7 เสียงเอฟเฟคที่มือใหม่ไม่ควรพลาด
วันนี้ Music Arms มีบทความที่จะมาแนะนำและไขข้อข้องใจใครหลายๆคนโดยเฉพาะมือกีต้าร์ไฟฟ้ามือใหม่ทั้งหลาย หลังจากที่พวกเพื่อนได้ลองต่อกีต้าร์เข้ากับตู้แอมป์และลองเล่นไปซักพักแล้ว ก็จะเกิดคำถามขึ้นมาว่า เราควรจะมีเอฟเฟคดีมั้ย แล้วเอฟเฟคมีกี่แบบ ประเภทใช้งานยังไง ประเภทไหนเหมาะกับดนตรีแบบเรา โอ้ย คำถามมากมายก่ายกอง ตอบคำถามแรกก่อนเลยว่าเอฟเฟคปัจจุบันนั้นมีหลากหลายแบบหลายเสียงกันเลย เกิน 10 ประเภทด้วยซ้ำ เอาแค่เสียงแตกก็มีหลายระดับเข้าไปแล้ว หากเพื่อนๆจะเก็บสะสมเอฟเฟคให้ครบก็ต้องดูการใช้งานด้วยว่าตนเองเล่นเพลงแนวไหน เพราะเอฟเฟคบางตัวนั้นอาจไม่จำเป็นกับแนวเพลงนั้นเลยด้วยซ้ำ ทำให้วันนี้ Music Arms จะมาขอแนะนำ 7 ประเภทเอฟเฟคที่มือกีต้าร์ชอบใช้งานกัน บางคนอาจรู้จักกับ 7 เอฟเฟคนี้ดีแล้ว แต่สำหรับมือใหม่ ถือว่าสำคัญอย่างมาก
Overdrive (โอเวอร์ไดร์ฟ)
เป็นเอฟเฟคประเภทหลักที่เรารู้จักกันว่า”เสียงแตก” จริงๆแล้วเสียงแตกก็แบ่งเป็นหลายระดับ บางคนอาจใช้เอฟเฟคเสียง Distortion ซึ่งเป็นเสียงแตกในระดับมากกว่าในเพลงร็อคและเมทัล แต่แต่เอฟเฟค Overdrive ก็ถือว่าเพียงพอกับการใช้งานในทุกๆแนวเพลงแล้ว เป็นเอฟเฟคที่มือกีต้าร์จะขาดเสียไม่ได้ไม่ว่าคุณจะเล่นแนวร็อค บลูส์ หรือ แจ๊ส ถ้ามือกีต้าร์คนไหนต้องการเอฟเฟคตัวแรกในชีวิต แนะนำให้ซื้อ Overdrive ก่อนเพื่อนเลยครับ ปัจจุบันก็มีหลายยี่ห้อ แต่ที่ฮิตที่สุดคงไม่พ้น Boss ที่มือกีต้าร์ใช้กันมานาน
Distortion (เดสโทรชั่น)
เอฟเฟค ประเภท Distortion นั้นจะคล้ายคึงกับประเภท Overdrive แต่ Deatrotion จะเป็นเสียงแตกที่มากกว่า คล้ายกับรากศัพท์คือ Distort แปลว่าการบิดเบือนสัญญาณให้เพี้ยน เอฟเฟคประเภทนี้จึงนิยมใช้กับเพลงร็อคแบบหนักๆไปเลยเช่นพวกฮาร์ดร็อคหรือเมทัล เสียงจะมีการบิดมวลจากภาคไฟฟ้าเยอะกว่าแบบ Overdrive และคุมซาวด์ได้ค่อนข้างยากกว่า แต่เป็นที่นิยมไม่น้อยไม่กว่ากันเลย
Chorus (คอรัส)
เป็นเอฟเฟคที่จะช่วยให้เสียงมีมิติมากขึ้น โดยตัวเอฟเฟคจะเข้าไปทำให้สัญญาณเสียงทีการสั่นสะเทือนมากขึ้น เสียงที่ได้จากเอฟเฟคนี้จึงมีความหนา สั่น และหวานมากขึ้น คล้ายคลึงตามชื่อเหมือนมีคอรัสมาร้องเพลงร่วม ให้ซาวด์ไม่บางจนเกินไป สามารถใช้ได้ทั้งเสียงคลีนและเสียงแตก โดยมากจะใช้กับเสียงคลีน เพราะแบบปิ๊กกิ้งคอร์ดจะทำให้กังวาน เหมาะกับแนวเพลงหลายแนวไม่ว่าจะเป็นร็อค บลูส์ แจ๊ส ที่ต้องการให้เสียงหวาน อวบหนาขึ้น เป็นหนึ่งในเอฟเฟคหลักที่มือกีต้าร์ชอบติดไว้
