LINE


แนะนำ 5 กีตาร์โปร่งงบ 20000 – 35000 บาท ปี 2022

ไปซื้อ แนะนำ 5 กีตาร์โปร่งงบ 20000 – 35000 บาท ปี 2022ที่สาขา

ในการเลือกซื้อกีตาร์โปร่ง ที่มีคุณภาพดีสักตัวหลายคนคงมีคำถามว่ารุ่นไหน ยี่ห้อไหนดี ที่เมื่อซื้อไปแล้วจะคุ้มค่ากับเงินที่เสียไป ซึ่งในตลาดก็จะมีกีตาร์โปร่งมากมายให้เราเลือกซื้อ และในวันนี้ Music Arms จะมาแนะนำ 5 กีตาร์โปร่งในงบ 20000 – 35000  บาทที่ให้ความคุ้มค่าทั้งคุณภาพเสียง รายละเอียดต่างๆ รวมไปถึงชื่อชั้นของแบรนด์มาแนะนำเพื่อนๆ ทุกคน เพื่อประกอบการตัดสินใจ จะมีรุ่นไหนบ้างไปดูกันครับ

1. Epiphone Slash J-45

ราคา : 31,500 บาท
35,000 บาท
ประหยัด10%
Epiphone-Slash-J-45-3
ข้อมูล : 

Epiphone Slash J-45 กีต้าร์ซิกเนเจอร์ของ Slash มาในแบบอะคูสติก เป็นงานที่เจ้าตัวร่วมออกแบบโดยใช้โมเดลที่ Slash เล่นมาอย่างยาวนานจนเป็นเอกลักษณ์และแรงบันดาลใจให้เหล่ามือกีต้าร์ทั่วโลก โดยจะเป็นรุ่น J-45 หนึ่งในอะคูสติกกีต้าร์ที่ขายดีที่สุดและเป็นที่ชื่นชอบมากที่สุด มีความพิเศษที่ไม้บอดี้ทุกส่วนจะเป็นไม้แท้ทั้งหมด ไม้หน้าท็อปโซลิดซิทก้าสปรู๊ซให้เสียงกลางดี ผสมผสานกับด้านข้างและหลังที่เป็นโซลิดมะฮอกกานีเพิ่มมิติเสียงหนาได้ลงตัว องค์ประกอบการออกแบบทั้งหมดดูแลโดย Slash เอง แน่นอนว่าต้องมีโลโก้รูปห้วกะโหลก “Skull” ทางด้านหลังหัวกีต้าร์และลายเซ็นสแลชตรงฝาปิด Truss Rod และยังได้ภาคไฟฟ้าเป็นรุ่น LR Baggs VTC เสียงใสๆเป็นธรรมชาติที่ออกงานได้สบายๆ ทั้งหมดนี้คืองานระดับมืออาชีพที่ส่งตรงจากมือกีต้าร์คนดังถึงมือคุณ

สเปค : 

รายละเอียด Epiphone Slash J-45

  • ทรง Slash J-45
  • ไม้หน้าท็อปโซลิดซิทก้าสปรู๊ซ
  • ด้านข้างและหลังโซลิดมะฮอกกานี
  • ไบน์ดิ้ง 4 ชั้น
  • คอไม้มะฮอกกานี ทรง Slash Rounded C
  • ฟิงเกอร์บอร์ดอินเดียนลอเรล Radius 16 นิ้ว
  • อินเลย์ลายจุด
  • 20 เฟรต แบบ Medium Jumbo
  • ความยาวสเกล 24.75 นิ้ว
  • ลูกบิด Gover Rotomatics
  • บริดจ์ไม้อินเดียนลอเรล
  • นัทและแซดเดิ้ลทำจาก TUSQ
  • ความกว้างนัท 1.69 นิ้ว
  • ภาคไฟฟ้ารุ่น LR Baggs VTC


2. Dread Bodily

ราคา : 19,900 บาท
ประหยัดพิเศษ
Gusta-Dread-Bodily-full-body
ข้อมูล : 

