอง ด้วยหน้าตาขาวหมวยที่ตรงสเป็คหนุ่มไทยหลายคนอย่างแน่นอน ซึ่งความเก่งกาจของมือกีต้าร์สาววัย 27 ปี จากจีนรายนี้ก้ไม่ธรรมดาอยู่แล้ว ปกติเธอจะอัพคลิปลงยูทูปประปราย แต่ด้วยความงามของเธอทำให้ได้ไปออกรายการโชว์กีต้าร์ที่เกาหลี ซึ่งแน่นอนว่าน่ารักแบบนี้ก็โด่งดังเป็นพลุแตก จนมีซิงเกิ้ลเป็นของตนเองชื่อ Want you back ของค่าย Sony Music ไต้หวันเมื่อปี 2014 ซึ่งสาว Kelly ก็โซโล่กีต้าร์เองทั้งอัลบั้ม เป็นแนวดนตรีร็อคที่เธอชื่นชอบซึ่งขัดกับภาพลักษณ์ภายนอกของเธอเหลือเกิน แต่ถ้าน่ารักแบบนี้สำหรับแอดมินแล้ว ขอบอกว่าเล่นแนวไหนก็เพราะทั้งนั้นคร๊าบบบ อิอิ

Image result for Juliana Vieira

อันดับ 2 Juliana Vieira

น่าจะเป็นมือกีต้าร์หญิงที่โด่งดังที่สุดในโลกโซเชี่ยลแล้วสำหรับสาวบราซิลรายนี้ เพราะทุกคลิปที่เธออัพลงยูทูปล้วนแต่ยอดปังทะลุหลักล้านทั้งนั้น เช่นเพลง Enter Sandman (Metallica) ที่ยอดสูงถึง 10.5 ล้านวิว หรือ Smoke on the water ก็ใช่ย่อยกดไป 6.2 ล้านวิว Thunderstruck ของวง AC/DC ก็ 5.1 ล้านวิว เรียกว่าเล่นเพลงไหนก็ทำได้ดีทำให้สาว Juliana วัย 22 ปีรายนี้ได้ดิบได้ดีจนถึงขั้นบริษัท Fender นำไปเป็นพรีเซนเตอร์เรียบร้อย และได้รับฉายาจากโลกโซเชี่ยลว่า Princess of Guitar ซึ่งสมกับความน่ารักสดใสของเธอ ปัจจุบันถึงขั้นมี Official Channel บนยูทูปเป็นของตนเองซึ่งมียอดผู้ชมเกิน 2 แสนราย ซึ่งก็ไม่น่าแปลกใจว่าทำไม Fender ถึงยอมเป็นสปอนเซอร์ให้กับมือกีต้าร์สาวบราซิลรายนี้

Image result for Tina.S

อันดับ 1 Tina.S

สาววัย 18 ปีจากฝรั่งเศสรายนี้ครองรางวัลชนะเลิศมือกีต้าร์หญิงยอดเยี่ยมโลกจากผู้โหวตในยูทูปมา 3 ปีซ้อน ซึ่งน่าจะเป็นนักดนตรีหญิงที่มียอดผู้ชมต่อคลิปสูงที่สุดแล้วอีกด้วย เพราะไม่ว่าเธอจะ Cover เพลงไหนก็ทำออกมาได้ดีด้วยฝีไม้ลายมือที่จัดจ้าน และเพลงที่เลือกยังโหดขนาดมือโปรบางคนยังเล่นไม่ได้ด้วยซ้ำเช่น Through the Fire and Flames ของวง Dragon Force ที่น้อง Tina ที่ขณะนั้นอายุแค่ 17 ปีเล่นได้อย่างเนียนตาและยอดวิวก็ทะลักถึง 16 ล้านวิว หรือจะเป็นเพลง Eruption ของ Van Halen ที่ว่ายากกันเหลือเกินน้อง Tina ก็แกะมาโชว์กันได้แบบเหนือๆซึ่งเพลงนี้ก็ 16 ล้านวิวเช่นกัน จะเป็นเพลงสุดโหดอย่าง Moonlight Sonata ของ Beethoven ที่โด่งดังไปทั่วโลกก็ถูกน้องเขา Cover มาแล้ว แถมทุกเพลงเป็นการโซโล่แบบกีต้าร์ฮีโร่ล้วนๆ โดยปัจจุบันสื่อโซเชี่ยลแทบทุกสำนักยกย่องว่า Tina.S เป็นหนึ่งกีต้าร์หญิงที่น่าจับตามองที่สุดในโลก

หากเพื่อนๆอยากเห็นฝีมือของสาวคนไทยก็สามารถเอาชื่อพวกเธอไปติดตามกันในโซเชี่ยลได้นะจ๊ะ แล้วจะอึ้งกับฝีมือที่จัดจ้านของแต่ละราย หรืออาจจะยกพวกเธอเป็นแรงบันดาลใจในการฝึกฝนก็ยังได้ เพราะขนาดสาวๆยังเก่งกันขนาดนี้แล้วหนุ่มๆอย่างเราๆมีรึจะยอม ว่าแล้วก็อย่ายอมแพ้ไปหยิบกีต้าร์ เบส หรือไม้กลองขึ้นมาฝึกให้ไว เผื่อจะมีสาวๆนักดนตรีมาเหลียวมองให้สมหวังด้านความรักกันได้บ้าง

รูปภาพจาก youtube, facebook/fanpage

3 วิธีการง่ายๆในการเลือกปิ๊กกีต้าร์

ถ้าพูดถึงปิ๊กกีต้าร์แล้ว หลายๆคนอาจไม่ต้องคิดมากเลยในการเลือกซื้อเพราะเป็นอุปกรณ์ดนตรีที่ราคาถูกมาก ทำให้มีนักดนตรีทั้งสมัครเล่นและมืออาชีพต่างใช้ปิ๊กกีต้าร์ที่ไม่ตรงกับกีต้าร์หรือแนวดนตรีของตนเท่าไหร่นัก หลายๆคนอาจจมองเป็นเรื่องเล็กๆน้อยๆ แต่หารู้ไม่ว่าหากเลือกใช้ปิ๊กกีต้าร์ได้ดีแล้ว จะช่วยให้การเล่นกีต้าร์ของคุณราบลื่นขึ้นเพราะมีความถนัดมือ เพราะปิ๊กกีต้าร์แต่ละแบบจะแตกต่างกันไปตามขนาดความกว้างและความหนาของตัวปิ๊ก นอกจากนั้นยังมีการแบ่งตามวัสดุที่ใช้ผลิตปิ๊กแต่ละอันอีกด้วย จึงกล่าวได้ว่าความสำคัญของปิ๊กกีต้าร์นั้นแทบจะไม่น้อยไปกว่าตัวกีต้าร์ที่เล่นเลย ดังนั้นทาง Music Arms ก็จะขอนำเสนอการเลือกปิ๊กกีต้าร์ให้เหมาะสมกับตนเองอย่าง่ายๆดังนี้

