LINE


แนะนำ 10 กีตาร์ปิ๊กอัพ Humbucking คู่ สำหรับชาว Rock ในงบ 10,000 บาท ปี 2024

ไปซื้อ แนะนำ 10 กีตาร์ปิ๊กอัพ Humbucking คู่ สำหรับชาว Rock ในงบ 10,000 บาท ปี 2024ที่สาขา

หลังจากแนะนำกีตาร์ปิ๊กอัพ Humbucking คู่ในงบ 5,000 บาทไปแล้ว ก็มีเสียงเรียกร้องจากเพื่อนให้อัพเกรดกีตาร์ขึ้นมาอีก วันนี้ Music Arms จึงจะเพิ่มงบกำลังกีตาร์ Hum คู่เป็น 10,000 บาท ซึ่งในเรตราคานี้เพื่อนๆจะได้กีตาร์ที่มีคุณภาพมากขึ้น บางรุ่นสามารถนำไปออกงานคอนเสิร์ตหรือบันทึกเสียงได้เลย จะมีรุ่นไหนบ้างนั้น ไปรับชมด้านล่างกันครับ

ดูกีตาร์ไฟฟ้าทั้งหมด คลิกที่นี่

 

1. Schecter C-1 Standard

ราคา : 9,600 บาท
12,000 บาท
ประหยัด20%
Schecter C-1 Standard
  • Versatile Sound: Pickups Schecter Diamond Plus ตอบสนองดีตั้งแต่คลีนที่ไพเราะไปจนถึงดิสทอร์ชั่นที่หนักแน่น
  • Neck: คอทรง Thin C จับสบายเล่นง่ายและคล่องตัว ไม้ roasted maple ทนทาน สีสวย
  • Body: ไม้ Mahogany พร้อมลายไม้ top ให้เสียงที่ลึกและบาลานซ์ เหมาะกับแนว Rock
  • Bridge: Tune-O-Matic พร้อม Stop Tailpiece เพิ่มความเสถียรของสาย
  • Finish: Gloss ดูโมเดิร์นและดุดัน
  • เหมาะกับแนวเพลง: Hard Rock, Metal, Alternative
ข้อมูล : 

Schecter C-1 Standard

การสร้างมาตรฐานใหม่ของ C-1 Sonics

Schecter รุ่น C-1 ได้รับความนิยมมาอย่างยาวนานในกลุ่มนักกีตาร์ เนื่องจากเป็นกีตาร์ที่โดดเด่นด้วยสไตล์ S-type อันทรงพลังและทันสมัย Schecter C-1 Standard ได้ถ่ายทอดสไตล์อันทรงพลังเหล่านี้ลงในกีตาร์ที่ทุกคนสามารถเข้าถึงได้ โดยไม่ลดทอนคุณภาพที่เป็นมาตรฐานของแบรนด์ มันมาพร้อมกับโทนวูดระดับพรีเมียม เล่นง่าย และปิ๊กอัพฮัมบัคเกอร์ที่ออกแบบโดย Schecter ซึ่งให้เสียงที่น่าตื่นเต้น ตัวกีตาร์ทำจากไม้มะฮอกกานี, เมเปิลอบ, โรสวูด และลายไม้เบิร์ลที่ให้ความคมชัดในเรื่องเสียงและการปรับแต่งโทน นอกจากนี้ยังมีคอที่เล่นได้รวดเร็ว เฟรต 24 เฟรต และงานออกแบบที่โดดเด่นทั้งในด้านรูปลักษณ์และฟังก์ชัน

โครงสร้างระดับพรีเมียมสำหรับทุกคน

ซีรีส์ Standard ของ Schecter ช่วยให้ทุกคนเข้าถึงการออกแบบที่โด่งดังได้ง่ายขึ้นโดยไม่ลดทอนคุณภาพ C-1 Standard มาพร้อมตัวกีตาร์ที่ทำจากไม้มะฮอกกานี ด้านบนเป็นลายไม้เบิร์ล ให้เสียงที่ลึกและสมดุล เสริมด้วยคอไม้เมเปิลอบที่เพิ่มความสดใสในทุกย่านเสียงและการแยกเสียงโน้ตที่ยอดเยี่ยม ฟิงเกอร์บอร์ดไม้โรสวูดช่วยเพิ่มความชัดเจนและทำให้เสียงโดดเด่นในทุกย่าน โดยไม่ลดทอนความคมชัด

ปิ๊กอัพที่ออกแบบมาเพื่อการปรับแต่งเสียงอันหลากหลาย

Schecter ได้ติดตั้งปิ๊กอัพฮัมบัคเกอร์รุ่น Diamond Standard ในตำแหน่งบริดจ์และคอ ให้เสียงตั้งแต่คลีนที่ไพเราะไปจนถึงดิสทอร์ชั่นที่หนักแน่น ควบคุมง่ายด้วยสวิตช์เลือกปิ๊กอัพ 3 ทาง ปุ่ม Master Volume และ Tone แม้จะดูเรียบง่าย แต่ C-1 Standard ก็เต็มไปด้วยความเป็นไปได้ในการปรับแต่งเสียง เหมาะสำหรับทุกสไตล์การเล่น