Gusta Dread Bodily กีตาร์โปร่ง Gusta ที่พัฒนาอย่างไม่หยุดยั้งล่าสุดได้ออกตัวท็อป All Solid แต่ยังคงคอนเซปต์ราคาจับต้องได้เช่นเคย รุ่นนี้ไม้หน้าจะเป็นไม้แองเกิลแมนสปรูซที่ให้เสียงกลางยอดเยี่ยม ส่วนด้านข้างและด้านหลังเป็นไม้มะฮอกกานีเสริมมิติความหนาละมุนให้กับเสียง โดยทุกส่วนเป็นไม้แท้ที่ยิ่งนานไปเสียงจะหวานนุ่มนวลมากขึ้น และยังได้ภาคไฟฟ้าเสียงนุ่มๆจาก Fishman Sonitone คุณภาพระดับออกงานสบายๆ เรื่องงานอะไหล่หายห่วงกับการคัดสรรแต่สิ่งดีๆ ใครที่ชอบกีตาร์ไม้แท้ทั้งตัว งานดีๆจาก Gusta รับรองไม่ทำให้ผิดหวัง

สเปค : 
  • บอดี้ทรงเดรทน็อตแบบ Armrest
  • ไม้หน้าท็อปโซลิดแองเกิลแมนสปรูซ
  • ด้านข้างและหลังไม้โซลิดมะฮอกกานี
  • คอไม้แอฟริกันมะฮอกกานี
  • ต่อคอแบบ Dove Tail
  • บริดจ์ไม้อีโบนี
  • ฟิงเกอร์บอร์ดไม้อีโบนี
  • โครงกีตาร์วางแบบ X-Bracing
  • นัทและ Saddle ทำจากกระดูก
  • นัทกว้าง 44 มม.
  • ไบน์ดิ้งและซาวด์โฮลด์ลายเปลือกหอยทำจากไม้เมเปิล / มะฮอกกานี
  • ลูกบิด Open Back สีทอง
  • เคลือบเงา
  • 20 เฟรต
  • ภาคไฟฟ้า Fishman Sonitone
  • อินเลย์และโลโก้ลายมุก
  • หัวกีตาร์ไม้อีโบนี
  • ปิ๊กการ์ดสีกระดองเต่า


3. Lava ME 3 38

ราคา : 34,900 บาท
ประหยัดพิเศษ
Lava ME 3 รวมสี
ข้อมูล : 

Lava ME 3 38″ space bag  กีตาร์อัจฉริยะแห่งศตวรรษที่พัฒนามาจากรุ่น Lava 2 ที่เคยออกมาในปี 2019 สามารถควบคุมการทำงานต่าง ๆ ของกีตาร์ผ่านหน้าจอสัมผัสที่ติดตั้งไว้ด้านบนของตัวกีตาร์ ตัวกีตาร์ยังคงใช้วัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ แต่มีการปรับปรุงใหม่ให้ตัวไฟเบอร์แบบ AirSonic 2 เป็นลักษณะ”รังผึ้ง” ซึ่งทาง Lava เผยว่าการปรับแบบนี้จะได้เสียงที่กังวานมากขึ้น เสียงเบสออกชัดกว่าเดิมถึง 20% และตัวกีตาร์มีความทนทานมากขึ้น

Lava 3 หน้าจอ

รุ่นที่ 3 นี้จะได้หน้าจอควบคุมแบบมัลติทัช ขนาด 3.5 นิ้ว ซึ่งใช้งานง่ายและสามารถปรับแต่งได้ตามต้องการ ในตัวกีตาร์จะเป็นระบบปฏิบัติการ HILAVA ซึ่งจะมีจูนเนอร์, เมโทรนอม, เครื่องบันทึกในตัว สามารถเลือกชุดกลองเองได้ด้วย โดยไม่ต้องเชื่อมต่อมือถือ รองรับ Wi-Fi, บลูทูธ, และซิงค์โปรเจ็กต์ของคุณโดยอัตโนมัติกับ lavaCloud.LAVA ME 3Bye, Extra HassleTuner เพื่อป้อนข้อมูลต่างๆ เช่นแบ็คกิ้งแทร็คหรือการทำเพลงแบบง่ายๆด้วยตนเอง

Lava 3 App

เทคโนโลยี FreeBoost 2.0 ที่รวบรวมเสียงจากอัลกอริธึมขั้นสูงหลายสิบตัวรวมกัน สามารถสร้างเสียงเอฟเฟคหลากหลายรูปแบบและใช้งานได้ง่าย และความพิเศษของรุ่นนี้คือจะมี แอพ Practice พร้อมโหมดการฝึก 5 แบบ สำหรับผู้เริ่มต้นเล่นกีตาร์อีกด้วย ตัวกีตาร์ระบบชาร์จในตัวใช้งานได้นานถึง 9 ชม. น้ำนักเบา ทนทาน พร้อมพกพาไปได้ทุกที่ เปิดโลกนวัตกรรมใหม่ๆไปกับเสียงดนตรีอันสมบูรณ์แบบที่คุณสามารถสร้างได้เอง