เลือกความหนาของปิ๊ก

ปิ๊กกีต้าร์ตามปกติแล้วจะมีความหนา 3 ชนิด ซึ่งก็จะบอกขนาดไซด์อยู่ที่ตัวปิ๊กได้แก่

  • “T” หรือ Thin แบบบาง (0.45–0.69 มม.) แบบนี้มือกีต้าร์มักจะใช้ในตัวกีต้าร์โปร่ง เพราะเวลาดีดตัวปิ๊กจะลู่ไปกับสายกีต้าร์ทำให้เสียงคอร์ดค่อนข้างกลมกลืน ซาวด์จะออกมาสมูธมากขึ้น หรือจะใช้ในกีต้าร์ไฟฟ้าก็ได้หากเป็นการตีคอร์ด
  • “M” หรือ Medium ขนาดกลาง (0.70–0.84 มม.) เสียงตัวโน๊ตแต่ละตัวจะออกมาชัดเจน ใส และแข็งแรง เหมาะทั้งโซโล่และตีคอร์ด
  • “H” หรือ Heavy (0.85–1.20 มม.) เป็นปิ๊กที่เหมาะกับการเล่นกีต้าร์โซโล่ที่เน้นการเล่นที่ต้องการความเร็ว เสียงที่ได้ก็จะมีความหนา

Image result for pick guitar size

เลือกรูปทรงของปิ๊ก

รูปทรงของปิ๊กกีต้าร์ที่ทำออกมาจำหน่ายก็จะมีหลายรูปแบบ โดยมากแล้วการเลือกรูปทรงของปิ๊กจะเน้นแค่ถนัดมือเท่านั้น แต่มีการเล่นดนตรีบางประเภทที่ต้องคำนึงถึงรูปทรงเช่นกันเช่น หากต้องการโซโล่เสียงกรีดแหลมแบบร็อคก็ต้องเลือกปิ๊กขนาดเล็ก หรือที่บ้านเราเรียกว่า”กัดปิ๊ก”นั่นเอง นอกจากนี้ก็ยังมีปิ๊กเฉพาะทรงเช่น ทรงแจ๊สที่ผลิตมาเพื่อนักดนตรีแจ๊สอีกด้วย สำหรับทรงของปิ๊กที่ค่อนข้างนิยมจะเป็นทรงหยดน้ำที่พบเห็นได้ทั่วไปเพราะเป็นทรงสแตนดาร์ดเหมาะกับดนตรีทุกแนว หรือถ้าเล่นกีต้าร์โปร่งและชอบตีคอร์ดก็ต้องเลือกปิ๊กที่เป็นทรงสามเหลี่ยมเพื่อเสียงที่นุ่มนวล นอกจากนี้รูปทรงของปิ๊กยังมีแบบปิ๊กนิ้วหรือสวมนิ้วสำหรับสาวกฟิงเกอร์สไตล์เช่นกัน

Image result for pick guitar

เลือกวัสดุที่ใช้ผลิต

ส่วนมากปิ๊กที่เห็นตามท้องตลาดจะทำจากพลาสติก แต่เนื้อพลาสกติกแต่ละประเภทย่อมแตกต่างกันไปทั้งเซลลูลอยด์ ไนล่อน และคาร์บอนไฟเบอร์ ซึ่งรุ่นที่นิยมใช้กันมากทั่วโลกจะเป็นแบบคาร์บอนไฟเบอร์ขนาด 1.0 ของ Dunlop ซึ่งปิ๊กที่ทำจากคาร์บอนไฟเบอร์จะแข็งกว่าพลาสติกชนิดอื่นๆ ทำให้ปิ๊กชนิดนี้เข้ากับแนวเพลงค่อนข้างมากและใช้กับกีต้าร์ไฟฟ้าได้ดี มือกีต้าร์ที่เล่นแนวไฟฟ้าจึงค่อนข้างนิยมเพราะสามารถโซโล่ก็ได้ ตีพาวเวอร์คอร์ดก็แน่น แต่หากเป็นสายกีต้าร์โปร่งจะเน้นแบบปิ๊กไนล่อนที่ให้ความนุ่มนวลของเสียง ข้อเสียของปิ๊กแบบไนล่อนคือเสียงที่ออกมาจะค่อนข้างเบาแต่ให้ความต่อเนื่องของเสียงดี นอกจากนี้ยังมีปิ๊กที่ทำจากวัสดุอื่นๆ เช่น เหล็ก หรือ กระดูก แต่ไม่ค่อยได้รับความนิยมมากนักเพราะแข็งมากจึงทำให้สายกีต้าร์เสื่อมหรือขาดง่าย

จากที่กล่าวมาจะเห็นได้ว่าการเลือกปิ๊กก็เป็นสิ่งสำคัญไม่น้อยต่อการเล่นกีต้าร์ เพราะหากเลือกปิ๊กไม่ตรงตามกีต้าร์ที่เล่นแล้ว การดูแลรักษาสายกีต้าร์ก็จะยุ่งยากเช่นใช้ปิ๊กแบบหนามาเล่นอะคูสติกก็มีโอกาสที่สายจะขาดง่าย หรือใช้ปิ๊กแบบบางไปหัดโซโล่ก็จะทำให้การโซโล่เป็นไปอย่างยากลำบากจนมือใหม่หลายคนอาจรู้สึกท้อไปเลย หรือบางคนอาจชอบแนวกัดปิ๊กแต่ไปใช้ปิ๊กขนาดใหญ่ทรงสามเหลี่ยมก็ทำให้เสียงกัดปิ๊กไม่ค่อยออกหรือ sustain ไม่ยาวเท่าที่ควร ดังนั้นอย่าละเลยจุดง่ายๆในการเล่นกีต้าร์อย่างการเลือกปิ๊ก เพราะนี่จะเป็นทริคเล็กๆน้อยๆที่ช่วยในการเล่นกีต้าร์ของเพื่อนๆให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นรวมไปถึงการบำรุงรักษาสายกีต้าร์อีกด้วย รู้แล้วก็อย่าลืมไปเลือกปิ๊กให้เหมาะสมกันนะจ๊ะ

