มารู้จัก Power Chord กันเถอะ

หลายๆคนน่าจะเคยได้ยินคำว่า Power Chord หรืออีกชื่อหนึ่งที่หลายคนนิยมเรียกก็ได้แก่คอร์ดร็อค ซึ่งเพื่อนๆบางท่านอาจจะยังไม่เข้าใจว่ามันคืออะไร จับยากมั้ย ให้เสียงแบบไหนหรือทำไมจึงเรียก Power Chord วันนี้ Music Arms จะมาไขข้อสงสัยกันกับการจับ Power Chord ว่าเล่นยังไงแบบง่ายๆเบสิค สำหรับคนที่ไม่เคยจับให้เข้าใจพื้นฐานเบื้องต้น ก่อนที่จะต่อยอดไปหัดเล่นกัน แต่ก่อนอื่นบอกเลยว่าจะเล่น Power Chord ได้นั้นต้องเล่นคอร์ดทาบหรือจำพวกคอร์ด F กันให้ชำนาญก่อนนะจ๊ะ เพราะ Power Chord นี้ทาบล้วนๆ มือใหม่อาจยากหน่อย

สาเหตุที่เรียกว่า Power Chord นั้น ในทางทฤษฎีดนตรีถือว่าเป็นคู่คอร์ดที่”ทรงพลัง”มากที่สุด ทีนี้คำว่าทรงพลังคือยังไง เราต้องมาอธิบายก่อนว่า ปกติแล้ว 1 คอร์ด จะมีโน๊ต 7 ตัวในนั้น ยกตัวอย่างเช่น คอร์ด C ก็จะประกอบไปด้วย C D E F G A B ซึ่งใน 7 ตัวนี้จะมีโน๊ตที่”สำคัญ” กับโน๊ตรองแตกต่างกันไป โน๊ตหลักที่สำคัญนั้นก็คือโน๊ตตัวที่ 5 สำหรับคอร์ด C นั่นก็คือโน๊ตตัว G นั่นเอง ลองนับกันดูได้ ซึ่งหากกดโน๊ตสองตัวนี้จะทำให้เสียงคอร์ด C ยังคงแข็งแรงอยู่แม้ว่าจะไม่กดโน๊ตตัวอื่นๆก็ตาม

พูดง่ายๆคือ Power Chord นั้นจะเป็นการจับคอร์ดเพียงแค่ 2 โน๊ตเป็นหลักคือโน๊ตตัว 1 และ 5 ทำให้หลายคนเรียกว่า คู่ 5 ซึ่งที่จริงแล้ว Power Chord สามารถจับโน๊ตตัวอื่นๆเสริมได้ เช่นโน๊ตตัวที่ 8 หรือตัว C ในอีกอ็อคเต็ปหนึ่ง แต่หลักๆสำหรับมือใหม่แล้วจับแค่ 2 ตัวพอ 1 กับ 5 ทีนี้เรามาดูกันว่าจับยังไง ปกติแล้ว Power Chord นั้นจะเล่นแค่สาย 4-5-6 ของกีต้าร์ โน๊ตตัว C ของกีต้าร์อยู่ที่สาย 5 เฟรต 3 ส่วนโน๊ตตัว G อยู่ที่สาย 4 เฟรต 5 กดแค่ 2 ตำแหน่งนี้โดยที่พยายามให้สายอื่นบอดให้หมด โน๊ตออกเสียงสองจุด นั่นคือการกด Power อย่างถูกต้อง

ดังนั้นหากใครจะไล่ Power Chord ก็ไล่จากคอกีต้าร์กันง่ายๆเลย Music Arms ขอบอกทริคเล็กๆในการหาคู่ 5 ง่ายๆ นั่นคือ ถ้าเราเจอโน๊ตหลักตัว 1 แล้ว โน๊ตตัวที่ 5 จะอยู่ในสายล่างถัดมา 1 สาย และห่างออกไป 2 เฟรต เท่านั้น เช่น Power Chord A โน๊ตตัว A อยู่ที่สาย 6 เฟรต 5 ดังนั้นคู่ 5 ของมันก็จะอยู่ที่สาย 5 เฟรต 7 เท่านั้นเอง เพื่อนๆสามารถใช้วิธีนี้เล่น Power Chord กันง่ายๆโดยไม่ต้องไปจำโน๊ตคู่ 5 ให้ยุ่งยาก

เสียงของ Power Chord นั้นจะไม่มีเสียง Major หรือ Minor แยก ทำให้เหมาะกับเพลงร็อคซะเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งไม่เหมาะกับเพลงประเภทอื่นๆที่ต้องการความหลากหลายโดยใช้โน๊ตตัวอื่นๆเพิ่มเข้ามา จึงเหมาะกับการเล่นริทึ่มมากกว่า และจะยิ่งเหมาะเป็นพิเศษสำหรับเล่นกับเสียง distortion หรือเสียงแตก เพราะจะให้โทนเสียงที่หนา ดุ ร็อค แต่ถ้าเล่นกับกีต้าร์โดยไม่ใส่เอฟเฟคหรือกีต้าร์โปร่ง ซาวด์ก็จะออกมาทุ้มๆไม่มีสเน่ห์เท่าไหร่นัก คล้ายกับการดีดเบสเล่นนั่นเอง

และนี่คือความรู้พื้นฐานเบื้องต้นกับ Power Chord และวิธีใช้ ซึ่งเพื่อนๆสามารถไปฝึก Power Chord กันได้ง่ายๆเลยกับกีต้าร์ตัวโปรดคู่ใจ หรือถ้าใครยังไม่มีกต้าร์ก็สามารถเข้ามาสอบถามที่ร้าน Music Arms ของเราทั้ง 4 สาขาทั่วกรุงเทพ รวมถึงสาขาเดอะมอลล์ โคราชกันได้ ทางเรามีทีมงานหน้าร้านคุณภาพที่พร้อมจะช่วยเหลือให้คำปรึกษาเพื่อนๆสำหรับการเลือกซื้อกีต้าร์เสมอ เมื่อได้กีต้าร์ดีๆซักตัวแล้วก็อย่ารอช้า มาหัดเล่น Power Chord กันเลย รับรองว่าไม่ยากอย่างที่คิดแน่นอน