ออกแบบมาเพื่อการแสดงที่ทรงพลังและหลากหลาย

C-1 Standard รองรับสไตล์การเล่นที่หลากหลาย ด้วยเฟรต 24 เฟรตบนสเกลยาว 25.5 นิ้ว ฟิงเกอร์บอร์ดมีรัศมี 14 นิ้ว คอทรง Thin “C” และส่วนโค้งของตัวกีตาร์ที่เหมาะสม การออกแบบที่คำนึงถึงการเข้าถึงเฟรตสูงด้วย heel แบบโบลท์ออนที่สวยงาม นอกจากนี้ คอไม้เมเปิลอบยังเพิ่มความทนทานต่อการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ ลดความเสี่ยงจากการบิดหรือโก่งงอ ทำให้ C-1 Standard เป็นกีตาร์ที่พร้อมสำหรับการใช้งานในทุกสถานการณ์


คุณสมบัติของ Schecter C-1 Standard:

  • กีตาร์ซีรีส์ Standard มอบคุณภาพระดับ Schecter โดยไม่เพิ่มต้นทุนมากเกินไป
  • ตัวกีตาร์ไม้มะฮอกกานีพร้อมลายไม้เบิร์ล ให้เสียงที่ลึกและสมดุล
  • คอไม้เมเปิลอบ ช่วยเพิ่มความสดใสและการแยกเสียงที่ชัดเจนในทุกย่าน
  • ฟิงเกอร์บอร์ดไม้โรสวูด ให้เสียงที่โดดเด่นและมีมิติ
  • ปิ๊กอัพฮัมบัคเกอร์ Diamond Standard จาก Schecter ให้การปรับแต่งเสียงที่หลากหลาย
  • คอทรง Thin “C” และฟิงเกอร์บอร์ดรัศมี 14 นิ้ว ช่วยให้เล่นง่ายและรวดเร็ว
  • ส่วนโค้งตัวกีตาร์และ heel แบบโบลท์ออน ช่วยให้เข้าถึงเฟรตที่สูงสุดได้ง่าย
  • คอไม้เมเปิลอบ ช่วยเพิ่มความคงตัวของไม้ ลดความเสี่ยงจากการบิดงอในสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลง
  • นัทกราไฟต์และบริดจ์ Diamond Schecter ช่วยให้ได้เสียงที่นิ่งและปราศจากเสียงกวน
สเปค : 

ตัวกีตาร์

  • ตัวกีตาร์ทำจากไม้มะฮอกกานี (Mahogany) พร้อมด้านบนลายไม้เมเปิลเฟลม (Flamed Maple Top)
  • ขอบตัวกีตาร์และคอแบบสีดำชั้นเดียว (Black Single-Ply Binding)

คอกีตาร์

  • คอทำจากไม้เมเปิลอบ (Roasted Maple)
  • ฟิงเกอร์บอร์ดทำจากไม้โรสวูด (Rosewood) พร้อมอินเลย์ลาย “Reverse Wave” สีขาวมุก (White Pearloid “Reverse Wave” Inlays)
  • ทรงคอ Thin “C”
  • ความยาวสเกล 25.5 นิ้ว
  • รัศมีฟิงเกอร์บอร์ด 14 นิ้ว
  • เฟรตจัมโบ้จำนวน 24 เฟรต

ฮาร์ดแวร์

  • ฮาร์ดแวร์สีดำ (Black Hardware)
  • ปิ๊กอัพฮัมบัคเกอร์บริดจ์ Schecter Diamond Standard พร้อมฝาครอบโลหะสีดำ
  • ปิ๊กอัพฮัมบัคเกอร์คอ Schecter Diamond Standard พร้อมฝาครอบโลหะสีดำ
  • การควบคุม: Master Volume, Master Tone และสวิตช์ 3 ทาง
  • ลูกบิด Schecter
  • สะพานสาย Tune-O-Matic พร้อม Stop Tailpiece
  • นัทกราไฟต์ขนาด 42 มม.


2. Schecter Solo-II Standard

ราคา : 9,600 บาท
12,000 บาท
ประหยัด20%
Schecter SOLO-II Standard Electric Guitar
  • Classic Design: รูปลักษณ์แบบ Single-Cut ผสมความโมเดิร์น
  • Pickups: Schecter Diamond Standard Humbuckers ให้เสียงหนาและชัดเจน
  • Body: ไม้ Mahogany ให้บาลานซ์เสียงดีเยี่ยม
  • Neck: Thin C พร้อมฟิงเกอร์บอร์ด Rosewood
  • Bridge: Tune-O-Matic พร้อม Stop Tailpiece เพิ่มความเสถียรของสาย
  • เหมาะกับแนวเพลง: Classic Rock, Metal, Blues, Modern Metal
ข้อมูล : 

Schecter Solo-II Standard

มาตรฐานใหม่ของกีตาร์ Solo-II

Schecter Solo-II เป็นรุ่นที่ได้รับความนิยมในหมู่มือกีตาร์ โดยเฉพาะผู้ที่ชื่นชอบกีตาร์ทรงซิงเกิลคัทคลาสสิกที่ผสานการออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์เข้ากับสมรรถนะสมัยใหม่ Solo-II Standard นำเสนอกีตาร์รุ่นนี้ให้เข้าถึงได้มากขึ้น พร้อมคงไว้ซึ่งมาตรฐานอันยอดเยี่ยม ทั้งวัสดุโทนวูดคุณภาพ การเล่นที่หลากหลาย และปิ๊กอัพ Schecter อันทรงพลัง กีตาร์รุ่นนี้ผลิตจากไม้ Figured Burl, Mahogany, Rosewood และ Roasted Maple ผสมผสานเป็นเครื่องดนตรีคุณภาพที่มอบเสียงหลากหลายโดยไม่ลดทอนความโดดเด่นและคุณภาพ ด้วยคอที่เล่นได้รวดเร็ว เฟรต 24 ช่อง และงานออกแบบที่สะดุดตา กีตาร์นี้เป็นตัวเลือกที่ครบเครื่องทั้งในด้านรูปลักษณ์และเสียง