ขอบคุณบทความจาก learntoplaymusic

ขอบคุณรูปภาพจาก wholesaler, howlingmonkeypick ,harmonycentral , guitartopreview

ระดับเสียงร้องของมนุษย์

การขับร้องถือเป็นการสร้างสรรค์ดนตรีที่ง่ายและเป็นพื้นฐานที่สุดของมนุษยชาติ ซึ่งเสียงของนักร้องทั่วไปนั้นก็จะแตกต่างกันไปตาม เพศ ชาติพันธุ์ วัย รวมไปถึงการออกเสียงตามลักษณะภาษาอีกด้วย เสียงร้องเพลงของมนุษย์นั้นจะขึ้นอยู่กับลมหายใจ ดังนั้นการร้องเพลงที่ดีคือการหายใจที่ถูกจังหวะและดึงเสียงออกมาจากช่องลม ซึ่งหลายคนน่าจะเคยได้ยินมา นอกจากนั้นยังมีประเภทเสียงแบบต่างๆซึ่งหากเรียนขับร้องแล้วจะต้องรู้ว่าระดับเสียงของตนเองนั้นอยู่ในช่วงใด จึงจะเลือกเพลงที่เหมาะสมกับตนหรือร้องประสานเสียงกับผู้อื่นได้อย่างกลมกลืน ดังนั้นเราจะมาดูวิธีการแยกประเภทลักษณะเสียงแต่ละประเภทกันก่อน เพื่อเพื่อนๆผู้อ่านจะได้แนวทางการร้องเพลงของตนเองที่ถูกต้อง

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ Soprano Voice

ปกติแล้วเสียงของมนุษย์จะแบ่งเป็น 6 ประเภท ได้แก่ ฝ่ายหญิง 3 ประเภท เรียงจากเสียงสูงไปหาต่ำ เช่น โซปราโน (Soprano) เมซโซโซปราโน (Mezzo-soprano) และอัลโต (Alto) สำหรับฝ่ายชาย 3 ประเภทเรียงจากเสียงสูงไปหาต่ำ เช่น เทเนอร์ (Tenor) บาริโทน (Baritone) และเบส (Bass) แต่ก็อาจมีข้ามระดับกันได้บ้างในกรณีที่ฝ่ายหญิงมีโทนเสียงต่ำหรือฝ่ายชายมีโทนเสียงที่สูงกว่าปกติ ในบางครั้งจึงอาจเห็นผู้ชายร้องเสียงโซปราโนได้ หรือผู้หญิงร้องเสียงเบสได้ ซึ่งวงขับร้องประสานเสียงคอรัสจะต้องการความกลมกลืนในระดับเสียงที่แตกต่างกันไป

โซปราโน (Soprano)

เป็นเสียงที่สูงที่สุดของผู้หญิง ซึ่งอยู่ในตัวโน๊ต A หรือ Bb ที่ออคเต็ป 3 โน๊ตที่ต่ำที่สุดของโซปราโนคือ F ที่ออคเต็ป 3 ในขณะที่โน๊ตสูงสุดอาจไปถึง G ออคเต็ป 6 เลยทีเดียวเหมือนที่ Jules Massenet เคยทำได้ในคอนเสิร์ตโมสาร์ท Popoli di Tessaglia! นักร้องเสียงโซปราโนจะมีการใช้ลูกเล่นที่ช่วงคอ ปกติแล้วเสียงโซปราโนมักจะเอาไว้ร้องเพลงดนตรีคลาสสิคเช่น โมสาร์ท หรือ เพลงของบีโธเฟ่น และมักจะเป็นการขับร้องประสานเสียงซะเป็นส่วนมาก เพราะลักษณะเสียงค่อนข้างสูงและกังวานนั่นเอง

เมซโซโซปราโน (Mezzo-soprano)

เป็นเสียงที่ระดับคีย์ต่ำลงกว่าโซปราโนเล็กน้อย ปกติแล้วเสียงประเภทนี้เราจะได้ยินในการร้องเพลงละครเวทีหรือจำพวกโอเปร่าของทางฝั่งยุโรป เสียงเมซโซโซปราโนจะมีคีย์ที่ค่อนข้างกว้างเพราะเป็นเสียงร้องได้หลายประเภทดนตรี ปกติแล้วเสียงเมซโซโซปราโนจะอยู่ที่ A ออคเต็ป 3 ไปจนถึง A ออคเต็ป 5 ซึ่งกว้างสุดในย่านคีย์ของนักร้องผู้หญิง โทนเสียงประเภทนี้จะมีความเข้มกว่าโซปราโนและมีมิติอารมณ์ จึงปรากฏในละครเวทีหลายเรื่อง เรื่องที่ดังที่สุดคงไม่พ้น โรมีโอ แอนด์ จูเลียต ของวิลเลี่ยม เช็คสเปียร์ ซึ่งถ้าใครอยากฟังเสียงเมซโซโซปราโนก็ไปหาฟังในละครเรื่องนี้ได้

อัลโต (Alto)

เป็นเสียงต่ำสุดของผู้หญิงซึ่งในเพลงสมัยใหม่เราจะได้ยินเสียงโทนนี้ค่อนข้างเยอะไม่ว่าจะเป็นป็อป ร็อค บลูส์ แจ๊ส เพราะจะเป็นคีย์มาตรฐานที่นักร้องหญิงในปัจจุบันร้อง (ไม่นับพวกตัวแม่อย่างเช่น Mariah Carey หรือ Celine Dion ที่จะทำคีย์ได้สูงกว่านี้) คีย์ของอัลโตจะอยู่ที่ E ออคเต็ปที่ 3 จนถึง F ออคเต็ป 5 เสียงอัลโตนี้จะไม่ค่อยได้เห็นในวงประสานเสียงมากนักเพราะส่วนมากนิยมผสมเสียงระหว่างชายหญิงเองมากกว่า ทำให้เสียงอัลโตต้องไปหาฟังในเพลงสมัยใหม่ซะเป็นส่วนใหญ่

