10 เพลงดิสนี่ย์ที่ตราตรึงในใจ
ปัจจุบันคงไม่มีใครไม่รู้จักบริษัทเดอะวอลต์ดิสนีย์ ผู้ผลิตการ์ตูนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกที่ก่อตั้งโดยสองพี่น้องตระกูลดิสนี่ย์คือ วอลต์และรอย ตั้งแต่ปี 1923 โดยสัญลักษณ์ที่ทุกคนต้องรู้จักคือตัวการ์ตูน มิกกี้ เม้าส์ ที่เรียกได้ว่าเป็นพระเอกทำทุนให้กับบริษัทดิสนี่ย์ในช่วงแรก ก่อนจะกำเนิดอนิเมชั่นชั้นเยี่ยมเรื่องอื่นๆมาสู่สายตาผู้ชม โดยอนิเมชั่นเรื่องยาวเรื่องแรกของดิสนี่ย์คือ สโนไวท์กับคนแคระทั้งเจ็ด ซึ่งได้รับความนิยมอย่างล้นหลามและถือเป็นการพลิกประวัติศาสตร์ครั้งสำคัญของการ์ตูนบนจอยักษ์ จุดเด่นของค่ายดิสนี่ย์เองนอกจากภาพยนตร์อนิเมชั่นแล้วยังมีเพลงประกอบการ์ตูนแต่ละเรื่องที่ทำได้อย่างพิถีพิถันตราตรึงใจจนโด่งดังไปทั่วโลกและนำเอาศิลปินดังๆมาร้องอีกต่างหาก ทำให้หลายๆเพลงของดิสนี่ย์เป็นที่รู้จักในวงกว้าง วันนี้ Musicarms ก็จะมารำลึกบทเพลงจากการ์ตูนดิสนี่ย์ที่หลายๆคนต้องชื่นชอบหรือเคยอยู่ในความทรงจำ
Under the Sea – The Little Mermaid
เพลงดังจากอนิเมชั่นเมื่อปี 1989 อย่าง Under the Sea ได้ถูกนำมารีมิกซ์ใหม่โดยนักร้องรุ่นหลังอยู่หลายครั้ง แต่เวอร์ชั่นที่คลาสสิคที่สุดต้องเป็นของ ซามูเอล อี.ไรท์ (Samuel E. Wright) นักร้องชาวอเมริกันที่ขับร้องไว้เมื่อปี 1989 และเป็นผู้ให้เสียงเจ้า เซบาสเตียน (Sebastian) ตัวละครที่เป็นปูในเรื่อง โดยฉากของเพลงนี้เป็นตอนที่เจ้าปูเซบาสเตียนกำลังอ้อนวอนให้เอเรียล นางเงือกล้มเลิกความปรารถนาที่จะเป็นมนุษย์ เพลงนี้แต่งทำนองโดย อลัน เมนเคน (Alan Menken) และเนื้อร้องโดย โฮเวิร์ด อาชแมน (Howard Ashman) ติดหูคนฟังที่เข้าไปชมภาพยนตร์อย่างรวดเร็วและทะยานขึ้นคว้ารางวัลออสการ์ในปีนั้นสาขา Best Original Song ซึ่งเพลงนี้กลายเป็นเพลงหลักของการ์ตูนเรื่อง The Little Mermaid ในอีกหลายเวอร์ชั่น โดยปี 2007 ที่นำมารีเมคทำใหม่ในเวอร์ชั่นบรอดเวย์ก็ยังคงใช้เพลงนี้ประกอบ แต่เปลี่ยนคนร้องเป็น ติตุส เบอร์เกส (Tituss Burgess)
ที่มา en.wikipedia.org/wiki/Under_the_Sea
Colors of the Wind – Pocahontas
