ทฤษฎีแห่งสาย: สายกีต้าร์ต่างกันยังไง?
ซองสายกีต้าร์ที่เรียกกันว่าเบอร์ 9 เบอร์ 10 เรียกจากความกว้างของสายที่เล็กที่สุดในซองนั้น เช่น ถ้าสายเล็กสุดในซอง มีความกว้าง 0.009 นิ้ว เราก็เรียกซองนั้นทั้งซองว่าเบอร์ 9
ซึ่งไอ้ขนาดของสาย นอกจากเส้นเล็กสุดแล้วจะค่อย ๆ ไล่ ใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ แต่จะไม่ทิ้งห่างกันมากนัก ทำให้ชุดสายเบอร์ 9 สายเล็กเหมือนกันทั้งชุด หรือเบอร์ 12 ก็ใหญ่เหมือนกันทั้งชุด
ทำให้เราจัดประเภทสาย จากขนาดเล็กใหญ่นั่นเอง
เป็นที่ลือชาในหมู่นักดนตรีอยู่แล้วว่าสายแต่ละประเภท ให้เสียงที่ไม่เหมือนกัน แต่การที่จะทดลองวิทยาศาสตร์เปลี่ยนสายไปเรื่อย ๆ ก็เป็นอะไรที่เปลืองไปหน่อย วันนี้เราสรุปข้อแตกต่างแต่ละสายมาให้ฟังกัน
จะได้ไม่ต้องเสียเงินไปลอง
– สายขนาดเล็ก (เบอร์ 9 ลงไป)
ให้เสียงที่แหลมใส เสียงเหล็กกระทบเฟร็ต เบนด์สายง่าย เล่นง่าย ความบางของสายทำให้สัมผัสเหมือนไม่มีความตึง แต่เสี่ยงขาด เพราะเบนด์หนักมือเกินได้ การดีดปิ้กหนัก ๆ เบนด์สายหนัก ๆ มีผลทำให้สายเสื่อมสภาพไว เสียงแย่ลง
– สายขนาดกลาง (10 – 11)
ให้ความทึมทึบ เน้นย่านกลาง เหมาะกับแนวบลูส์ หรือร็อค สายไม่กระพืบเวลาดีดหนักมือ เวลาเบนด์ สายมีแรงต้าน อยากจะเล่นให้เสียงดี ๆ ปรับ gain น้อยลงมาหน่อย
– สายขนาดใหญ่ (12 ขึ้นไป)
เสียโทนใส ๆ ไปหมด แต่แลกมากับการที่ยิ่งดีดแรง สายก็ยิ่งเปล่งย่านเสียงรุ่มรวยมากขึ้น ๆ อาจจะเบนด์สาย สั่นสายยากมาก แต่ตัวสายทำให้การโซโล่ ออกหมัดชัด ฟังเป็นทำนองมากขึ้น
สายกีต้าร์ขึ้นชื่อว่ามีผลต่อเสียงกีต้าร์ของเรามาก อ่านตรงนี้ ก็เอาไปตัดสินใจกันดู ว่าจะซื้อสายแบบไหน
พบกับบทความของเรา ตั้งแต่พุธ – อาทิตย์ ทุกสัปดาห์
อ่านบทความอื่น ๆ ต่อที่ musicarms.net/category/ma/content/
====================================
ขอขอบคุณ Tonereport.com