ถ้าคุณเป็นคนชอบฟังเพลงผ่านหูฟังที่ให้เสียงที่เป็นธรรมชาติ หรือไม่ถูกปรุงแต่งจนเกินไป หูฟังส่วนใหญ่ที่ขายกันอยู่อาจจะไม่ตอบโจทย์ความต้องการของคุณ การเลือกหูฟังที่ตอบสนองต่อเสียงอย่างสมบูรณ์ ครบถ้วนทุกย่านความถี่ ประหนึ่งหูฟังที่เหล่า Sound Engineer ใช้งานกันตามสตูดิโอ ซึ่งหูฟังมอนิเตอร์นั้นจะถูกออกแบบมาเพื่อการทำเพลง ให้ได้ซาวด์ที่ครบทุกย่าน วันนี้ Music Arms จะมาแนะนำ 5 หูฟังมอนิเตอร์เจ๋งๆสำหรับทำเพลงให้เพื่อนๆที่กำลังมองหาหูฟังดีๆซักตัว จะมีรุ่นไหนบ้างนั้นไปรับชมกันเลย
AKG K72 หูฟังแบบ Full-Size ที่สามารถใช้งานได้ทั้งแบบ Monitor และ ฟังเพลงทั่ว ๆ ไป โดยตัวหูฟังนั้นมาในรูปทรงแบบเดียวกับที่ใช้ในสตูดิโอ ตัวก้านนั้นให้ความยืดหยุ่นได้ดีเยี่ยม โดยตัวแพดนั้นจะมีขนาดใหญ่สามารถครอบปิดใบหูได้อย่างเต็มใบโดยให้ความนุ่มนวลไม่บีบรัดใบหูจนอึดอัด ตัวสายนั้นมีความยาวมาให้ 3 เมตร ช่วยให้ใช้ทำงานได้อย่างสะดวก โดยหัวแจ็คนั้นจะมาในขนาด 3.5 mm ซึ่งจะมีอแดปเตอร์แปลงไปเป็น 6.3 mm มาให้อยู่ในกล่อง
สรุป
AKG K72 Headphone ราคาคุ้มค่าแบบสุดๆ แต่ได้ระดับเดียวกับที่ใช้ใน Studio แบบ Monitor เลยทีเดียว เรื่องเสียงที่มีความเที่ยงตรงสูงมากๆ ไร้การปรับแต่งใดๆ เหมาะกับคนที่ชอบฟังเพลงแบบที่ให้เสียงแนวเดียวกับต้นฉบับ ชื่นชอบในความเที่ยงตรงของเสียง หรือมองหาแบบที่สวมใส่ได้สบาย ปรับขนาดได้ น้ำหนักเบา หรือแม้แต่คนที่มองหาที่เป็นแบบปิด เพื่ออิ่มเอมดื่มด่ำกับประสบการณ์ด้านเสียงล้วนๆ แบบไร้สิ่งใดๆ ที่จะมารบกวนหรือแม่แต่เล็ดลอดเข้ามา บอกเลยว่ารุ่นนี้ตอบโจทย์สุดๆ ไม่ต้องมีงบที่มากมายก็เป็นเจ้าของได้แล้ว
สเปค : 
ช่วงความถี่ 16 ~ 20,000 Hz
แรงต้านไฟ 32 โอห์ม
หูฟังแบบ Closed
ความยาวสายเคเบิล 3 เมตร
แจ็คขนาด 3.5 มม.
Audio Technica ATH-M50X หูฟังมอนิเตอร์รุ่นกลาง เป็นแบบ Closed หรือปิดหู ใช้วัสดุทำจากพลาสติกเป็นหลักจึงมีน้ำหนักเบา ใช้งานสะดวก สายเคเบิ้ลยาวถึง 3 เมตร คอยล์เสียงเป็นอะลูมิเนียมหุ้มทองแดง รับคลื่นเสียงได้กว้างและชัดเจน ซาวด์ออกชัดทุกย่านเสียง เหมาะทั้งใช้งานในสตูดิโอหรือใช้งานทั่วไปก็ได้สบายๆ
สรุป
หูฟัง Audio-Technica M50x เหมาะสำหรับนักฟังเพลงที่แสวงหารายละเอียดของเสียงร้องและชิ้นดนตรี รวมไปถึงความแม่นยำของการถ่ายทอดของเสียงเพลงจากห้องอัด ต้องการฟังเพลงอย่างจริงจัง รวมไปถึงผู้ที่จะใช้งานในระดับสตูดิโอ ห้องอัด หรือทำดนตรี แต่อาจจะไม่เหมาะกับนักฟังเพลงที่ชอบเสียงเพลงแบบปรุงแต่ง มีสีสัน หรือเน้นเสียงเบสเป็นหลัก อย่างไรก็ตามด้วยราคาหลักพันกลางๆ ทำให้หูฟังตัวนี้ เป็นหูฟังที่คุ้มค่า น่าหามาครอบครองเป็นอย่างมาก
สเปค : 
หูฟังประเภท Closed
Driver Diameter 45 มม.