จูดี้ คูห์น (Judy Kuhn) นักร้องชาวอเมริกัน ได้ขับร้องเพลงนี้เป็นเวอร์ชั่นออริจินัลเมื่อปี 1995 โดยเป็นผลงานการประพันธ์ของ สตีเฟ่น สวอลซ์ (Stephen Schwartz) เและ อลัน เมนเคน (Alan Menken) เพื่อใช้ในการประกอบอนิเมชั่นเรื่องโพคาฮอนทัสเมื่อปี 1995 เพลงนี้โด่งดังถึงขั้นคว้ารางวัลออสการ์มาครองได้ในปี 1995 สาขา Best Original Song โดยเนื้อเพลงกล่าวถึงการเคารพในธรรมชาติและการใช้ชีวิตอย่างกลมกลืนระหว่าง คน สัตว์ และธรรมชาติ เพราะเป็นฉากที่โพคาฮอนทัสกำลังโน้มน้าวกัปตัน จอห์น สมิธ ให้รับรู้ถึงความน่าพิศวงของธรรมชาติบนโลกใบนี้ เพลงนี้ยังมีเวอร์ชั่นป็อปที่ วาเนสซ่า วิลเลี่ยมส์ (Vanessa Williams) นักร้องสาวชาวอเมริกันเช่นเดียวกันนำมาร้อง นอกจากจะคว้ารางวัลออสการ์แล้ว เพลงนี้ยังคว้ารางวัลลูกโลกทองคำในสาขาเดียวกัน รวมไปถึงรางวัลแกรมมี่อวอร์ดสาขาเพลงประกอบภาพยนตร์ยอดเยี่ยมอีกด้วย
ที่มา en.wikipedia.org/wiki/Colors_of_the_Wind
A Whole New World – Aladdin
เพลงจากอนิเมชั่นที่โด่งดังเรื่องอาละดิน ที่ได้ แบรด เคน (Brad Kane) และ ลีอา ซาลอนกา (Lea Salonga) สองนักร้องชายหญิงชาวอเมริกันและฟิลิปปินส์เป็นผู้ถ่ายทอด ซึ่งเพลงนี้ได้ ทิม ไรซ์ (Tim Rice) เป็นผู้แต่งเนื้อร้องและ อลัน เมนเคน (Alan Menken) เป็นผู้แต่งทำนอง ออกมาเมื่อปี 1992 ในสไตล์เพลงบัลลาดที่กล่าวถึงโลกใบใหม่ที่กำลังจะค้นพบขณะที่ขี่อยู่บนพรมวิเศษของอาละดิน โดยเพลงนี้ก็สามารถคว้ารางวัลออสการ์สาขา Best Original Song ไปในปี 1993 และเพลงยอดเยี่ยมแห่งปีของแกรมมี่อวอร์ด เวอร์ชั่นป็อปของเพลงนี้ร้องโดย พีโบ ไบรสัน (Peabo Bryson) และ เรกิน่า เบลล์ (Regina Belle) ซึ่งเวอร์ชั่นนี้กระโดดขึ้นอันดับ 1 บิลบอร์ดชาร์ตโดยเขี่ยเพลง I Will Aways Love You ของ วิทนี่ย์ ฮิวส์ตัน (Whitney Houston) ตกลงมาอีกด้วย เพลงนี้ก็แปลงเป็นเวอร์ชั่นภาษาไทยในชื่อเพลง โลกใหม่ที่สวยงาม
ที่มา en.wikipedia.org/wiki/A_Whole_New_World
Reflection – Mulan
เพลงประกอบอนิเมชั่นเรื่อง มู่หลาน ในปี 1998 ที่ได้ ลีอา ซาลอนกา (Lea Salonga) นักร้องสาวฟิลิปปินส์เป็นผู้ขับร้องในอนิเมชั่น โดยเป็นผลงานการประพันธ์ของ แม็ทธิว ไวเดอร์ (Matthew Wilder) และ เดวิด ซิปเพล (David Zippel) และเพลงนี้ยังมีเวอร์ชั่นป็อปที่นักร้องสาวชาวอเมริกันชื่อดังอย่าง คริสติน่า อากีเลร่า (Christina Aguilera) เป็นผู้ขับร้องจนกลายเป็นเพลงเปิดตัวของเธอ ก่อนที่อัลบั้มรวมของตัวหนังเรื่องนี้จะปล่อยออกมาทั้ง 