รากฐานระดับพรีเมียม

รุ่น Standard Series ของ Schecter ขยายขอบเขตของกีตาร์คุณภาพสูงให้ผู้เล่นเข้าถึงได้ง่ายขึ้นโดยไม่ลดทอนมาตรฐาน Solo-II Standard มีโครงสร้างหลักเป็นตัวกีตาร์ไม้ Mahogany ด้านบนปิดด้วยไม้ Figured Burl ให้เสียงที่ลึก สมดุล และมีมิติ คอไม้ Roasted Maple ช่วยเพิ่มความสว่างและการแยกเสียงที่ยอดเยี่ยม ทำให้ทุกคอร์ด ริฟ และโซโลโดดเด่นชัดเจน ฟิงเกอร์บอร์ด Rosewood เติมเต็มเสียงด้วยความสดใสและเพิ่มความคมชัดในทุกย่านเสียง

ปิ๊กอัพที่ออกแบบมาเฉพาะสำหรับการปรับแต่งเสียง

เพื่อนำพลังเสียงจากโทนวูดของ Solo-II Standard ออกมาอย่างเต็มที่ Schecter ติดตั้งปิ๊กอัพฮัมบัคเกอร์ Diamond Standard แบบ Passive ทั้งในตำแหน่งบริดจ์และคอ รองรับเสียงที่หลากหลาย ตั้งแต่คลีนที่ไพเราะ ริฟที่หนักแน่น ไปจนถึงเสียงดิสทอร์ชันทรงพลังและโซโลสุดเร้าใจ ควบคุมง่ายด้วยสวิตช์ 3 ทาง และปุ่ม Master Volume และ Tone แม้จะดูเรียบง่าย แต่กีตาร์ตัวนี้มีศักยภาพในการสร้างเสียงที่หลากหลาย รองรับการเล่นดนตรีในทุกสไตล์

ออกแบบเพื่อความหลากหลายและประสิทธิภาพสูงสุด

Solo-II Standard ออกแบบมาเพื่อรองรับสไตล์การเล่นที่หลากหลาย เฟรต 24 ช่อง บนสเกล 24.75 นิ้ว พร้อมรัศมีฟิงเกอร์บอร์ด 14 นิ้ว และคอทรง Thin “C” ช่วยให้เล่นได้อย่างสบายและรวดเร็ว การออกแบบส่วนเว้าของตัวกีตาร์และคอแบบ Bolt-on ทำให้เข้าถึงเฟรตสูงสุดได้ง่ายดาย นอกจากนี้ คอไม้ Roasted Maple ยังช่วยเพิ่มความมั่นคง ลดโอกาสบิดงอในสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง ทำให้กีตาร์นี้เหมาะกับการพกพาและการใช้งานในหลากหลายสภาพแวดล้อม

คุณสมบัติของ Schecter Solo-II Standard

  • กีตาร์ซีรีส์ Standard มอบคุณภาพ Schecter ระดับสูงในราคาที่เข้าถึงได้
  • ตัวกีตาร์ไม้ Mahogany พร้อมด้านบน Figured Burl ให้เสียงที่กลมกล่อม สมดุล และมีมิติ
  • คอ Roasted Maple เพิ่มความอบอุ่นของเสียงและแยกโน้ตได้ชัดเจน รองรับทุกสไตล์การเล่น
  • ฟิงเกอร์บอร์ด Rosewood เพิ่มความสดใสและมิติในทุกย่านเสียง โดยไม่ลดความคมชัด
  • ปิ๊กอัพฮัมบัคเกอร์ Diamond Standard ให้เสียงทรงพลังและปรับแต่งได้หลากหลาย
  • คอ Thin “C” และรัศมีฟิงเกอร์บอร์ด 14 นิ้ว เพิ่มความสะดวกและความเร็วในการเล่น
  • การออกแบบที่โค้งเว้าและคอต่อแบบ Bolt-on ช่วยให้เข้าถึงเฟรต 24 ช่องได้ง่าย
  • คอ Roasted Maple ช่วยเพิ่มความมั่นคง ลดการบิดงอ และเหมาะสำหรับการใช้งานในสภาพแวดล้อมที่หลากหลาย
  • นัทกราไฟต์และสะพานสาย Schecter Diamond Hardtail ช่วยให้เสียงแน่นและไม่มีปัญหาเสียงรบกวน
สเปค : 

ตัวกีตาร์

  • ตัวกีตาร์ทำจากไม้มะฮอกกานี (Mahogany) พร้อมด้านบนลาย Figured Burl
  • ขอบตัวกีตาร์และคอแบบสีดำชั้นเดียว (Black Single-Ply Binding)

คอกีตาร์

  • คอทำจากไม้เมเปิลอบ (Roasted Maple)
  • ฟิงเกอร์บอร์ดทำจากไม้โรสวูด (Rosewood) พร้อมอินเลย์จุดสีขาวมุก (White Pearloid Dot Inlays)
  • ทรงคอ Thin “C”
  • ความยาวสเกล 25.75 นิ้ว
  • รัศมีฟิงเกอร์บอร์ด 14 นิ้ว
  • เฟรตจัมโบ้จำนวน 22 เฟรต

