7 วิธีในการเลือกซื้อกีต้าร์โปร่งแบบง่ายๆ
พบกับบทความดีๆจาก Musicarms เช่นเคย วันนี้ยังขอเอาใจมือกีต้าร์ที่กำลังมองหากีต้าร์โปร่งไม่ว่าจะเป็นคนที่เล่นมาได้ซักพักต้องการจะมีกีต้าร์ดีๆใช้ รวมไปถึงมือใหม่ที่ยังเลือกซื้อกีต้าร์โปร่งไม่เป็นและต้องการที่จะมีกีต้าร์ตัวแรกถูกๆราคาเบาๆ แต่วันนี้ Musicarms จะไม่ได้มาแนะนำกีต้าร์ทีละตัวแบบเช่นเคย เราจะมาอธิบายถึง”หลักการ” หรือ “ทริค” ในการเลือกซื้อกีต้าร์เบื้องต้นกันว่ามีวิธีใดบ้าง โดยทั้ง 7 ข้อนี้ถือเป็นเรื่องเบสิคที่สำคัญยามที่เพื่อนๆจะเดินเข้าไปซื้อกีต้าร์ที่ร้านต่างๆ ซึ่งจะช่วยให้เลือกกีต้าร์ที่เหมาะกับตัวเองได้ดียิ่งขึ้น ส่วนจะมีข้อไหนกันบ้างนั้น ตามไปดูกันเลย
1. ต้นทุนในกระเป๋า
แน่นอนว่าการเลือกซื้อของอะไรซักอย่างสิ่งที่สำคัญที่สุดคืองบประมาณหรือวงเงินผู้ซื้อ เพราะต่อให้กีต้าร์จะมีคุณภาพที่ดีใช้ไม้ดีๆมาทำ ให้ซาวด์สุดยอดแค่ไหนถ้าไม่มีตังค์ซื้อก็จบ ดังนั้นก่อนที่จะซื้อกีต้าร์โปร่งซักตัว เพื่อนๆควรจะศึกษาเรื่องราคาหรือคำนวณงบประมาณค่าใช้จ่ายมาให้เรียบร้อย ในบางครั้งผู้ขายอาจจะสามารถแนะนำกีต้าร์ตามงบได้ ส่วนคุณภาพกีต้าร์โดยมากก็จะขึ้นอยู่กับราคาเช่นเดียวกัน ถ้าต้องการกีต้าร์เสียงดีๆแบรนด์ดังก็อาจจะต้องใสะสมงบกันมากซักนิด ข้อนี้ถือว่าเป็นเรื่องสำคัญเรื่องแรกที่ต้องกะเกณฑ์กำลังทรัพย์กันดีๆ
2. เลือกรูปทรงให้เหมาะตามที่ชอบ
ปัจจุบันนั้นกีต้าร์โปร่งออกมาหลายแบรนด์หลายทรง ซึ่งแน่นอนว่าแต่ละคนย่อมมีความชอบไม่เหมือนกัน บางคนอาจจะชอบทรงเล็กๆ หรือบางคนอาจจะชอบทรงใหญ่เสียงกังวาน และมีหลายๆคนที่เลือกใช้กีต้าร์ตามแบบไอดอลตัวเองอาจต้องการกีต้าร์ที่เป็นซิกเนเจอร์ศิลปินนั้นๆ เชื่อเถอะว่าถ้าได้เล่นกีต้าร์ที่มีรูปทรงที่ชอบนั้นมีผลทางด้านจิตใจอย่างมาก ทำให้อยากเล่นกันได้ทั้งวัน ดังนั้นปฏิเสธไม่ได้ว่ารูปทรงคือหนึ่งในปัจจัยสำคัญในการเลือกซือกีต้าร์เสมอ
3. เลือกยี่ห้อที่โดนใจ