2 เวอร์ชั่น เพลงนี้ใช้ในฉากที่มู่หลานกลับมาบ้านหลังจากล้มเหลวในการสร้างความประทับใจให้กับคู่รัก เพลงสื่อความหมายถึงตัวมู่หลานที่อยากจะให้โลกรับรู้ในตัวตนที่แท้จริงของเธอ โดยเป็นฉากที่เธอกำลังล้างเมคอัพอยู่ในสวนที่บ้านเผยให้เห็นหน้าจริง เนื่องจากเป็นเรื่องเกี่ยวกับตัวละครจีนเพลงนี้จึงโด่งดังมากในแถบเอเชียและนำมาแปลงเนื้อร้องในหลายเวอร์ชั่น รวมไปถึงของไทยที่ได้ โฟร์ท นฤมล จิวังกูร เป็นผู้ร้องในชื่อเพลง”เงา”
ที่มา en.wikipedia.org/wiki/Reflection_(song)
Let It Go – Frozen
เพลงดังประกอบอนิเมชั่นเรื่อง ฟรอสเซ่น ในปี 2013 ที่ได้เสียงของ อิดิน่า เมนเซล (Idina Menzel) หรือผู้ให้เสียงเอลซ่า ราชินีน้ำแข็งตัวเอกของเรื่องมาเป็นผู้ร้องเพลงประกอบ โดยผู้แต่งคือ คริสเทน แอนเดอร์สัน โลเปซ (Kristen Anderson-Lopez) และ โรเบิร์ต โลเปซ (Robert Lopez) เพลงนี้สื่อถึงราชินีเอลซ่าที่ต้องออกจากอาณาจักรเพราะสาธารณะชนรับรู้ถึงความสามารถด้านเวทย์มนต์ในการสร้างนำแข็งของเธอ ซึ่งเพลงนี้ก็มีป็อปเวอร์ชั่นที่ เดมี่ โลวาโต (Demi Lovato) เป็นผู้ขับร้อง นอกจากตัวหนังจะได้รับรางวัลลูกโลกทองคำสาขาอนิเมชั่นยอดเยี่ยมแล้ว เพลงนี้ก็คว้ารางวัลออสการ์ในสาขา Best Original Song ในปี 2014 รวมไปถึงแกรมมี่วอร์ด สาขา Best Song Written for Visual Media ในปี 2015 อีกเช่นกัน โดยทำยอดขายไปได้ 10.9 ล้านแผ่นทั่วโลกเมื่อปี 2014 อีกด้วย มีการแปลงเป็นเนื้อร้องหลายภาษา และของไทยก็ได้ แก้ม วิชญานี มาร้องในชื่อเพลง “ปล่อยมันไป”
ที่มา en.wikipedia.org/wiki/Let_It_Go_(Disney_song)
Can You Feel the Love Tonight – The Lion King
หนึ่งในสุดยอดเพลงรักจากดิสนี่ย์ที่ใช้ประกอบเรื่อง เดอะ ไลอ้อน คิง เมื่อปี 1994 เพลงนี้ได้ เอลตัน จอห์น (Elton John) สุดยอดนักร้องจากเกาะอังกฤษมาเป็นผู้ขับร้องในซิงเกิ้ล เวอร์ชั่นและเป็นผู้ประพันธ์เพลงร่วมกับ ทิม ไรซ์ (Tim Rice) อีกด้วย แต่เวอร์ชั่นออริจินอลที่ใช้ประกอบอนิเมชั่นนั้นร้องโดย คริสเทิ่ล เอ็ดเวิร์ดส์, โจเซฟ วิลเลี่ยมส์, แซลลี่ ดีวอร์สกี้, นาธาน เลน และ เออร์นี่ ซาเบลล่า (Kristle Edwards, Joseph Williams, Sally Dworsky, Nathan Lane, Ernie Sabella) ซึ่งก็ตามคาดเมื่อคว้ารางวัลจาก 2 