ฮาร์ดแวร์

  • ฮาร์ดแวร์สีดำ (Black Hardware)
  • ปิ๊กอัพฮัมบัคเกอร์บริดจ์ Schecter Diamond Standard พร้อมฝาครอบโลหะสีดำ
  • ปิ๊กอัพฮัมบัคเกอร์คอ Schecter Diamond Standard พร้อมฝาครอบโลหะสีดำ
  • การควบคุม: ปุ่ม Volume แยกสำหรับบริดจ์และคอ, Master Tone, สวิตช์ 3 ทาง
  • ลูกบิด Schecter
  • สะพานสาย Tune-O-Matic พร้อม Stop Tailpiece
  • นัทกราไฟต์ขนาด 42 มม.


3. Ibanez GRG121DX

ราคา : 8,820 บาท
9,800 บาท
ประหยัด10%
Ibanez-GRG121DX
  • For Beginners: เหมาะกับผู้เริ่มต้น ด้วยฟังก์ชั่นที่ตอบสนองความหนักแน่นได้ดี
  • Pickups:IBZ-6: ปิ๊กอัพจากทางแบรนด์ มอบความคมชัด และตอบสนองซาวด์ที่ค่อนข้างดุดันได้ดี
  • Neck: Maple neck: ให้ความแข็งแรง และโทนเสียงที่สว่าง
  • Purpleheart fretboard: เฟรตบอร์ดให้ความสวยงาม ด้วย White Sharktooth inlay พร้อมโทนเสียงที่เป็นเอกลักษณ์กีตาร์ตัวนี้
  • Body: ไม้บอดี้ใช้ไม้โอกูเม่ (สีวอลนัท),ไม้บอดี้ใช้ไม้ป็อปลาร์ (สีดำ) 2 สไตล์เพื่อตัวเลือกที่เหมาะกับเราที่สุด
  • เหมาะกับแนวเพลง: Hard Rock, Metal, Modern Metal
ข้อมูล : 

Ibanez GRG-121DX กีต้าร์ซีรี่ย์ GIO ในราคาย่อมเยา สีวอลนัทบอดี้ใช้ไม้โอกูเม่ ส่วนสีดำบอดี้จะเป็นไม้ป็อปลาร์ คอเป็นไม้เมเปิ้ลทรงแบบ GRG ที่เล็กเหมาะกับคนเอเชียจับง่ายถนัดมือและยังเคลือบด้วยยูรีเทนอย่างดีกันความร้อนทำให้คอไม่คดง่ายเมื่อเจอสภาพอากาศบ้านเรา เฟรตมี 24 เฟรตตามแบบฉบับ Ibanex อินเลย์ลายฟันฉลามถูกใจชาวร็อค ปิ๊กอัพที่ให้มานั้นเป็นรุ่น IBZ-6 Humbucker ทั้ง 2 ตัว และสวิทช์ปรับได้ 5 ทาง จึงมั่นใจได้เลยว่าเสียงของเจ้าตัวนี้ค่อนข้างหนาฉีกแนว Ibanez ทั่วไป ซึ่งทำให้กีต้าร์ตัวนี้เหมาะกับแนวเพลงร็อคไปจนถึงเมทัล เฟรตขนาดจัมโบ้สับคอร์ดหนักๆได้มันส์อยู่แล้ว ขาร็อครับรองว่าชื่นชอบ กับราคาเบาๆไม่ถึงหลักหมื่นใครล่ะจะปฏิเสธได้ลง

สเปค : 
  • คอใช้ไม้เมเปิ้ล ทรงคอ GRG
  • เคลือบคอด้วยยูรีเทน
  • ไม้บอดี้ใช้ไม้โอกูเม่ (สีวอลนัท)
  • ไม้บอดี้ใช้ไม้ป็อปลาร์ (สีดำ)
  • ฟิงเกอร์บอร์ดใช้ไม้เพอร์เพิ่ลฮาร์ท
  • จำนวนเฟรต 24 เฟรต ไซด์จัมโบ้
  • อินเลย์ลายฟันฉลาม
  • บริดจ์รุ่น F106
  • ความยาวสเกล 25.5 นิ้ว (648 มม.)
  • ความกว้างของ Nut คอกีต้าร์ 43 มม.
  • Radius ของฟิงเกอร์บอร์ด 400 มม.
  • ปิ๊กอัพคอรุ่น IBZ-6 Humbucker
  • ปิ๊กอัพบริดจ์รุ่น IBZ-6 Humbucker
  • แผงควบคุม 2 ปุ่ม คือ โวลุ่มและโทน
  • สวิทช์ปิ๊กอัพปรับได้ 5 ทาง
  • น้ำหนักประมาณ 3 กิโลกรัม


4. Ibanez GRG121SP

ราคา : 11,520 บาท
12,800 บาท
ประหยัด10%
ibanez-grg121sp 3 สี
  • Modern Design: รูปลักษณ์ทันสมัย พร้อมสีบอดี้
  • Pickups: Classic Elite ให้เสียงหนักแน่นเหมาะกับดนตรีดุดัน
  • Body: Poplar ให้เสียงที่มีบาลานซ์ดี
  • Neck: คอ Maple แบบ GRG Series เล่นง่าย
  • Bridge: Fixed Bridge เพิ่มความมั่นคงของการตั้งสาย
  • เหมาะกับแนวเพลง: Hard Rock, Metal, Modern Metal
ข้อมูล : 