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ Voice Tenor

เทเนอร์ (Tenor)

เสียงคีย์สูงของเพศชายโทนนี้จะอยู่ในคีย์ C3- B4 เสียงเทเนอร์จะนิยมใช้มากในเพลงโอเปร่าที่เป็นเสียงผู้ชาย คีย์สูงที่สุดที่เคยบันทึกไว้คือ F5 โดย Bellini puritani นักร้องโอเปร่าชาวอิตาลีในคอนเสิร์ต “Credeasi misera” ชื่อเทเนอร์นั้นมาจากภาษาละตินมีความหมายว่า ควบคุม ดังนั้นเสียงเทเนอร์จึงมักจะเป็นเสียงหลักในดนตรีโอเปร่า โดยมักจะนำไปผสมกับเมซโซโซปราโนเพื่อให้ได้เสียงอัลโตนั่นเอง นอกจากนี้แล้วเสียงเทเนอร์ยังเป็นเสียงคีย์มาตรฐานในเพลงของโมสาร์ทอีกด้วย

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ Voice Baritone

บาริโทน (Baritone)

เป็นเสียงผู้ชายที่พบมากที่สุด โดยคำว่าบาริโทนมาจากภาษากรีก แปลว่าลึกหรือหนัก เสียงบาริโทนจะอยู่ในคีย์ G2 จนถึง G4 แม้ว่าเป็นเสียงผู้ชายทั่วไปแต่เสียงบาริโทนกลับได้รับการยอมรับในวงกว้างไม่เหมือนเสียงอัลโต เพราะตั้งแต่ศตวรรษที่ 19 บาริโทนก้ได้เป็นเสียงหลักในการร้องเพลงโอเปร่าที่อิตาลีแล้ว จนมาถึงศตวรรษที่ 20 ก็ยังเป็นเสียงหลักในดนตรีสมัยใหม่ของทางอังกฤษและอเมริกาอีกด้วย เสียงบาริโทนจึงเป็นเสียงที่หาฟังได้ง่ายที่สุดตั้งแต่เพลงโอเปร่าจนมาถึงเพลงคลาสสิคปัจจุบันนั่นเอง

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ Voice Bass

เบส (Bass)

ตามชื่อภาษาอังกฤษเลยเพราะเสียงนี้จะเป็นคีย์ของเครื่องดนตรีประเภทเบสหรือเสียงที่ต่ำกว่าออคเต็ปปกติ ปกติแล้วเสียงโทนนี้จะไม่เป็นเสียงหลักในการร้อง ดังนั้นเราจะไม่เห็นเสียงเบสในเพลงปกติเท่าไหร่นัก ยกเว้นการร้องประสานเสียงที่เสียงเบสเป็นกุญแจสำคัญในการประสานให้เข้ากับเสียงโทนอื่น ดังนั้นเราจะพบเสียงเบสในการร้องเป็นวงแทบทุกประเภทไม่ว่าจะเป็นโอเปร่า เพลงคลาสสิคโบราณยุคโมสาร์ท บีโทเฟ่น จนมาถึงเพลงปัจจุบันที่ขาดเสียงเบสไม่ได้เลย เสียงเบสนั้นจะอยู่ในคีย์ D2- E4

หากนักร้องค้นพบว่าเสียงของตนเองอยู่ในระดับใด ก็จะง่ายต่อการหาคีย์ในการร้องเช่นเดียวกับการประสานเสียงกับผู้อื่น และนักดนตรีที่เป็นแบ็คอัพก็จะรู้สึกง่ายในการหาคีย์อีกด้วย อีกทั้งยังสามารถฝึกร้องเพลงให้ถูกต้องกับโทนเสียงตนเอง เช่น โซปราโนก็จะเน้นการสั่นของลูกคอ ในขณะที่เสียงเบสจะเน้นช่องลมบริเวณท้องเป็นอย่างมาก พอรู้จักระดับเสียงของตนเองก็จะง่ายในการฝึกฝนเพื่อเป็นนักร้องคุณภาพในอนาคต

ขอบคุณบทความจาก choirly

ขอบคุณรูปภาพจาก choirly

Fender American Elite Telecaster Thinline กีตาร์ไฟฟ้า

ขายเพียง  72,000฿ จาก  80,000฿

Fender American Elite Stratocaster กีตาร์ไฟฟ้า

ขายเพียง  67,500฿ จาก  75,000฿

เรื่องของไวโอลินที่อาจจะยังไม่รู้ !!!

ไวโอลินเป็นหนึ่งในเครื่องดนตรีที่เก่าแก่ที่สุดของโลกและมีสเน่ห์ในตนเอง ในสมัยก่อนโวโอลินเป็นเครื่องดนตรีของชนชั้นสูงในยุโรปจนนิยมเล่นมาถึงปัจจุบัน ซึ่งไวโอลินเป็นตระกูลเครื่องดนตรีที่มีความสำคัญในวงออเคสตรา พื้นฐานเสียงของไวโอลินเกิดจากการสั่นของสายโดยแตกแขนงออกไปเป็นเชลโล่และวิโอล่าได้อีก เพราะถือว่าเป็นเครื่องดนตรีประเภทเครื่องสายและใช้คันชักเหมือนกัน

ลักษณะเสียงของไวโอลินจะมีความกว้างและแหลม และสามารถเปลี่ยนไปตามความสั่นของนิ้วมือได้ด้วย หลายๆคนจึงชื่นชอบในเครื่องดนตรีประเภทนี้ แต่ก็ยังมีความจริงบางข้อที่นักไวโอลินอาจจะยังไม่รู้  ดังนั้นถ้าใครชื่นชอบเครื่องดนตรีประเภทนี้อาจจะอยากทราบ