แม่เหล็กนีโอไดเมี่ยม
คอยล์เสียงเป็นอะลูมิเนียมหุ้มทองแดง
รับความถี่ที่ 15 – 28000 Hz
กำลังขับ Input สูงสุด 1600 mW ที่ 1 kHz
ค่า Sensitivity ที่ 99 dB
ค่า Impedance 38 โอห์ม
น้ำหนัก 285 กรัม
สายเคเบิ้ลยาว 3 เมต
Sennheiser HD 280 Pro เป็นหูฟังครอบหูแบบปิด ได้รับการออกแบบมาเพื่อความต้องการของมืออาชีพ เสียงต่ำที่คมชัดเสียงกลางที่แตกต่างและเสียงสูงที่ชัดเจนคือสิ่งที่ HD 280 PRO สมบูรณ์แบบสำหรับการบันทึกและการมิกซ์เสียง การออกแบบที่พับเก็บได้ไม่เหมือนใครรวมกับเอียร์คัพแบบหมุนได้มอบความยืดหยุ่นสูงสุดในทุกการใช้งาน การลดทอนสัญญาณรบกวนรอบข้างสูง ใช้ได้ทั้งสตูดิโอบันทึกเสียงในบ้านและระดับมืออาชีพ
สรุป
หูฟัง Sennheiser HD 280 Pro มาพร้อมกับเสียงต่ำที่ไพเราะ เสียงกลางที่ชัดเจนและเสียงสูงที่ชัดเจนคือสิ่งที่กำหนด ทำให้เป็นคู่หูที่สมบูรณ์แบบสำหรับการบันทึกและมิกซ์เซสชัน และด้วยความสบายใจ ชั่วโมงเหล่านั้นที่อยู่หน้าจอจะไม่ทำให้หูของคุณเหนื่อยมากเท่ากับที่ตาของคุณ พบได้ในบ้านและสตูดิโอบันทึกเสียงระดับมืออาชีพทั่วโลก HD 280 PRO ได้กลายเป็นมาตรฐานอุตสาหกรรมด้วยเหตุผลมากกว่าหนึ่งประการ
สเปค : 
แบบคาดศีรษะ
การตอบสนองความถี่ 8 – 25000 เฮิรตซ์
ระดับความดันเสียง (SPL) 113 เดซิเบล
THD ค่า distortion ของฮาร์โมนิค 0,1%
Contact pressure 6 N
ช่องต่อสเตอริโอ 3.5 / 6.3 มม.
สายเคเบิลขด ยาว 3 เมตร
รูปแบบไดนามิค
ค่า impedance 64 Ω
Load rating 500 mW
น้ำหนัก 285 กรัม
Beyerdynamic DT990 Pro อีกหนึ่งรุ่นยอดนิยมของทาง Beyerdynamic ที่ผลิตในเยอรมัน รุ่นนี้จะมีความแตกต่างจากรุ่น DT770 Pro ที่จะเป็นหูฟังแบบ Open-Back ด้านหลังมีความโปร่งสามารถปล่อยให้เสียงเล็ดลอดออกมาได้ จึงเป็นหูฟังที่เหมาต่อการฟังในสถานที่ส่วนตัวเช่นห้องสตูดิโอมากกว่า และรุ่นนี้จะให้ย่านเสียงต่ำที่ดีกว่า เป็นประเภทกลมกลืนทุกย่านเสียง จึงใช้ได้ทั้งการฟังเพลงส่วนตัวและตัดต่อเพลง
สรุป
Beyerdynamic DT990 Pro หูฟังครอบหูแบบมอนิเตอร์ซึ่งจะเหมาะสำหรับคนที่ต้องการทำเพลงโดยแยกเสียงต่างๆ เช่น ทุ้ม กลาง แหลมให้ชัดเจน รุ่นนี้แยกเสียงรบกวนรอบข้างได้ดีเยี่ยม และมีความแม่นยำ ใส่สบายหู หากใครกำลังสนใจหูฟังมอนิเตอร์ดีๆสักตัวแอดมินแนะนำรุ่นนี้เลยครับ
สเปค : 
รูปแบบไดนามิค
หูฟังแบบ Open-Back
น้ำหนัก 270 กรัม
การตอบสนองความถี่ 5Hz-35kHz
ขนาดไดร์เวอร์ 45 มม
ความต้านทาน 250 โอห์ม
การเชื่อมต่อเสียงกับ Circumaural ของหู
ช่องต่อแจ็คสเตอริโอ 3.5 มม.