Ibanez GRG121SP กีตาร์ไฟฟ้างานดีในราคาจับต้องได้ กับการออกแบบที่โดนใจชาวร็อค ไล่ตั้งแต่บอดี้ไสีแสบสันต์ไม้ป็อปลาร์ที่ให้เสียงกลางดีและมีน้ำหนักเบา คอเป็นไม้เมเปิลผ่านการอบทำให้ไม้แห้งเสียงหวานนุ่มนวล ทำ Headstock สีเดียวกับบอดี้ดูโฉบเฉี่ยวสวยงาม ขุมพลังเสียงเป็นปิ๊กอัพ Humbucking 2 ตำแหน่งกับรุ่น Classic Elite (H) ให้โทนเสียงที่หนักแน่น และหนาอวบ เล่นแนวร็อคได้สบายๆ แจ็คเอาท์พุตแบบโมโนยูนิตทำจากวัสดุที่แข็งแรงทนทานและเป็นชิ้นเดียวเพื่อสัญญาณที่คมชัด 24 เฟรตเอาใจสายโซโล่ เป็นอีกงานดีๆที่ออกมาตอบโจทย์คนชอบกีตาร์สายร็อคราคาไม่แรง

สเปค : 

รายละเอียด Ibanez GRG121SP

  • บอดี้ไม้ป็อปลาร์
  • คอไม้เมเปิลผ่านการอบ
  • ทรงคอ GRG
  • ฟิงเกอร์บอร์ดไม้จาโตบา
  • 24 เฟรต ขนาด Medium
  • อินเลย์ลายจุด
  • บริดจ์ F106
  • ปิ๊กอัพคอ Classic Elite (H)
  • ปิ๊กอัพบริดจ์ Classic Elite (H)
  • นัทกว้าง 43 มม.
  • อะไหล่ชุบโครเมียม
  • ความยาวสเกล 25.5 นิ้ว
  • Radius ฟิงเกอร์บอร์ด 400 มม.
  • 1 Volume 1 Tone
  • ซีเลคเตอร์ 5 ทาง


5. Gusta GPR Black Edition

ราคา : 12,900 บาท
14,330 บาท
ประหยัด10%
Gusta GPR Black Edition 1
  • Budget Friendly: ราคาคุ้มค่าเหมาะสำหรับผู้เริ่มต้น
  • Pickups: Humbuckers Alnico มีฝาครอบสีทอง ให้เสียงที่ชัดเจนและหนา
  • Body: ไม้มะฮอกกานี พร้อมปะไม้หน้าเฟมเมเปิ้ล สวยงามเสียงหนา
  • Neck: คอมะฮอกกานี เล่นง่าย ทรงคอ Modern C
  • Finish: เคลือบเงาโชว์ลวดลายกีตาร์ให้โดดเด่นไม่เหมือนใคร
  • เหมาะกับแนวเพลง: Pop Rock, Alternative, Metal
ข้อมูล : 

Gusta GPR Black Edition กีตาร์ไฟฟ้างานดีอีก 1 รุ่นที่เคยเปิดตัวในรุ่น GPR มาแล้ว รอบนี้ทำสีแบบ Black Edition โดยจะมีความพิเศษที่ใช้ไม้หน้าเฟลมเมเปิลให้ลายกีตาร์สวยงามมากขึ้นด้วย บอดี้ด้านในเป็นไม้มะฮอกกานีเสียงแน่นๆ คอไม้มะฮอกกานี ฟิงเกอร์บอร์ดโรสวูด ได้ซาวด์ที่เป็นเอกลกัษณ์ อะไหล่ทั้งหมดทำสีทองสวยงามตัดกับสีดำของบอดี้ได้ลงตัว พลังเสียงเป็นปิ๊กอัพ H.H Alnico เสียงแน่นดุดันและสามารถตัดคอยล์ได้ ตัวบริดจ์ใช้งานดีอย่าง Wilkinson gold WOV08 ใส่คันโยก Tremolo ได้ เป็นอีกรุ่นที่อัพเกรดเพิ่มความครบเครื่องได้อย่างลงตัวจนยากจะปฏิเสธ

สเปค : 
  • ลูกบิดจูนเนอร์ล็อกสีทอง
  • คอไม้มะฮอกกานี
  • ทรงคอ Modern C
  • ฟิงเกอร์บอร์ดโรสวูด
  • Radius ฟิงเกอร์บอร์ด 10 นิ้ว
  • นัททำจากกระดูก กว้าง 1.65 นิ้ว
  • Truss Rod แบบ Double Action
  • สาย D’addario XL110
  • ความยาวสเกล 25 นิ้ว
  • 24 เฟรต
  • ไบน์ดิงสีขาวที่ส่วนคอและบอดี้
  • บอดี้ไม้มะฮอกกานี ไม้หน้าเฟลมเมเปิล
  • ปิ๊กการ์ดสีดำ
  • ปิ๊กอัพ H.H Alnico  มีฝาครอบสีทอง
  • บริดจ์ Wilkinson gold WOV08 ใส่คันโยก Tremolo ได้
  • 2 Volume 2 Tone (ปุ่มโทนกดตัดคอยล์ได้)
  • ซีเลคเตอร์ 3 ทาง
  • อะไหล่ชุบสีทอง