Image result for 10 fact violin 500*300

ไวโอลินกำเนิดมากว่า 500 ปี

ไวโอลินตัวแรกของโลกถูกสร้างโดย อันเดรีย อามาติ นักไวโอลินชาวอิตาลี ซึ่งถือเป็นบิดาของเครื่องดนตรีชนิดนี้ อามาติหลงใหลในเสียงของเครื่องสั่นที่มีมาตั้งแต่ยุคโบราณ จึงคิดค้นเครื่องดนตรีในแบบของตนเองที่ทำมาจากไม้ มีสายพาดผ่านและใช้คันชักสีให้เกิดเสียง มีช่องลมในตัวไม้เพื่อให้เสียงลอดออกมาได้ ซึ่งเป็นการกำเนิดไวโอลินบนโลกใบนี้ นอกจากนั้น อามาติ ยังผลิตเครื่องดนตรีตระกูลนี้ชนิดอื่นอย่าง เชลโล่ อีกด้วย ซึ่งปัจจุบันไวโอลินตัวแรกของ อามาติ ได้เข้าไปอยู่ในพิพิธภัณฑ์ศิลปะโลกที่นิวยอร์คเรียบร้อย

80% ของไวโอลินบนโลกทำจากไม้เมเปิ้ลและไม้สปรู๊ซ

แม้ว่าเครื่องดนตรีชนิดอื่นอาจจะใช้ไม้หลายแบบมาทำ แต่เนื่องจากไวโอลินเป็นเครื่องดนตรีที่มีเสียงเฉพาะตัวคือกว้างและแหลม ไม้ที่ใช้ทำไวโอลินได้จึงมีไม่มาก ที่นิยมคือไม้ตระกูลสนหรือสปรู๊ซ ที่จะให้เสียงโทนแหลมค่อนข้างดีเหมาะสำหรับทำไวโอลิน อีกประเภทคือไม้เมเปิ้ลที่ให้เสียงย่านกลางดีอยู่แล้ว และยังมีความคมชัดในเนื้อเสียง สองไม้นี้จึงเป็นไม้หลักๆในการนำมาผลิตไวโอลิน

Image result for 10 fact violin 500*300

ขนาดของไวโอลินที่เหมาะสมวัดจากช่วงแขนผู้เล่น

ไวโอลินผลิตออกมา 8 ขนาด โดยเวลาวัดขนาดไวโอลินที่เหมาะกับตนเองจะวัดจากความยาวช่วงไหล่ไปถึงข้อมือ แม้ว่าบางคนอาจจะวัดตามอายุผู้เล่นแต่เนื่องจากแต่ละคนมีการเจริญเติบโตที่ไม่เท่ากันการวัดจากช่วงแขนจึงนิยมมากที่สุด แต่ที่นิยมมักจะเป็นขนาด 3/4 หรือ 4/4 เพราะเป็นขนาดมาตรฐานสำหรับผู้ใหญ่ทั่วไป

ไวโอลินที่แพงที่สุดในโลกคือ 18 ล้านดอลลาร์

เจ้าของสถิติเดิมคือ Stradivarius ไวโอลินที่โด่งดังไปทั่วโลก ชื่อนี้หลายคนอาจจะคุ้นหูเพราะปรากฏในภาพยนตร์หรือการ์ตูนหลายเรื่องเช่น โคนัน ไวโอลินตัวนี้ถูกประมูลเพื่อช่วยผู้ประสบภัยสึนามิเมื่อปี 2011 ในราคา 15.9 ล้านดอลลาร์ จนมาถูกทำลายสถิติราบคาบเมื่อปี 2013 เมื่อเศรษฐีชาวอาหรับที่ไม่ประสงค์ออกนามซื้อ Vieuxtemps  ไวโอลินของนักทำไวโอลินอย่าง Guarneri ในราคา 18 ล้านดอลลาร์ (จากการเปิดเผยของ J&A Beare ร้านไวโอลินชื่อดังในลอนดอนที่เป็นสื่อกลางในการซื้อขายครั้งนี้ ปัจจุบันเศรษฐีชาวอาหรับได้ให้สิทธิ์ Anne Akiko Meyers นักไวโอลินชาวญี่ปุ่นเป็นผู้เล่น

ขอบคุณบทความจาก sheetmusicplus

ขอบคุณรูปภาพจาก takelessons, consordini

เรื่องที่คุณอาจจะยังไม่รู้ของไม้ Top-Solid

โดยทั่วไปแล้วหากนักดนตรีจะซื้อกีต้าร์ดีๆซักตัวก็คงต้องศึกษาเรื่องไม้กันพอสมควรเพื่อให้ได้กีต้าร์คุณภาพดี โดยเฉพาะกีต้าร์โปร่งที่มักจะใช้ไม้ปะหน้าที่เป็นไม้แท้หรือ Top-Solid มาเป็นจุดขาย หลายๆคนก็อาจจะงงว่า อ้าว แล้วถ้าไม่ใช่ Top-Solid แสดงว่าเป็นไม้ปลอมหรือวัสดุสังเคราะห์หรือเปล่า ขอบอกตรงนี้เลยว่าไม่ใช่ เพราะทั้งสองชนิดนี้คือไม้แท้ทั้งคู่ แตกต่างตรงที่ Solid จะเป็นไม้แบบแผ่นเดียว ส่วน Laminate จะเป็นการใช้ไม้หลายท่อนมาประกอบกัน

