Yamaha Pacifica Standard Plus รุ่นใหม่ มีดีอะไร ทำไมถึงน่าซื้อ ?
เมื่อไม่นานมานี้ Yamaha ได้จัด Surprise คนทั่วโลกด้วยการเปิดตัว สินค้า ใหม่ อย่าง Yamaha Pacifica Standard Plus โดยจะมีทั้งหมด 2 รุ่นด้วยกันคือ PACS+12 ที่เป็นคอดำ และรุ่น PACS+12M ที่เป็นคอขาว มีสีให้เลือกกันถึง 4 สี ได้แก่ สี Sparkle Blue สี Ash Pink สี Shell White และ สี Black ครับ โดยการออกแบบสีในครั้งนี้ ต้องบอกเลยครับว่าไม่ธรรมดาเลยครับ และ Yamaha Pacifica Standard Plus รุ่นใหม่นี้ จะมีดีอะไร ทำไมถึงน่าซื้อ ? ผมจะมาเล่าให้ฟังครับ
Yamaha Pacifica Standard Plus
กีตาร์ไฟฟ้า Yamaha Pacifica Standard Plus ออกแบบมาสำหรับนักดนตรีที่ต้องการค้นหาเสียงที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง โดดเด่นด้วย เสียง และสัมผัสการเล่นที่ยอดเยี่ยม มอบโทนเสียงที่ชัดเจน กังวาน น่าฟัง เล่นง่ายคล่องมือ บอดี้ไม้ Alder ดีไซน์ใหม่ คอเมเปิ้ลรูปทรง C บาง กระชับมือ ฟิงเกอร์บอร์ดเลือกได้ทั้งไม้โรสวูดหรือเมเปิ้ล 22 เฟร็ต
Acoustic Design
เทคโนโลยีการออกแบบอะคูสติกของ Yamaha ใช้วิธีการทางวิทยาศาสตร์ ช่วยให้กีตาร์ของ Yamaha มีเสียงที่ดีขึ้น มีความสมดุลมากขึ้น เนื่องจากการออกแบบที่คำนึงถึงหลักการทางวิทยาศาสตร์ เช่น การสร้างโมเดล 3 มิติ เพื่อคิดค้นเทคนิคการกัดไม้ที่ช่วยเพิ่มการสั่นสะเทือนของตัวกีตาร์และปรับปรุงการถ่ายโอนแรงสั่นสะเทือนระหว่างคอกับตัวกีตาร์ ส่งผลให้เสียงกีตาร์มีความสมดุลมากขึ้น
ออกแบบมาให้เล่นสบาย
Pacifica Standard Plus ถูกออกแบบมาให้เล่นสบาย คล่องแคล่วด้วย คอทรง C-shape เพรียวบาง กระชับมือ ส้นคอดเว้า (carved neck joint heel) เข้าถึงเฟร็ตบนได้ง่าย ตัวกีตาร์ขอบมุมเอียง (beveled body) โอบอุ้มพอดีมือ เล่นได้นานโดยไม่เมื่อย และเฟร็ตบอร์ดรัศมี 13.8″/350mm กดสายง่าย ไม่เจ็บนิ้วอีกด้วย
ปิ๊กอัพ Reflectone
ให้เสียงที่ยอดเยี่ยม เหมาะกับแนวเพลงหลากหลาย สร้างความพึงพอใจให้กับนักกีตาร์ทั้งมือใหม่และมืออาชีพ ปิ๊กอัพ Reflectone รุ่นใหม่ที่ออกแบบร่วมกับ Rupert Neve Designs จุดเด่นคือ เสียงใส ชัดเจน ให้เสียงเบสที่หนักแน่นและเสียงแหลมที่คมชัด คอนฟิกปิ๊กอัพแบบ HSS มีปิ๊กอัพแบบซิงเกิ้ลคอยล์ 2 ตัว และปิ๊กอัพฮัมบัคเกอร์ 1 ตัว รองรับการแยกคอยล์ สามารถปรับเปลี่ยนเสียงได้หลากหลาย ตั้งแต่เสียงใสของซิงเกิ้ลคอยล์ ไปจนถึงเสียงหนาหนักของฮัมบัคเกอร์เต็มรูปแบบ
สีสันใหม่ ที่สดใส