เวทีใหญ่ทั้งออสการ์และลูกโลกทองคำในสาขา Best Original Song ในปี 1994 โดยเอลตัน จอห์นผู้ร้องในซิงเกิ้ลเวอร์ชั่นก็ได้อานิสงฆ์ของเพลงนี้รับรางวัลแกรมมี่อวอร์ดสาขา Best Male Pop Vocal Performance อีกเช่นกัน เพลงนี้มีเวอร์ชั่นไทยในชื่อเพลง เธอรู้สึกถึงรักหรือเปล่า ขับร้องโดย สุเมธ องอาจ และ จันทร์จิรา นิ่มพิทักษ์พงศ์
ที่มา en.wikipedia.org/wiki/Can_You_Feel_the_Love_Tonight
Go the Distance – Hercules
เพลงนี้แต่งโดย อลัน เมนเคน (Alan Menken) และ เดวิด ซิปเพล (David Zippel) เพื่อใช้ในการประกอบเรื่องเฮอร์คิวลิสเมื่อปี 1997 เวอร์ชั่นประกอบอนิเมชั่นนั้นขับร้องโดย โรเจอร์ บาร์ท (Roger Bart) ผู้ให้เสียงเฮอร์คิวลิส และยังมีเวอร์ชั่นป็อปที่ร้องโดย ไมเคิล โบลตัน (Michael Bolton) นักร้องชาวอเมริกัน โดยเพลงนี้ก็โด่งดังถึงขนาดมีชื่อเข้าชิงทั้งรางวัลออสการ์และลูกโลกทองคำในปี 1997 แต่โชคร้ายที่ปีนั้นหนังคู่แข่งดันเป็นไททานิค หนังฟอร์มยักษ์ที่กวาดรางวัลไปเพียบ รวมถึงเพลง My Heart Will Go On ที่ชนะทั้งรางวัลออสการ์และลูกโลกทองคำในสาขา Best Original Song ไป แต่เพลง Go To Distance ก็ได้รับความนิยมไปทั่วโลกไม่น้อย โดยเพลงนี้ใช้ในฉากที่เฮอร์คิวลิสกำลังภาวนาต่อพระเจ้าก่อนพบความจริงว่าเขาคือบุตรของซุส ราชาแห่งทวยเทพ ก่อนที่เขาจะกลับไปเป็นฮีโร่ที่เขาโอลิมปัส สำหรับเวอร์ชั่นภาษาไทยชื่อ “สุดฟ้าดิน” ขับร้องโดย ปั่น ไพบูลย์เกียรติ เขียวแก้ว
ที่มา en.wikipedia.org/wiki/Go_the_Distance
We Belong Together – Toy Story 3
เพลงสนุกที่มีกลิ่นอายของดนตรีโซลและบลูส์ ได้แรนดี้ นิวแมน (Randy Newman) นักร้องและนักแต่งเพลงชาวอเมริกันที่เคยทำเพลง Down in New Orleans ในเรื่อง The Princess and the Frog มาแล้ว ครั้งนี้นิวแมนลงมือทำเองทั้งหมดทั้งการแต่งเนื้อร้อง ทำนอง และเป็นผู้อัดเสียงเอง ซึ่งก็หายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้งเมื่อเพลงนี้สามารถคว้ารางวัลออสการ์ครั้งที่ 83 ในปี 2011 โดยเอาชนะเพลง I See the Light จากเรื่อง Tangled (ราพันเซล) ของทางค่ายดิสนี่ย์เช่นเดียวกัน เพลงนี้เป็นเพลงเปิดตัวเพลงแรกในอนิเมชั่นเรื่อง Toy Story 3 แต่เล่นเอาแฟนการ์ตูนนักสะสมต้องรอเกือบ 2 ปี เพราะในช่วงแรกนั้นค่ายดิสนี่ย์เปิดแค่ให้ดาวโหลดเป็น MP3 เท่านั้น จนปี 2012 ถึงร่วมมือกับค่ายอินทราดา เร็คคอร์ด (Intrada Records) ทำซีดีซาวด์แทร็คย้อนหลังขึ้นมา
