มารู้จักสายกีต้าร์โปร่ง SIT 3 แบบ ยอดนิยม
ปัจจุบันสายกีต้าร์โปร่งนั้นมีหลายแบรนด์ให้เลือกใช้ บางคนอาจจะคุ้นเคยกับแบรนด์อย่าง Gibson หรือ Daddario แต่วันนี้ Musicarms มีแบรนด์ใหม่มาแนะนำ งานนี้บอกเลยว่าไม่ดีจริงไม่บอกต่อ การันตีด้วยยอดขายจากทาง Musicarms และผู้ใช้งานแล้วว่าดีจริง นั่นก็คือยี่ห้อ SIT สำหรับ SIT นั้นมีทั้งสายกีต้าร์โปร่ง สายกีต้าร์ไฟฟ้า และสายกีต้าร์คลาสสิค ถือเป็นอีกยี่ห้อที่กำลังมาแรงในเมืองไทย ใครที่มองหาสายกีต้าร์โปร่งดีๆคงอยากรู้แล้วว่า SIT นั้นมีดียังไง วันนี้เราไปค้นคำตอบกับ Musicarms พร้อมกันในบทความนี้ได้เลย
ก่อนอื่นเรามาทำความรู้กับกับแบรนด์นี้กันก่อน โดยคำว่า S.I.T นั้นย่อมาจากคำว่า Stay in tune หมายถึงการใช้ชีวิตอยู่กับเสียงเพลงเสียงดนตรีต่างๆ ซึ่งก็เป็นคำนิยามที่บ่งบอกคุณภาพของสายกีต้าร์ได้เป็นอย่างดี ตัวบริษัทก่อตั้งเมื่อปี 1980 หรือมีอายุ 39 ปี โดยมีสาขาใหญ่ที่รีฐโอไฮโอ ประเทศอเมริกา สินค้าทุกรุ่นของทาง SIT นั้นจะ Made in USA ทั้งหมด ลูกค้าจึงมั่นใจในคุณภาพกันได้เต็มที่ ผ่านการทดสอบจากนักดนตรีชั้นนำมากมาย และไม่หยุดพัฒนาเรื่องเสียงโดยมีทีมวิศวกรคอยคิดค้นเทคโนโลยีใหม่ๆใส่ในสายกีต้าร์เสมอ
เราจะมาว่าด้วยเรื่องการเลือกสายและเปลี่ยนสายกีต้าร์กันก่อน สำหรับมือใหม่หลายท่านอาจกังวลเรื่องการเปลี่ยนสายเพราะยังเปลี่ยนไม่เป็นหรือไม่มีเครื่องมือเฉพาะทาง ปัจจุบันร้านจำหน่ายกีต้าร์แทบทุกร้านมีบริการเปลี่ยนสายโดยคิดค่าบริการแตกต่างกันไป เช่นเดียวกับ Musicarms ทั้ง 4 สาขาก็มีบริการเปลี่ยนสายเช่นกัน ใกล้ที่ไหนแวะใช้ใช้บริการกันได้ ส่วนเรื่องสายนั้นอย่างแรกที่ต้องรู้คือเบอร์สาย โดยปกติจะเรียกจากสายล่างสุดหรือสาย 1 ขนาดที่ใช้ทั่วไปคือเบอร์ 12 เพื่อนๆสามารถใช้เบอร์ที่เล็กกว่าหรือใหญ่กว่าได้ตามความชอบ ถ้าสายเล็กกว่าเสียงจะออกโทนแหลม ถ้าสายใหญ่กว่าเบอร์ 12 เสียงจะหนามากขึ้น
ทีนี้มารู้จักกัยสายกีต้าร์โปร่ง SIT กัน โดยในตลาดเรามักจะเห็นอยู่ 3 แบบหลักๆคือ สาย Coated (ซองสีขาวเทา), สาย Golden Bronze (ซองสีทอง) และสาย Phosphor Bronze (ซองสีเหลือง) โดยทั้ง 3 สายนี้จะแตกต่างกันที่ส่วนประกอบ ซึ่งจะเป็นสาเหตุทำให้สาย 3 แบบนี้มีเสียงและอายุการใช้งานแตกต่างกันเล็กน้อย ก่อนที่จะเลือกซื้อเพื่อนๆต้องศึกษาก่อนว่าตัวเองเหมาะกับสายประเภทไหน และเราไปดูกันเลยว่าสายแต่ละประเภทนั้นแตกต่างกันยังไงบ้าง