ดีไซน์ของกีตาร์ได้รับแรงบันดาลใจจากศิลปะป๊อปญี่ปุ่นในเมือง ซึ่งเป็นแนวศิลปะที่โดดเด่นด้วยสีสันสดใส อ่อนหวาน และลวดลายที่น่ารัก นอกจากนั้น ยังได้รับอิทธิพลจากบรรยากาศแดดจ้าของแคลิฟอร์เนียใต้ด้วย ทำให้สีสันดูสดใส ชวนให้นึกถึงความสนุกสนาน และร่าเริง การผสมผสานทั้งสองส่วนนี้นำมาซึ่งสีสันที่เป็นเอกลักษณ์ น่าสนใจ และไม่เหมือนใครอีกด้วย โดยรวมแล้ว สีสันใหม่ของกีตาร์ Pacifica Standard Plus ถือเป็นการผสมผสานวัฒนธรรม และความสวยงามจากสองภูมิภาคเข้าด้วยกัน เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับนักดนตรีที่ต้องการกีตาร์ที่มีดีไซน์โดดเด่น และมีเอกลักษณ์
Rosewood และ Maple
Pacifica Standard Plus ได้ออกมาให้คุณได้เลือกถึง 2 รุ่น PACS+12 ที่เป็นคอดำ และ PACS+12M ที่เป็นรุ่นคอขาว โดย Rosewood จะให้ความรู้สึก เรื่อง โทนเสียงที่ อุ่น นุ่มนวล ก้องกัง สัมผัส เรียบลื่น ให้ความรู้สึกที่ดี ส่วน Maple จะให้ความรู้สึก สว่าง คมชัด มีพลัง สัมผัส แข็งกว่าโรสวูด แต่ก็ยังเรียบลื่นอีกด้วยครับ
เฟร็ตสแตนเลสขนาดกลาง
Pacifica Standard Plus ได้่เลือกใช้ เฟร็ตสแตนเลสขนาดกลาง ที่มีความทนทาน สแตนเลสเป็นโลหะที่แข็งแรง ทนทานต่อการสึกหรอมากกว่าเฟร็ตทั่วไปอย่างนิคเกิล ทำให้เฟร็ตคงสภาพอยู่ได้นาน ไม่สึกกร่อนหรือเป็นร่องง่าย สัมผัสลื่นไหล สแตนเลสมีค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทานต่ำกว่านิคเกิล ทำให้การกดสาย และการเบนด์สายทำได้ง่ายขึ้น ลื่นไหลกว่า ส่งผลให้เล่นได้รวดเร็วและแม่นยำขึ้นครับ
ฮาร์ดแวร์ระดับพรีเมียมจาก Gotoh
ส่งผลต่อประสิทธิภาพการใช้งาน และความมั่นคงของเสียง Gotoh locking tuners ระบบล็อคสายของ Gotoh ช่วยให้เปลี่ยนสายได้ง่าย รวดเร็ว และคงความตึงของสายได้ดีกว่าระบบทั่วไป Gotoh 2-point tremolo bridge บริดจ์แบบลอย 2 จุดจาก Gotoh ช่วยให้ปรับเปลี่ยนโทนเสียงด้วยเทคนิคการโยกสาย (whammy bar) ได้อย่างราบรื่น ไร้สะดุด ข้อดีของฮาร์ดแวร์ Gotoh ความเสถียรของเสียง การันตีเสียงที่แม่นคง ไม่เพี้ยนง่าย แม้จะโยกสายบ่อยครั้ง มีการใช้งานที่ง่าย เปลี่ยนสายได้รวดเร็ว สะดวก ไม่ต้องพันสายหลายรอบ มีความทนทาน ผลิตจากวัสดุคุณภาพสูง ทนทานต่อการใช้งานหนัก ๆ สามารถใช้งานได้ยาว ๆ
และนี่ก็คือเหตุผลที่ทำให้ Yamaha Pacifica Standard Plus ถึงน่าซื้อ ด้วยจุดเด่นที่ให้การเล่นที่ยอดเยี่ยม เสียงที่ชัดเจน มีดีไซน์ที่โดดเด่น แถมฮาร์ดแวร์ Gotoh ของคุณภาพ เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับนักกีตาร์ที่มองหากีตาร์ไฟฟ้าคุณภาพสูง เล่นง่าย เสียงดี ดีไซน์สวย สำหรับราคาเปิดตัวที่ประเทศไทยจะอยู่ที่ 49,900 บาท หากคุณสนใจ คลิกที่นี่ เพื่อดูรายละเอียดเพิ่มเติม หรือติดต่อสอบถามเข้ามาที่ Music Arms ได้ทุกช่องทาง สำหรับวันนี้ผมต้องขอตัวลาไปก่อน หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์กับคุณนะครับ สวัสดีครับบบ -/\-
ขอบคุณข้อมูลสินค้าจาก YAMAHA