สายเคเบิ้ล 9.8 เมตร
Beyerdynamic DT 880 PRO 250 OHMS หูฟังสตูดิโอที่ใช้การมิกซ์เสียงในห้องอัดได้ดี ผลิตจากประเทศเยอรมันได้มาตรฐานสูง รุ่นนี้การออกแบบจะเป็นแบบ Semi Open ด้านหลังเปิด ทำให้ใส่สบายรู้สึกปลอดโปร่งมากขึ้น อีกทั้งตัวหูฟังยังทำจากทำจากผ้า Microfiber ใส่นานๆจะไม่รู้สึกเจ็บหู รุ่นนี้จะรับเสียงกลางได้ชัดเจน สามารถใช้งานได้หลากหลาย นำไปฟังเพลงก็ได้ แนวเสียงที่ได้มีความเป็นธรรมชาติ ฟังแล้วรู้สึกถึงความสมจริง
รุ่นนี้จะมีค่า Impedance สูงสุดถึง 250 ohms ทำให้ได้ซาวด์ชัดเจนแม้จะเชื่อมต่อกับโทรศัพท์และคอมพิวเตอร์ ภายในบรรจุไดร์เวอร์ขนาด 45 มม. เพิ่มประสิทธิภาพในการรับเสียง รูปทรงดูเท่ สวยงาม หรูหรา มาพร้อมสายเคเบิ้ลแบบขด ยาว 3 เมตรซึ่งตัวสายจะถอดออกได้ รองรับความถี่เสียงที่ 5 – 35,000 Hz ซึ่งถือว่ากว้างมาก ใครมองหาหูฟังที่ใช้ได้หลากหลาย ต้องรุ่นนี้แล้วจะติดใจ
สรุป
Beyerdynamic DT 880 PRO 250 OHMSหูฟังครอบหูแบบมอนิเตอร์ซึ่งจะเหมาะสำหรับคนที่ต้องการทำเพลงโดยแยกเสียงต่างๆ เช่น ทุ้ม กลาง แหลมให้ชัดเจน รุ่นนี้แยกเสียงรบกวนรอบข้างได้ดีเยี่ยม และมีความแม่นยำ ใส่สบายหู หากใครกำลังสนใจหูฟังมอนิเตอร์ดีๆสักตัวแอดมินแนะนำรุ่นนี้เลยครับ
สเปค : 
รูปแบบไดนามิค
หูฟังแบบ Semi Open
การตอบสนองความถี่ 5Hz-35kHz
ขนาดไดร์เวอร์ 45 มม.
ความต้านทาน 250 โอห์ม
สายเคเบิ้ลแบบขด ยาว 3 เมตร
การเชื่อมต่อเสียงกับ Circumaural ของหู
ถอดสายเคเบิ้ลได้
ช่องต่อแจ็คสเตอริโอ 3.5 มม.
น้ำหนัก 65 ปอนด์
และนี่คือทั้ง 5 หูฟังมอนิเตอร์ยอดนิยมที่เหมาะต่อการทำเพลง โดยมีตั้งแต่รุ่นเริ่มต้นราคาเบาๆ ไล่ไปจนระดับที่เหมาะต่อการทำเพลงในรูปแบบต่างๆ แต่ละรุ่นก็จะให้ซาวด์ในการรับเสียงที่ดีเยี่ยมแตกต่างกันไป หากเพื่อนคนไหนสนใจหูฟังมอนิเตอร์สำหรับทำเพลง ก็สามารถเข้ามาซื้อหากันได้ที่ Music Arms หรือหากยังไม่แน่ใจสามารถเข้ามาสอบถามที่ร้าน Music Arms ทุกสาขาได้เลย เรายินดีให้คำปรึกษาเพื่อนๆทุกคนเพื่อให้ได้ประสบการณ์ดีๆก่อนออกจากร้านไปเสมอครับผม