6. Eart EGLP-610

ราคา : 11,900 บาท
ประหยัดพิเศษ
Eart EGLP-610 รวมสี
  • Modern Lespaul Design: โครงสร้าง Lespaul แสดงถึงความหนักแน่น
  • Pickups: Humbuckers Eart Custom ELP Alnico-II Set ให้เสียงทรงพลัง
  • Body: Roasted Mahogany สีเข้มสวยและแข็งแรง
  • Bridge: Sung IL T-0-M Tailpiece Set แข็งแรงทนทาน
  • Finish: Satin เคลือบด้าน ดูนุ่มนวลสวยงาม แต่แฝงไปด้วยความทรงพลัง
  • เหมาะกับแนวเพลง: Metal, Rock, Hardrock, Modern Metal
ข้อมูล : 

Eart EGLP-610 กีตาร์ไฟฟ้าในทรง LP ที่มีความพิเศษคือบอดี้และคอจะเป็นไม้โอกูเม่ที่ผ่านการอบมาแล้ว ทำให้เสียงแห้งเหมือนไม้เก่า มีความนุ่มนวลมากขึ้นและคาแร็คเตอร์เสียงไม้นั้นจะใกล้เคียงมะฮอกกานี จึงได้ซาวด์ของ LP อย่างเต็มอิ่ม งานดีไซน์สวยงามเช่นอินเลย์รูปพัดที่ไม่ค่อยได้เห็นกันนัก ที่สำคัญคืออะไหล่บางชิ้นเช่นลูกบิดหรือแม้แต่ตัวปิ๊กอัพจะเป็นงานเกาหลี โดยจะได้ปิ๊กอัพรุ่น Eart Custom Alnico-II Humbucker made in korea 2 ตำแหน่ง ซาวด์หนาและเล่นได้กว้าง เป็นอีกทางเลือกสำหรับคนที่ชอบทรงนี้และอยากได้ความโมเดิร์นเพิ่มขึ้นมา

สเปค : 
  • บอดี้ไม้โอกูเม่ผ่านการอบ ดีไซน์ให้บางลง
  • ความยาวสเกล 24.75 นิ้ว
  • คอไม้ไม้โอกูเม่ผ่านการอบ
  • ฟิงเกอร์บอร์ดโรสวูด
  • Radius ฟิงเกอร์บอร์ด 9.5-14 นิ้ว แบบ compound
  • อินเลย์รูปพัด
  • Truss rod แบบ Dual Action
  • นัทกระดูก กว้าง 42 มม.
  • 22 เฟรตขนาด Medium Jumbo
  • ทรงคอ U ผสม C
  • ต่อคอแบบ Set in
  • ลูกบิด Die-Cast made in korea อัตราทด 18:1
  • ปิ๊กอัพ Eart Custom Alnico-II Humbucker made in korea
  • 1 Volume 1 Tone
  • ซีเลคเตอร์ 3 ทาง
  • บริดจ์ Sung IL custom Tune-O-Matic Styl
  • เคลือบด้าน


7. Epiphone Les Paul Special Satin E1

ราคา : 6,750 บาท
7,500 บาท
ประหยัด10%
Epiphone-Les-Paul-Special-Satin-E1---ครบสี
  • Affordable Les Paul: ตัวเลือกที่เข้าถึงง่ายในดีไซน์ Les Paul
  • Pickups: Epiphone Humbuckers [650R,700T] ให้เสียงคลาสสิกพุ่งดุดัน
  • Body: Mahogany ให้เสียงอบอุ่นลึก
  • Neck: คอ Slim Taper D-Shape เล่นง่าย
  • Finish: Satin เพิ่มสัมผัสที่นุ่มนวล สีสันสวยงาม
  • เหมาะกับแนวเพลง: Blues, Rock, Hardrock
ข้อมูล : 

Epiphone Les Paul Special Satin E1 งานในสไตล์วินเทจพร้อมบอดี้น้ำหนักเบาที่ทำจากไม้ป็อปลาร์ มาในทรงคลาสสิกแบบเดียวกันกับ Les Pauls ทั้งหมด คอเป็นไม้มะฮอกกานีซึ่งจะเคลือบบอดี้แบบด้านให้ดูสวยงาม คอทำทรง 60 แบบ Slim เล่นง่าย สำหรับรุ่นนี้จะให้ปิ๊กอัพมาสองตำแหน่งเป็นรุ่น 650R และ 700T ซึ่งซาวด์จะค่อนข้างกว้างตอบโจทย์ดนตรีทุกแนว สวิตช์เลือกปิ๊กอัพ 3 ทาง ฮาร์ดแวร์ทั้งหมดเป็นโลหะสวนงาม นอกจากนี้ โลโก้รุ่น “2016” จะอยู่ที่ด้านหลังของส่วนหัว ออกแบบจัดเต็มมาแบบนี้ แต่ราคาย่อมเยาจนผู้เริ่มต้นสามารถเป็นเจ้าของกันได้ไม่ยาก