ที่มา en.wikipedia.org/wiki/We_Belong_Together_(Randy_Newman_song)
Circle of Life – The Lion King
หนึ่งในเพลงประกอบอนิเมชั่นเรื่องเดอะ ไลอ้อน คิงเมื่อปี 1994 เพลงนี้ได้ ทิม ไรซ์ (Tim Rice) เป็นผู้แต่งเนื้อร้อง ส่วนด้านทำนองเป็นของ เอลตัน จอห์น (Elton John) นักดนตรีชื่อดังชาวอังกฤษ โดยเวอร์ชั่นประกอบหนังนั้นเป็น คาร์เมน ทวิลลี่ (Carmen Twillie) และ เลโบแฮง โมเรก (Lebohang Morake) หรือ เลโบ เอ็ม. (Lebo M.) เป็นผู้ขับร้อง ทำนองนั้นทำได้ฮึกเหิมอลังการสมกับฉากที่ ราฟิกิ ชู ซิมบ้า บนหน้าผาแสดงตัวว่าที่เจ้าป่าในอนาคต โดยเพลงนี้ก็โด่งดังไม่แพ้เพลง Can You Feel the Love Tonight จากเรื่องเดียวกัน จนได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์สาขา Best Original Song ทั้งคู่ และเป็น Can You Feel the Love Tonight ที่เข้าวินไป อย่างไรก็ตามคะแนนความนิยมของ Circle of Life ถือว่าดีมากขึ้นถึงอันดับ 18 ของบิลบอร์ดชาร์ต และ ทะยานขึ้นอันดับต้นๆของชาร์ตเพลงทั่วยุโรปในปีนั้น จึงต้องมีการแปลงเนื้อร้องเป็นเวอร์ชั่นของหลายประเทศ
ที่มา en.wikipedia.org/wiki/Circle_of_Life
You’ll Be in My Heart – Tarzan
ผลงานเพลงจาก ฟิล คอลลินส์ (Phil Collins) นักร้อง, นักแต่งเพลงชื่อดังชาวอังกฤษ โดยเจ้าตัวเป็นทั้งผู้แต่งและอัดเสียงเองเพื่อใช้ประกอบเรื่องทาร์ซานปี 1999 ส่วนเวอร์ชั่นซิงเกิ้ลได้ เกล็น โคลส (Glenn Close) เป็นผู้ขับร้อง เพลงนี้โด่งดังเป็นอย่างมากจนติดบิลบอร์ดชาร์ตในอันดับที่ 21 และคว้าสองรางวัลใหญ่อย่างรางวัลออสการ์และลูกโลกทองคำในสาขา Best Original Song ทั้งคู่ รวมไปถึงการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลแกรมมี่วอร์ดแต่พลาดรางวัลนี้อย่างน่าเสียดาย เพลงนี้ทำออกมาเป็นเวอร์ชั่นภาษาไทยเช่นเดียวกันในชื่อ เธอแนบข้างใจ ขับร้องโดย สุทธานิน มาลัยพงษ์ ซึ่งฉากที่เพลงนี้ออกมาคือตอนที่ กาลา แม่กอลิร่าที่กำลังกล่อมทาร์ซานให้หยุดร้องไห้และบอกว่าเธอจะเป็นผู้ปกป้องทาร์ซานเอง เข้ากับความหมายของเพลงอย่างมากและเป็นหนึ่งในฉากสุดประทับใจของอนิเมชั่นดิสนี่ย์
ที่มา en.wikipedia.org/wiki/You%27ll_Be_in_My_Heart