มาถึงตรงนี้หลายคนก็อาจจะร้อง อ๋อ เพราะตามสเปคกีต้าร์โปร่งจะมี Top-Solid หลายประเภทเหลือเกิน เช่น ท็อปโซลิดสปรู๊ซ ก็คือการใช้ไม้สนแบบแผ่นเดียวทำเป็นสวนหน้าบอดี้ หรือท็อปโซลิดมะฮอกกานีก็คือการนำไม้มะฮอกกานีแบบแผ่นเดียวมาทำกีต้าร์นั่นเอง ทีนี้ตัวไม้ Top-Solid มันมีข้อดีข้อเสียอย่างไรที่บางคนยังไม่รู้ เราก็จะพาไปไขคำตอบกันดังนี้

guitar wood

Top-Solid VS Laminate

เชื่อว่าคงเคยได้ยินมาว่าถ้าเป็นไม้แท้ยิ่งเวลาผ่านไปเท่าไหร่กีต้าร์เสียงจะดีขึ้น ซึ่งข้อดีพิสูจน์แล้วว่าเป็นความจริง เพราะการใช้ไม้แผ่นเดียวพอเวลาไม้แห้งเนื้อไม้จะผสานตัวเข้าหากัน ทำให้ไม่มีช่องอากาศเล็กๆน้อยๆมาทำให้เสียงดร็อปอีกต่อไป ต่างจากไม้ Laminate หรือไม้ประกอบที่มักจะนำไม้ 2-3 ชั้นมาซ้อนกัน เมื่อเวลาไม้แห้งจะเชื่อมต่อกันไม่สนิทเพราะกาว อีกทั้งตัว Laminate ยังต้องวางไม้ซ้อนทำให้เนื้อไม้หนาจึงใช้เวลาแห้งนานกว่า ดังนั้นถ้าเลือกซื้อกีต้าร์โปร่งแบบ Top-Solid จะได้เปรียบตรงที่กีต้าร์คุณภาพเสียงดีขึ้นตามกาลเวลา

Saga_SF700CE_Solid_Top

Top-Solid ไม่ได้ให้เสียงใสเสมอไป

อย่างที่เกริ่นเอาไว้ว่า คำว่า Top-Solid คือไม้แผ่นเดียวกันเท่านั้น ทำให้เสียงของกีต้าร์ย่อมขึ้นอยู่กับว่าเอาไม้อะไรมาใช้เป็นส่วนประกอบเสียมากกว่า เช่น ถ้าเป็นโซลิดมะฮอกกานีก็จะให้สุ้มเสียงที่หนา sustain ค่อนข้างกว้าง ถ้าเป็นไม้ซิทก้าสปรู๊ซจะเด่นย่านเสียงกลาง เสียงไม่แตกง่ายทำให้ไม้โซลิดประเภทนี้เหมาะกับการตีคอร์ด หรือถ้าเป็นไม้อิงเกิ้ลแมนสปรู๊ซซึ่งเป็นไม้เนื้ออ่อนเสียงก็จะใสเหมาะกับการเล่นแบบฟิงเกอร์สไตล์ ดังนั้นความเชื่อที่ว่า Top-Solid ต้องเสียงใสๆกังวานจึงเป็นความเชื่อที่ผิด เวลาเลือกซื้อกีต้าร์ควรดูจากประเภทของไม้ที่เอามาทำมากกว่า

Sigma-DMC-STE--3-Top Solid Sitka Spruce

Top-Solid ไม่ได้เป็นไม้เกรดดีเสมอ

คำว่า Top ใน Top-Solid ไม่ได้หมายถึงเกรดไม้ แต่หมายถึงด้านบน(ด้านหน้า)ของตัวกีต้าร์ ดังนั้นการที่กีต้าร์เป็น Top-Solid ไม่ได้หมายความว่าเป็นกีต้าร์เกรดสูง แต่หมายถึงใช้ไม้แผ่นเดียวเท่านั้น ซึ่งถ้าหากไม้ที่ใช้เป็นไม้ไม่มีคุณภาพ บางครั้ง Top-Solid ของกีต้าร์โนเนมบางยี่ห้อก็ยังสู้ไม้ Laminate ของบางแบรนด์ที่เอามาประกอบไม่ได้เลย อีกทั้งช่วงหลังยังเริ่มใช้ไม้จากเขตร้อนมาทำ Top-Solid กีต้าร์มากขึ้นทั้งที่ไม้จำพวกนี้ความชื้นจะเยอะทำให้แห้งยาก จึงต้องใช้เวลานานกว่ากีต้าร์จะได้คุณภาพ จึงเป็นการค้านความเชื่อที่ว่ากีต้าร์ Top-Solid จะต้องคุณภาพดีเสมอไป

Image result for top solid vs laminate to makes guitar

ไม้ Top-Solid ใช่จะไม่มีข้อเสีย

แน่นอนล่ะว่าไม้แท้อย่าง Top-Solid ย่อมต้องมีข้อดีที่มากกว่า มือกีต้าร์หลายคนจึงเลือกใช้ ไม่ว่าจะเป็นการที่เนื้อไม้บางทำให้การสั่นของเสียงค่อนข้างกังวาน สาวกกีต้าร์โปร่งจึงชื่นชอบ หรือการพัฒนาคุณภาพเสียง แต่ใช้ว่าไม้ประเภทนี้จะมีแต่ข้อดีเพราะข้อเสียหลักๆของกีต้าร์ Top-Solid คือการดูแลรักษา เพราะไม้แผ่นเดียวย่อมเปลี่ยนง่ายตามสภาพอากาศ เช่นเดียวกับประตูหน้าต่างที่โดนความร้อนแล้วจะมีการคดงอ ผู้ที่มีกีต้าร์แบบท็อปโซลิดเลยต้องใส่ใจในจุดนี้มากหน่อย อีกทั้งกีต้าร์ Top-Solid เป็นกีต้าร์ที่ต้องการ”เล่นบ่อย” เพื่อให้เนื้อไม้มีการกระทบในความสั่นของเสียงอยู่ตลอดเวลา ถ้าซื้อไปแล้ววางมุมห้องไม่ค่อยได้เล่นเสียงจะมีความทึบมากขึ้น จึงเรียกได้ว่าต้องใช้งานบ่อยพอควร

paramount-f750-Solid Top

ดังนั้นยามเลือกซื้อกีต้าร์โปร่ง ควรจะถามความพร้อมของตนเองก่อนว่าเล่นสไตล์ไหน มีการใช้งานบ่อยเท่าไหร่ รวมไปถึงชอบกีต้าร์เสียงแบบไหน เพราะอย่างที่ได้เกริ่นกันไปแล้วว่าหากเล่นฟิงเกอร์สไตล์ก็ต้องท็อปโซลิดอิงเกิ้ลแมนสปรู๊ซ หรือเน้นตีคอร์ดก็ต้องเป็นท็อปโซลิดซิทก้าสปรู๊ซ และต้องไม่ลืมใส่ใจในตัวกีต้าร์ที่ซื้อมาอีกด้วย ถ้าหากคุณทะนุถนอมกีต้าร์อย่างดีใช้งานได้ถูกต้องแล้ว ภายในไม่กี่ปีข้างหน้ากีต้าร์โปร่งเก่าตัวโปรดของคุณจะเสียงดีขึ้นได้อย่างไม่น่าเชื่อ

ขอบคุณบทความจาก guitaradventures

ขอบคุณรูปภาพจาก guitaradventures, Guitarhabits, woodguys

10 กีต้าร์ Signature คนดังที่น่าจับจอง !!!