สเปค : 
  • บอดี้ทรง Les Paul
  • บอดี้ทำจากไม้ป็อปลาร์
  • คอทำจากไม้มะฮอกกานี
  • เคลือบด้าน
  • ทรงคอ 60s SlimTaper D
  • ต่อคอแบบ Bolt On
  • Radius ฟิงเกอร์บอร์ด 14 นิ้ว
  • ฟิงเกอร์บอร์ดทำจากไม้โรสวู้ด
  • อินเลย์ลายจุด
  • จำนวน 22 เฟรต ขนาด Medium Jumbo
  • ความยาวสเกล 24.75 นิ้ว
  • ความกว้าง Nut 1.68 นิ้ว
  • บริดจ์แบบ Fixed Tune-o-matic
  • ลูกบิด Die-cast
  • ปิ๊กอัพคอรุ่น 650R
  • ปิ๊กอัพบริดจ์รุ่น 700T
  • คอนโทรล 1 Volume 1 Tone
  • สวิทช์ปิ๊กอัพปรับได้ 3 ทาง


8. Gusta GLP-05

ราคา : 8,990 บาท
9,990 บาท
ประหยัด10%
Gusta-GLP-05
  • Les Paul Inspired: รูปทรง Les Paul ที่ผลิตออกมาด้วยความเป็นเอกลักษณ์ในแบบของ Standard
  • Pickups: Gusta Classic Plus Humbucker ให้เสียงหนาและชัดเจน
  • Body: ไม้มะฮอกกานี ปะหน้าด้วยไม้เฟรมเมเปิ้ล น้ำหนักกำลังดี หน้าตาสวยงามรายละเอียดดี
  • Finish: เคลือบเงา ชูความงามบอดี้ให้โดดเด่น
  • Neck: ไม้มะฮอกกานี ทรง Modern C จับถนัดมือ
  • เหมาะกับแนวเพลง: Rock, Blues, Hard Rock
ข้อมูล : 

กีต้าร์ไฟฟ้า Gusta GLP-05 งาน Les Paul สวยๆ ที่ยึดเอาทรง Standard เป็นแม่แบบ รุ่นนี้บอดี้จะเป็นไม้มะฮอกกานี ซึ่งจะมีความพิเศษที่ไม้หน้าเป็นไม้เฟรมเมเปิ้ลลายไม้สวยงาม และเพิ่มมิติเสียง คอมะฮอกกานี ฟิงเกอร์บอร์ดโรสวู้ด วัสดุไม้ทั้งหมดให้คาแร็คเตอร์เสียงในแบบ Les Paul เต็มๆ  คอแบบ Medium C กำลังพอดีในการจับเล่น สบายมือ รุ่นนี้จะให้ปิ๊กอัพมาแบบ Humbucker เป็นรุ่น Gusta Classic Plus Humbucker ซาวด์มีความคลาสสิค สามารถเล่นได้หลากหลายแนวเพลง เหมาะกับเล่นเพลงทุกแนว ปุ่มควบคุม 2 Volume 2 Tone แยกกันในแต่ละปิ๊กอัพ และสามารถกดสวิทช์เลือกฟังก์ชั่นได้ งานดีไซด์ออกแบบมาได้ลงตัว ใครที่ชอบโมเดลของ Les paul Standard และหากีตาร์ราคาไม่แรงจนเกินไป มาลองรุ่นนี้กันได้ รับรองว่ามีหลง

สเปค : 
  • ลูกบิด Kluson
  • โลโก้ลายมุก
  • คอไม้มะฮอกกานี
  • ทรงคอ Modern C
  • ฟิงเกอร์บอร์ดไม้โรสวู้ด
  • นัททำจากกระดูก
  • Truss rod แบบ double action แกนกลางสกรีน GLP-05
  • สาย D’addario XL110
  • ความยาวสเกล 628 มม.
  • 22 เฟร็ต อินเลย์สี่เหลี่ยมคางหมู
  • บอดี้ไม้มะฮอกกานี ปะหน้าด้วยไม้เฟรมเมเปิ้ล
  • ปิ๊กอัพบริดจ์ Gusta Classic Plus B Humbucker
  • ปิ๊กอัพคอ Gusta Classic Plus N Humbucker
  • บริดจ์ Tune-O-Matic
  •  Volume, 2 Tone ลูกบิดสีทอง กดเลือกฟังก์ชั่นได้
  • ซีเล็คเตอร์ 3 ทาง
  • อะไหล่ชุบโครเมี่ยม
  • น้ำหนักประมาณ 3.8 กิโลกรัม


9. Gusta GSG Standard

ราคา : 8,550 บาท
9,500 บาท
ประหยัด10%
Gusta GSG Standard wh
  • SG Design: รูปทรงแบบ SG ที่เท่ และเบาสะดวกในการเล่นนานๆ
  • Pickups: Humbuckers Alnico ให้เสียงพุ่งและทรงพลัง
  • Body: ไม้มะฮอกกานี น้ำหนักกำลังดี หน้าตาสวยงามรายละเอียดดี
  • Neck: คอ C Shape ที่เล่นง่าย ถนัดมือ
  • Finish: เคลือบเงาสวยงาม สีสันดูโดดเด่นขึ้นมา
  • เหมาะกับแนวเพลง: Hard Rock, Metal
ข้อมูล : 