สเปค : 

รายละเอียด Lava ME 3  38″ space bag 

  • ขนาด 38 นิ้ว
  • บอดี้กีตาร์ทำจากคาร์บอนไฟเบอร์ แบบ AirSonic 2 ปรับโครงสร้างใหม่ให้เสียงเบสแน่นขึ้น
  • ทนต่อแรงกระแทกมากขึ้นกว่ารุ่นก่อน
  • จอแสดงผลแบบมัลติทัช
  • ระบบปฏิบัติการ HILAVA
  • หน้าจอสัมผัสขนาด 3.5 นิ้ว
  • จูนเนอร์, เมโทรนอม, เครื่องบันทึกในตัว
  • เทคโนโลยี FreeBoost 2.0 สร้างเอฟเฟคกีตาร์ในตัว
  • แอพ Practice จะตรวจจับความแม่นยำและความเสถียรของการเล่นของคุณและให้คำแนะนำที่ถูกต้อง
  • 5 โหมดการฝึกChord Transition, Strumming, Scale Training, Ear Training และ Single Note
  • เทคโนโลยี 4-MASS มอบโน้ตที่สมดุลและสมบูรณ์จากการสั่นพ้องของซาวด์บอร์ด
  • ระบบชาร์จ Wireless ใช้งานได้นานสูงสุด 9 ชม.
  • สามารถใช้งานคู่กับแอบ Lava Me 3 ได้


4. Yamaha LL-TA

ราคา : 39,500 บาท
ประหยัดพิเศษ
Face cover Yamaha LL-TA
ข้อมูล : 

Yamaha LL-TA เป็นกีต้าร์โปร่งไฟฟ้าที่ยามาฮ่าใช้นวัตกรรมใหม่เสริมเอฟเฟค Reverb และ Chorus ในตัวโดยไม่ต้องต่อเพิ่ม ตัวปุ่มสวิทช์จะเป็นแบบเปิด-ปิดอยู่ตรงบอดี้กีต้าร์ ทำให้ผู้เล่นสามารถปรับซาวด์ได้อย่างลงตัว ตัวกีต้าร์แข็งแรงทนทานเพราะซีรีย์ L ของยามาฮ๋าใช้การวางโครงเป็นรูปกากบาทหรือตัว X อยู่แล้ว ทำให้ไม้ไม่คดงอง่ายๆ รุ่นนี้ยังมีไม้ปะหน้าเป็นไม้อิงเกิ้ลแมนสปรู๊ซเพิ่มความใสให้กับเสียงมากขึ้นไปอีก ที่พิเศษคือไม้ส่วนหลังและด้านข้างใช้ไม้โรสวู้ดทำให้ซาวด์กีต้าร์นุ่มนวล เสริมกับคอไม้มะฮอกกานีเพิ่มมิติความหนาให้กับเสียง ดังนั้นจึงกล่าวได้ว่าวัสดุไม้ที่นำมาประกอบกีต้าร์รุ่นนี้มีความลงตัวอย่างเหลือเชื่อ

ภาคฟังค์ชั่นไฟฟ้าทำออกมาได้เยี่ยม ปิ๊กอัพใช้รุ่น Piezo แบบเดียวกับทางกีต้าร์ Martin ที่เคยทำออกมาสู้กับ Takamine มาแล้วทำให้รับประกันคุณภาพเสียงได้ วงจรไฟฟ้าแบบ TransAcoustic ที่มักจะใช้ในกีต้าร์ Cin ทำให้เสียงกังวานใสแบบวินเทจเหมือนซาวด์อะคูสติกยุค 70 บวกกับการดีไซด์ที่ล้ำสมัยทั้งปิ๊กการ์ดเรืองแสงจนไปถึงลูกบิดทรงโดมสีทอง ทุกอย่างเข้ากันได้อย่างลงตัวกับบอดี้กีต้าร์สีซันเบิร์ส แบบนี้เห็นแล้วต้องสะดุดตาแน่นอน เชื่อว่ามือกีต้าร์ทั้งหลายหลงรักเจ้า Yamaha LL-TA  ตั้งแต่ภายนอกจนไปถึงซาวด์กันเลยทีเดียว

สเปค : 