ปัจจุบันแบรนด์กีต้าร์ดังๆต่างจับเอาตัวศิลปินมาเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้กับสินค้ามากมาย ซึ่งนอกจากจะเป็นพรีเซ็นเตอร์แล้วก็ยังมีส่วนร่วมในการออกแบบกีต้าร์ให้คล้ายคลึงกับตัวที่พวกเขาเล่นอยู่เป็นประจำอีกด้วย ทำให้กีต้าร์รุ่น Signature ค่อนข้างได้รับความนิยมอย่างสูงในหมู่นักดนตรี ทางต่างประเทศจึงจัดอันดับ 10 กีต้าร์รุ่นคนดังที่ได้รับความนิยมสูง จะเป็นใครบ้างนั้นไปติดตามกันได้เลย

Image result for PRS Mark Tremonti Signature

อันดับ 10 PRS Mark Tremonti Signature

กีต้าร์ PRS รุ่นนี้ได้ Mark Tremonti มือกีต้าร์วง Creed ที่โด่งดังมาร่วมออกแบบ ซึ่งเจ้าตัวนั้นชื่นชอบดนตรีแนวเมทัลค่อนข้างมากทำให้ซาวด์กีต้าร์ตัวนี้ออกมาค่อนข้างดุเลยทีเดียว คอทำมาแบบบางบอดี้สีฟ้าตามแบบฉบับกีต้าร์ที่เจ้าตัวชอบเล่นคอนเสิร์ต ตัวนี้ได้รับการยกย่องว่าเสียงแน่นตีคอร์ดดุถูกใจสาวกเมทัลอย่างแรง

Image result for Ibanez Steve Vai Signature JEM

อันดับ 9 Ibanez Steve Vai Signature JEM

ถ้าเป็นมือกีต้าร์แล้วคงไม่มีใครไม่รู้จัก สตีฟ วาย เจ้าพ่อซาวด์กีต้าร์ชาวอเมริกันคนนี้ ดังนั้นกีต้าร์ซิกเนเจอร์ต้องเด่นเรื่องซาวด์กันหน่อย ทาง Ibanez จึงจัดปิ๊กอัพมาให้ 3 ตัวทั้งแบบเซรามิคและแบบแม่เหล็ก Anico นอกจากนี้ยังเพิ่มเสียง Vibrato หรือเสียงสั่นในคันโยกกันด้วยเพื่อสาวกจะได้เล่นกันสะใจ รุ่นนี้ยังมีถึง 24 เฟรตให้แฟนๆ สตีฟ วาย โซโล่กันเต็มที่ จึงไม่แปลกที่รุ่นดีจะเป็นรุ่นท็อปๆที่ขายดีของค่าย Ibanez

Image result for Randy Rhoads Signature Polka Dot

อันดับ 8 Randy Rhoads Signature Polka Dot

มือกีต้าร์วงออสซี่ ออสบอร์นที่บางครั้งจะใช้เลสพอลขึ้นเวลทีแต่กลับทำกีต้าร์ซิกเนเจอร์ตนเองเป็นทรง Flying-V แม้ว่าช่วงแรกจะไม่ค่อยได้รับความนิยมเท่าไหร่กับบอดี้ลายจุดที่ดูเหมือนเชยๆ แต่หลังจากเจ้าตัวเสียชีวิตลงในปี 1982 ราคาก็พุ่งพรวดกลายเป็นกีต้าร์ล้ำค่าทันที ตัวปิ๊กอัพฮัมบักเกอร์ 2 ตัว ทำให้เสียงดุดันแบบแนวเมทัล

Related image

อันดับ 7 Fender Stevie Ray Vaughan Signature Stratocaster

หลายคนอาจไม่รู้จักมือกีต้าร์บลูส์คนนี้ เพราะ สตีวี่ เรย์ วอห์น เสียชีวิตไปตั้งแต่ปี 1990 แต่ครั้งหนึ่งเคยโดดเด่นถึงขั้นขึ้นเวทีเล่นคู่กับ เอริค แคล็ปตัน มาแล้ว สิ่งพิเศษของกีต้าร์รุ่นนี้คือเจ้าตัวบอกว่าชอบบอดี้เฟนเดอร์ปี 1963 คอแบบปี 1962 และปิ๊กอัพแบบปี 1959 ทำให้กีต้าร์ซิกเนเจอร์ที่ออกมาตอนปี 1983 นั่นผสมผสานระหว่าง 3 รุ่น ซึ่งเสียงก็คงไม่ต้องบอกเพราะเจ้าของซิกเนเจอร์ยังแนวบลูส์ซะขนาดนี้

Image result for Dean Dimebag Darrell Signature

อันดับ 6 Dean Dimebag Darrell Signature

แบรนด์กีต้าร์ Dean อาจไม่คุ้นหูคนไทยซักเท่าไหร่ แต่ถ้าเป็นชื่อของ Dimebag Darrell มือกีต้าร์วงแพนเทร่าคงรู้จักกันดี กีต้าร์รุ่นนี้รูปทรงจะเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวมาก ผลิตจากไม้มะฮอกกานีล้วนๆทุกส่วน เสียงหนาสะใจ บวกกับใช้ปิ๊กอัพ DiMarzio ที่ขึ้นชื่อเรื่องเสียงพุ่งอยู่แล้ว สายเฮฟวี่เมทัลแฟนเพลงของแพนเทร่าหลายคนจึงมักสะสมรุ่นนี้ไว้ในคอลเล็คชั่น