Reverb (รีเวิร์ป)
Reverb เป็นการจำลองเสียงก้องที่เราพบในธรรมชาติ เช่นเสียงก้องในห้องขนาดต่างๆ โดยปัจจุบันเอฟเฟค Reverb ทั่วไปจะจำลองเสียงจาก Hall หรือห้องประชุมใหญ่ หรือแบบ Room ห้องเล็ก นั่นหมายถึงระดับความก้องของเสียง เช่น หอประชุมใหญ่ก็จะมีความก้องที่แตกต่างจากห้องเล็กทั่วไป เสียงจะมีความลึกมีมิติ โดยหลักการคือเสียงจากต้นกำเนิดเสียงวิ่งไปกระทบวัตถุสะท้อนกลับมา ลักษณะต่างๆกันออกไปตามลักษณะของพื้นที่ที่จำลองมา เช่น ห้องกว้างๆ ถ้ำ ห้องแคบ จะมีลักษณะ Reverb ต่างกัน คล้ายๆกลับ Delay
Delay (ดีเลย์)
เอฟเฟคที่คุ้นเคยกันดี ผลของมันก็ตามชื่อเลย คือจะจำลองเสียงกีต้าร์ที่เราดีดไว้ก่อนหน้านี้ แล้วค่อยทำให้เสียงนั้นออกมาตามหลังหรือมีการดีเลย์ สามารถปรับที่ตัวเอฟเฟคได้เลยว่าต้องการให้ดีเลย์ตามหลังมากี่วินาที โดยเสียงดีเลย์ก็จะมีการปรับแต่งได้อีกว่าจะเอาเสียงแบบไหน วินเทจหรือเปล่า มือกีต้าร์หลายคนจึงมักจะใช้เอฟเฟคตัวนี้เพื่อเพิ่มความหนาให้ซาวด์ โดยเฉพาะวงที่มีกีต้าร์ตัวเดียวอาจใช้เสียงดีเลย์ให้วงดูเต็มมากขึ้น แน่นอนว่าเป็นอีกเอฟเฟคที่ควรจะมีติดตัวไว้รองจาก Overdrive
Wah Wah (วาล์ว)
เป็นหนึ่งในเอฟเฟคที่มือใหม่ชื่นชอบกันอย่างมาก เรียกกันว่าวาล์ว เหยียบแล้วจะมีเสียง วาว วาว ตามชื่อ ถ้าใครนึกเสียงไม่ออกก็ให้ไปลองฟังเพลง “เพียงกระซิบ” ของวงแบล็คเฮดในท่อน Intro นั่นแหละเสียงของเอฟเฟคตัวนี้ ถ้าเอาจริงๆแล้วถือว่าหาเพลงที่ใช้น้อย และเหมาะกับเพลงร็อคและฟังก์เป็นส่วนใหญ่ แต่ด้วยความนิยมของมันทำให้มือกีต้าร์มีติดตัวแทบทุกคน สำหรับมือใหม่ก็ถือว่าน่ามีไว้ใช้พอสมควรแต่อาจจะซื้อเป็นอย่างหลัง เพราะการเล่นเอฟเฟคตัวนี้ค่อนข้างยากต้องคุมจังหวะเท้าดีๆ เรียกว่ามีไว้ไม่เสียหาย
Flanger (แฟรงเจอร์)
สำหรับเอฟเฟคตัวนี้อาจได้รับความนิยมน้อยกว่า 4 แบบแรก แต่ระยะหลังถือว่ามาแรงพอสมควรโดยเฉพาะกับวงที่ต้องใชิอิเล็คโทรนิกส์ซาวด์อาจใช้เอฟเฟคแฟรงเจอร์ดัดแปลงแทน การทำงานคือจะเข้าไปบิดสัญญาณเสียงให้มีลักษณะแปลกๆ ซาวด์อวกาศเคว้งคว้าง หากใครนึกไม่ออกให้ไปเปิดเพลง “ติ๋ม” ชองวงโมเดิร์นด็อกเลย จะได้ฟังซาวด์เจ้าเอฟเฟคตัวนี้กันเต็มๆ เป็นเอฟเฟคที่ชาวร็อคชื่นชอบในการทำซาวด์เพลงแปลกๆ แถมวิธีใช้งานก็แสนง่าย เหมาะสำหรับมือกีต้าร์มือใหม่ที่กำลังจำเจกับเสียงคลีนเดิมๆ