Gusta GSG Standard กีตาร์ไฟฟ้าทรง SG ยอดนิยมที่มาในสเปคสุดคุ้ม บอดี้เป็นไม้มะฮอกกานีให้โทนเสียงแน่นๆ ซาวด์หนาอบอุ่น คอไม้มะฮอกกานีทรง C จับเข้ากับรูปมือได้ดี ฟิงเกอร์บอร์ดโรสวูด งานอะไหล่คัดสรรกันมาอย่างดี เช่นนัททำจากกระดูก หรือตัวบริดจ์ Tune-O-Matic ขุมพลังเสียงเป็นปิ๊กอัพ H.H. Alnico 2 ตำแหน่ง ปุ่มควบคุมทั้ง Volume และ Tone ควบคุมแต่ละปิ๊กอัพ และยังสามารถ Split Coil ได้ ดีไซน์ออกมาสวยงามลงตัวในทุกจุด ใครที่ชอบทรง SG กีตาร์งานดีราคาย่อมเยารุ่นนี้เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยม

สเปค : 
  • ลูกบิด  โครเมียม
  • โลโก้ Ablone
  • คอไม้มะฮอกกานี
  • ทรงคอ  C Shape
  • ฟิงเกอร์บอร์ดโรสวูด
  • นัททำจากกระดูก
  • Truss Rod แบบ Double Action
  • สาย D’addario XL110
  • ความยาวสเกล 628 มม.
  • 22 เฟรต
  • อินเลย์สี่เหลี่ยมคางหมู
  • ไบน์ดิงสีงาช้างที่ส่วนคอ
  • บอดี้ไม้มะฮอกกานี
  • ปิ๊กการ์ดสีดำ
  • ปิ๊กอัพ H.H. Alnico
  • บริดจ์ Tune-O-Matic
  • 2 Volume 2 Tone
  • ซีเลคเตอร์ 3 ทาง
  • Split Coil ได้
  • อะไหล่ชุบโครเมียม


10. Squier Affinity Stratocaster HH

ราคา : 9,000 บาท
10,000 บาท
ประหยัด10%
Squier Affinity Stratocaster HH
  • Strat Modernized: กีตาร์ทรง Strat ที่เพิ่มความหนักแน่นด้วย Humbuckers คู่
  • Body: Poplar น้ำหนักเบาและเสียงโทนสว่างชัด
  • Neck: Maple พร้อมโปรไฟล์คอ C-Shape เล่นง่ายถนัดมือ
  • Bridge: 2-Point Tremolo รองรับการเล่นคันโยกได้ดี
  • Finish: เคลือบเงา ชูความสวยงามของบอดี้
  • เหมาะกับแนวเพลง: Pop Rock, Alternative
ข้อมูล : 

Squier Affinity Stratocaster HH อีกหนึ่งรุ่นสำหรับคนชอบทรง Strat ซึ่งปกติแล้วทรง Strat จะมาพร้อมปิ๊กอัพแบบ Single-Coil แต่รุ่นนี้จะเป็นแบบ Humbucking ทั้งสองตำแหน่ง เหมาะกับคนที่ชอบซาวด์หนาๆดุดัน งานอะไหล่ทำออกมาได้สมกับเป็นแบรนด์ดัง บอดี้ไม้ป็อปลาร์ที่มีน้ำหนักเบาและให้เสียงกลางเด่น คอเมเปิ้ล และบริดจ์ที่สามารถใส่คันโยกได้ ใครที่หา Strat เสียงหนาๆกับราคาที่ประหยัด นี่เป็นรุ่นที่ตอบโจทย์ได้อย่างดี

สเปค : 
  • บอดี้ทรง Stratocaster
  • ไม้บอดี้ใช้ไม้ป็อปลาร์
  • ไม้หน้าเฟรมเมเปิ้ล
  • เคลือบผิวบอดี้ด้วยโพลียูริเทน
  • ส่วนคอทำจากไม้เมเปิ้ล ทรง C-Shape
  • ความยาวสเกล 25.5 นิ้ว (648 มม.)
  • จำนวนเฟรต 21 เฟรต
  • Nut ทำมาจากกระดูกแบบสังเคราะห์
  • ความกว้างของ Nut 40.9 มม.
  • ยึดคอด้วยน็อต 4 ด้าน
  • เคลือบผิวคอด้วยโพลียูรีเทน
  • ฟิงเกอร์บอร์ดใช้ไม้อินเดียนลอเรล อินเลย์ลายจุด
  • ปิ๊กอัพบริดจ์เป็นรุ่น Standard Humbucking
  • ปิ๊กอัพคอเป็นรุ่น Ceramic Humbucker
  • แผงคุวบคุมมี 2 ปุ่มคือ โวลุ่มหลัก โทน
  • สวิทช์ปิ๊กอัพปรับได้ 3 ทาง
  • โครงปิ๊กอัพวางแบบ HH
  • บริดจ์ใส่คันโยกได้
  • ลูกบิดเป็นแบบ Die-Cast
  • เหมาะสำหรับผู้เล่นมือขวา
  • ปิ๊กการ์ดพลาสติก


ทั้ง 10 รุ่นนี้คือกีตาร์ไฟฟ้าปิ๊กอัพ Humbucking ราคาเรต 10,000 บาทที่ได้ทั้งคุณภาพเสียงและงานประกอบที่ดียิ่งขึ้น ใครเล็งกีตาร์เสียงหนาก็สามารถเลือกจาก 10 รุ่นนี้ได้ และทาง Music Arms ยังมีกีตาร์รุ่นอื่นๆอีกมากมายรอให้เพื่อนๆมาเป็นเจ้าของ พร้อมด้วยคำแนะนำจากทีมงานเพื่อที่เพื่อนๆจะได้กีตาร์คุณภาพก่อนออกจากร้านไปเสมอครับ

Music Arms