อันดับ 5 ESP LTD James Hetfield Snakebyte

อาจจะกล่าวได้ว่า James Hetfield เป็นผู้ที่ทำให้ชื่อเสียงของกีต้าร์ ESP โด่งดังขึ้นมาก็ว่าได้ เพราะตั้งแต่เจ้าตัวดีไซด์รุ่นสเน็คไบรท์ให้กับแบรนด์ ESP ก็ขายดีเป็นเทน้ำเทท่า ด้วยรูปทรงที่แปลกตาโดดเด่น ซาวด์กีต้าร์ยังร้อนแรงเหมือนของวงเมทัลลิก้าเจ้าของซิกเนเจอร์อีกด้วย เพราะปิ๊กอัพที่ใช้เป็นรุ่น EMG JH SET ที่เจมส์ได้ติดต่อประธานบริษัท EMG ร็อบ เทอร์เนอร์ขอเป็นคนออกแบบการผลิตเอง ดังนั้นซาวด์กีต้าร์จึงครองใจนักดนตรีเกือบทั่วโลก

อันดับ 4 Gibson Buckethead Signature Les Paul

กีต้าร์ของ Buckethead หรือไอ้หัวถังนักดนตรีชาวอเมริกันที่เคยร่วมทำเพลงกับ Gun’N Roses มาแล้ว แม้เจ้าตัวจะโด่งดังในเรื่องการร่วมแจมกับมือกีต้าร์อื่นๆ แต่ตัวกีต้าร์นั้นกลับเป็นที่สนใจอย่างมากเนื่องจากการออกแบบดีไซด์สุดล้ำด้วยสีขาวครีมทั้งตัวแบบไม่มีอินเลย์ สวิทช์สีแดง มีปุ่มเป็นคันโยก วัสดุอื่นๆยังใช้เป็นรุ่นท็อปทั้งนั้นไม่ว่าจะเป็นบอดี้เมเปิ้ล 2 แผ่นซ้อน คอมะฮอกกานีแบบแผ่นเดียว ซาวด์หวานเจี๊ยบอย่างไม่น่าเชื่อจนได้เรตคะแนนถึง 9.9 เต็ม 10 จากการโหวตโดยมือกีต้าร์ทั่วโลกในเวป Gibson เลยทีเดียว

อันดับ 3 Gibson Tony Iommi Signature SG “Monkey”

ซิกเนเจอร์สำหรับกีต้าร์มือซ้ายอย่าง Tony Iommi มือกีต้าร์วงแบล็คซับบาธได้รับการยกย่องว่าเป็นกีต้าร์ที่เสียงดีมาก ด้วยการผลิตในปี 1965 ทำให้กีต้าร์รุ่นนี้มีอายุมากกว่าครึ่งศตวรรษแล้ว ปิ๊กอัพ Gibson P90 ทั้งแบบฮัมบัคกิ้งและซิงเกิ้ลคอยด์ผสานกันอย่างลงตัว แม้ว่าซาวด์จะออกมาหนาดุ แต่ก็มีความนุ่มลึกในเนื้อเสียงเป็นที่นิยมค่อนข้างมาก

Image result for Eddie Van Halen's Frankenstrat

อันดับ 2 Eddie Van Halen’s Frankenstrat

รุ่นนี้ดังขนาดไหนก็สามารถทำซีรี่ย์แฟรงค์เก้นสแตรทเป็นของตนเองขึ้นมาได้ แถมเฮียเอ็ดดี้แกยังเก๋าถึงขนาดผสม Fender และ Gibson เข้าด้วยกันโดยทรงจะคล้าย Stratocaster แต่ใช้ปิ๊กอัพแบบฮัมบัคกิ้ง ตัวไม้จะเป็นไม้แอชและเมเปิ้ล มีฟลอยโรสตามสไตล์เจ้าตัว รุ่นซิกเนเจอร์ออกมาให้จับจองกันตั้งแต่ปี 1980 หรือ 35 ปีกว่าๆมาแล้วจึงมั่นใจได้ในคุณภาพเสียง ส่วนตัวจริงที่พี่แกใช้นั้นไม่ต้องพูดถึง ราคาปัจจุบันคือ 40 ล้านบาท เป็นหนึ่งในกีต้าร์หายากของโลกไปแล้ว

Image result for Fender David Gilmour Signature Black Stratocaster

อันดับ 1 Fender David Gilmour Signature Black Stratocaster

ซิกเนเจอร์ของมือกีต้าร์วง Pink Floyd ที่หลายคนอาจจะงงว่ามันก็รูปร่างเหมือน Stratocaster ทั่วไปนี่นา ทำไมถึงติดอันดับ 1 และฮิตที่สุดในโลก ก็ไม่มีอะไรมากครับ ตัวที่ David Gilmour ใช้ของแท้นั้นมันมีซีเรียลปั้มเลข 0001 หรือ กีต้าร์ตัวแรกของทรง Stratocaster นั่นเอง (จริงๆแล้วเฟนเดอร์สแตรทตัวแรกที่จำหน่ายซีเรียล 0010) แต่ตัวนี้ดันเป็นของนายลีโอ เฟนเดอร์เจ้าของบริษัทเฟนเดอร์ที่ขายต่อให้กับ ซีมัวร์ ดันแคน และ กิลมัวร์ก็ไปซื้อต่อมาอีกทีนั่นเอง

จริงอยู่ว่าซิกเนเจอร์ที่ออกมานั้นคุณค่าคงไม่เท่ากับของเจ้าตัวหรือแทบจะไม่ต่างกับทรง Strat ทั่วๆไป แต่เนื่องจากใครๆก็อยากรู้ว่าเฟนเดอร์ตัวแรกเป็นอย่างไรคุณภาพเสียงดีแค่ไหน ทำให้รุ่นนี้เป็นที่ยอดนิยมมากที่สุดในโลกไปทันที สำหรับกีต้าร์ซีเรียล 0001 ตัวจริงนั้นเจ้าตัว David Gilmour ก็ได้นำมาเล่นในคอนเสิร์ตฉลองครบรอบ 50 ปี Stratocaster ไปไม่นานที่ผ่านมา ก่อนจะได้รับการตีค่ากีต้าร์ตัวนั้นถึง 50 ล้านบาท

Line 6 Variax STD กีตาร์ไฟฟ้า

ขายเพียง  32,000฿ จาก  37,650฿