รายละเอียดกีต้าร์ Yamaha LL-TA

  • บอดี้ทรงYamaha Original Jumbo
  • ความยาวสเกล 650 มม. (25.5 นิ้ว)
  • ความยาวกีต้าร์ 41.1 นิ้ว (1046 มม.)
  • ความหนากีต้าร์ 125 มม. (4.9 นิ้ว)
  • ความกว้างกีต้าร์ 415 มม. (16.3 นิ้ว)
  • ไม้ปะหน้าเป็น Top Solid ไม้อิงเกิ้ลแมนสปรู๊ซผ่านกรรมวิธี A.R.E
  • ไม้ส่วนหลังและด้านข้างเป็นโซลิดไม้โรสวู้ด
  • ไม้ส่วนคอใช้ไม้มะฮอกกานี ทับด้วยไม้โรสวู้ดสลับกัน 5 ชั้น
  • ฟิงเกอร์บอร์ดทำจากวัสดุอีโบนี่
  • อินเลย์เป็นลายจุดสีขาว
  • นัทและแซดเดิ้ลทาจากวัสดุยูเรีย
  • ลูกบิดทรงโดมสีทอง
  • ส่วนบอดี้เคลือบแบบเงา ส่วนคอเคลือบแบบด้าน
  • ซาวด์โฮลด์สีขาวและดำ
  • ปิ๊กการ์ดแบบโปร่งแสง
  • ภาคไฟฟ้ารุ่น SYSTEM70 TransAcoustic
  • ปิ๊กอัพแบบ Piezo
  • แผงควบคุมมีปุ่ม Reverb ปรับได้แบบ room และ hall / Chorus / TA Switch และ Line Out โวลุ่ม
  • มีช่อง Line out


5. Ibanez AEWC400

ราคา : 23,850 บาท
26,500 บาท
ประหยัด10%
Ibanez-AEWC400
ข้อมูล : 

กีต้าร์ Ibanez AEWC400 กีต้าร์โปร่งไฟฟ้าทรง AEW ที่ปรับขนาดบอดี้ให้บางลงเล่นง่าย ความพิเศษของรุ่นนี้คือบอดี้ทั้งหมดจะเป็นไม้เฟรมเมเปิ้ล เป็นไม้ที่ให้โทนเสียงกลางดีออกไปทางเสียงแหลม อยู่ในตระกูลไม้เมเปิ้ลแต่ลายไม้นั้นสวยงามคล้ายลายเสือ คอไม้เอ็นยาโตฟิงเกอร์บอร์ดไม้วอลนัท ให้โทนเสียงที่มีมิติมากขึ้น  ดีไซด์สวยงามทั้งลายซาวด์โฮลและอะไหล่ นอกจากนี้ยังได้ปรีแอมป์ป็นรุ่น Ibanez AEQ-SP2 กับปิ๊กอัพ Fishman Sonicore ซาวด์อะคูสติกใส ออกงานสบายๆ จะตีคอร์ดหรือฟิงเกอร์สไตล์ รุ่นนี้เอาอยู่หมด

สเปค : 
  • ทรง AEWC
  • ไม้หน้าไม้เฟรมเมเปิ้ล
  • เคลือบแบบเงา
  • ด้านข้างและหลังไม้เฟรมเมเปิ้ล
  • บอดี้เคลือบเงา คอเคลือบด้านด้วยยูรีเทน
  • ต่อคอแบบ Dovetail
  • บริดจ์ไม้วอลนัทแบบ Top Load
  • ซาวด์โฮลลายเปลือกหอย
  • คอไม้เอ็นยาโต
  • ฟิงเกอร์บอร์ดไม้วอลนัท
  • 20 เฟรต อินเลย์ลายจุดด้านข้าง
  • Radius ฟิงเกอร์บอร์ด 15.75 นิ้ว
  • นัททำจากพลาสติก กว้าง 43 มม.
  • ความยาวสเกล 634 มม.
  • แซดเดิลพลาสติก
  • ลูกบิด Die-Cast
  • ปิ๊กอัพ Fishman Sonicore
  • คอนโทรล Volume, Bass, Treble
  • ปรีแอมป์ Ibanez AEQ-SP2


และนี่ก็คือกีตาร์โปร่งทั้ง 5 รุ่นที่ Music Arms ได้เอามานำเสนอให้ทุกคนได้รู้จักกัน ซึ่งในแต่ล่ะรุ่นก็จะมีคาแร็คเตอร์ของเสียง และลักษณะการใช้งานที่ต่างกันออกไป ใครชอบแบบไหนก็สามารถเลือกได้ตามความต้องการเลยครับ หรือถ้าใครอยากลองเสียงก็สามารถเข้าไปลองได้ที่ Music Arms ทุกสาขาได้เลยครับ

Music Arms