ข้อนี้จะคล้ายคลึงกับข้อสอง เพราะยี่ห้อกีต้าร์แต่ละแบรนด์นั้นจะมีรูปทรงที่เป็นเอกลักษณ์แตกต่างกันไป รวมถึงมีผลต่อการเล่นไม่น้อย ถ้าเป็นกีต้าร์ยี่ห้อดีๆงานประกอบก็จะเนี๊ยบช่วยให้เล่นง่ายมากขึ้นไปอีก แต่ทั้งนี้ก็ต้องสัมพันธ์กับราคาหรืองบประมาณตามข้อแรก และ Musicarms ขอแนะนำว่า ถ้าเป็นมือใหม่แล้ว “พยายามเลือกกีต้าร์แบรนด์ดังไว้ก่อน” จะดีที่สุด อย่างน้อยๆก็เป็นการการันตีว่าได้กีต้าร์ที่มีคุณภาพแน่นอน เพราะยี่ห้อระดับ Fender, Yamaha, Gibson พวกนี้เค้าจะมี QC หรือการตรวจสอบมาตรฐานก่อนออกวางจำหน่าย ตรงนี้จะช่วยมือใหม่ได้มาก แต่ถ้าเป็นคนที่รู้ลึกอาจเลือกยี่ห้อตามความชอบอย่างเดียวแล้วค่อยไปดูงานประกอบจากตัวกีต้าร์อีกที
4. ทดลองเล่นเพื่อได้ซาวด์ที่ต้องการ
แน่นอนว่าคนซื้อกีต้าร์ย่อมต้องอยากได้ยินเสียง ดังนั้นก่อนจะซื้อกีต้าร์ทุกครั้งต้องทดลองเล่นจริงที่ร้านเลยซะก่อน นอกจากจะรับรู้เรื่องเสียงแล้ว จะได้เป็นการทดลองเรื่องทัชชิ่งว่าถนัดมือมั้ย คือเล็กหรือใหญ่ไปมั้ยอีกด้วย แม้ว่าบางครั้งเพื่อนๆอาจศึกษาเรื่องปิ๊กอัพของกีต้าร์มาแล้ว แต่การเล่นด้วยตัวเองจะได้ประสบการณ์ที่ดีกว่าและเป็นการเลือกกีต้าร์ไปในตัว ที่สำคัญที่ Musicarms อยากแนะนำคือ “พยายามลองกีต้าร์กับแอมป์ 2 ยี่ห้อ” เพราะแอมป์นั้นมีผลต่อเสียงกีต้าร์พอสมควร หากเล่นแอมป์คนละยี่ห้อแล้วเสียงอาจจะเปลี่ยนไปได้ และพอซื้อกลับไปเล่นที่บ้านแล้วซาวด์อาจจะไม่เหมือนเล่นที่ร้านซึ่งมีการปรับแต่งแอมป์เอาไว้แล้ว ดังนั้นอย่าอาย ถ้าจะซื้อกีต้าร์แล้วควรลองเล่นให้มั่นใจซะก่อน
5. ควรซื้ออุปกรณ์เสริมไปด้วย
หลายๆคนมักจะมาที่ร้านโดยมุ่งที่จะซื้อกีต้าร์ไฟฟ้าตามงบเท่านั้น ตรงนี้ Musicarms ขอแนะนำว่าควรจะเลือกซื้ออุปกรณ์เสริมติดมือไปด้วย เพราะถ้าเล่นกีต้าร์ยังไงก็ต้องได้ใช้ ไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์ดูแลรักษากีต้าร์ เช่น น้ำยาต่างๆ หรือเคสกีต้าร์เพื่อป้องกันรอยกระแทกหรือฝุ่นละออง รวมไปถึงอุปกรณ์ที่จะช่วยให้การเล่นกีต้าร์เป็นไปอย่างราบลื่นมากขึ้น เช่น Tuner หรือสายกีต้าร์สำรอง หากว่ามีงบเหลือไม่ควรลืมอุปกรณ์เสริมที่สำคัญเหล่านี้ เพราะเป็นเครื่องมือที่มือกีต้าร์ทุกคนต้องใช้ และจะช่วยให้เล่นกีต้าร์ได้ดียิ่งขึ้นรวมถึงถนอมกีต้าร์ตัวเก่งให้ใช้งานได้ยาวนาน