สาย SIT Coated
แปลตรงตัวว่า “สายเคลือบ” ที่ข้างซองจะมีอักษรย่อของสายชนิดนี้คือ CRT ย่อมาจาก (Corrosion Resistant Technology) หรือแปลเป็นไทยคือป้องกันการกร่อนเป็นสนิมของสาย ซึ่งทาง SIT คิดค้นขึ้นมาเพื่อยืดอายุการใช้งานของสาย ถ้านับทั้ง 3 แบบสายชนิดนี้จะดีที่สุด ได้ทั้งเรื่องเสียงที่กังวาน และยังมีอายุการใช้งานนาน ไม่เป็นสนิม นุ่มมือ แต่มีข้อเสียคือมีราคาที่สูงกว่าอีกสองแบบเกือบเท่าตัว เหมาะสำหรับคนที่ไม่ต้องการเปลี่ยนสายบ่อยๆ เพราะสายกีต้าร์ยิ่งเล่นนานแล้วจะนุ่มมือคุ้นมือมากขึ้น
สาย SIT Golden Bronze
สายชนิดนี้จะมีส่วนประกอบของสายที่เป็นทองแดงอยู่ถึง 20 เปอร์เซ็นตฺ์ ทำให้ได้เสียงที่ออกมากังวาน ใส ให้บาลานซ์เสียงที่ดีเยี่ยม ซาวด์จะออกมาแนวพุ่งๆหน่อย เล่นได้หลากหลายไม่ว่าจะฟิงเกอร์สไตล์หรือตีคอร์ด เหมาะสำหรับคนที่ชอบเสียงโทนใส นอกจากนี้แล้วตัวสายยังหุ่มด้วยอัลลอย เพื่อให้การจัสายนุ่มมือมากขึ้น เป็นรุ่นที่คนนิยมมากที่สุดและขายดีสุด เนื่องจากราคาไม่แรงมากและมีความหลากหลายเรื่องเสียงค่อนข้างสูง
สาย SIT Phosphor Bronze
คล้ายกับสาย Golden Bronze แต่สาย Phosphor Bronze จะลดทองแดงเหลือแค่ 8 เปอร์เซ็นต์ สายแบบนี้ค่อนข้างขายดีในอเมริกา แต่ทางบ้านเราความนิยมยังสู้แบบ Golden Bronze ไม่ได้ ซาวด์ที่ได้จะมีเสียงเบสหนากว่า ฟังแล้วรู้สึกอบอุ่น เหมาะกับการตีคอร์ด หรือเล่นเพลงแนวบลูส์ ถ้าเทียบความหลากหลายแล้วจะน้อยกว่า Golden Bronze ทำให้ยังตีตลาดบ้านเราไม่ได้มาก แต่ถ้าใครชอบซาวด์เฉพาะทาง และเสียงนุ่มๆ เลือกสายรุ่นนี้ไปรับรองไม่ผิดหวัง
ตัวอย่างสาย SIT ทั้ง 3 แบบ
และนี่คือสายกีต้าร์โปร่ง SIT ทั้ง 3 แบบที่กำลังมาแรงจนต้องบอกต่อ ลูกค้าที่ซื้อไปต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าคุ้มค่าและให้เสียงที่ดี ใครที่กำลังมองหาสายกีต้าร์โปร่งดีๆ ถ้าได้มาลองยี่ห้อนี้อาจติดใจกันได้ และมีวางจำหน่ายที่ร้าน Musicarms ทุกสาขา ทางเรายังมีบริการเปลี่ยนสายกีต้าร์ให้เพื่อนๆด้วยทีมงานผู้ชำนาญ รับรองว่าก่อนออกจากร้านไปเพื่อนๆจะได้กีต้าร์เสียงกิ๊งๆ สายใหม่ๆ เหมือนได้กีต้าร์ตัวใหม่กันไปเลย ใครที่ชอบเสียงแบบไหนก็เลือกใช้ตามความชอบ หรือถ้าอยากได้สายทนทานใช้นานๆก็ยังมีให้เลือก ถ้ามีสายกีต้าร์ดีๆซักชุด การเล่นกีต้าร์ของเพื่อนๆจะเพิ่มความสนุกอีกมากขึ้นได้เลย