6. ควรสอบถามความรู้เบื้องต้นจากผู้ขายเสมอ
หลายๆคนเวลาที่จะเลือกซื้อกีต้าร์หรือจะถามรายละเอียดจากร้านกีต้าร์มักจะมีอาการเหนียมอายไม่กล้าถามโดยเฉพาะมือใหม่ ตรงนี้ Musicarms ก็เข้าใจและเคยเป็นมาก่อนเนื่องจากเรายังไม่เก่ง เลยไม่กล้าลองกีต้าร์กลัวจะเงอะงะทำอะไรไม่เป็น แต่อยากให้เพื่อนๆรู้ไว้เลยว่า พนักงานร้านกีต้าร์ทุกคนรวมถึง Musicarms ต้องการที่จะช่วยเหลือดูแลเพื่อนๆทุกคนอยู่แล้ว ดังนั้นถ้าจะมาเลือกซื้อสินค้าไม่ว่าจะเป็นกีต้าร์หรือเครื่องดนตรีอื่นๆก็ตามอย่าอายที่จะสอบถามคนขาย เช่น กีต้าร์ตัวนี้ไม้อะไร, เสียงแบบไหน เพราะจะช่วยให้เพื่อนๆได้รับความรู้ซึ่งจะนำไปพัฒนาการเล่นหรือใช้งานกีต้าร์ได้เต็มประสิทธิภาพมากขึ้น
7. ตรวจเช็คสินค้าให้เรียบร้อยก่อนออกจากร้าน
หลังจากเลือกกีต้าร์ที่ต้องการได้แล้ว อย่าเพิ่งรีบเอากลับไปเล่นที่บ้าน ให้เพื่อนๆลองเช็คความเรียบร้อยของกีต้าร์ให้เรียบร้อยก่อนออกจาร้านเสมอ หากต้องการปรับแต่งกีต้าร์เช่นปรับทัชชิ่งหรือเปลี่ยนสายกีต้าร์สามารถทำได้เลยทันทีโดยการปรึกษาผู้ขาย หรือหากกีต้าร์มีตำหนิที่ยังไม่พอใจก็สามารถเปลี่ยนได้ทันที ตรงนี้เป็นสิทธิ์ของผู้ซื้อที่ต้องตรวจสอบสินค้าก่อนเสมอ รวมถึงการสอบถามถึงเงื่อนไขของการรับประกันตัวสินค้าให้เรียบร้อยว่ามีเงื่อนไขอย่างไรบ้าง ซึ่งในบางร้านอาจมีการรับประกันการเปลี่ยนให้ภายใน 7 วันนับจากวันที่ซื้อให้ด้วย แต่อย่างไรแล้วเราควรสอบถามให้ละเอียดแน่ชัด สงสัยในสิ่งไหนควรสอบถามให้เรียบร้อย และทำการขอใบเสร็จ ตรวจสอบรายละเอียดต่างๆ บนใบเสร็จให้ตรงกับข้อมูลจริงก่อนออกจากร้าน
และทั้ง 7 ข้อนี้คือข้อควรรู้ง่ายๆในการเลือกซื้อกีต้าร์โปร่งเบื้องต้นซึ่งเพื่อนๆสามารถทำได้ น่าจะช่วยให้การเลือกซื้อกีต้าร์โปร่งของเพื่อนๆได้ดียิ่งขึ้น หากเพื่อนๆต้องการเลือกซื้อกีต้าร์โปร่งดีๆซักตัวก็สามารถเข้ามาที่ร้าน Musicarms ของเราได้เลย และสามารถสอบถามรายละเอียดกีต้าร์รุ่นต่างๆได้จากทีมขายหน้าร้านของเราโดยตรง อย่างที่เกิร่นไว้ว่าทางเรายินดีให้บริการเต็มที่เพื่อที่เพื่อนๆจะได้กีต้าร์ไฟฟ้าดีๆก่อนออกจาร้านไปเสมอครับ