5 เหตุผลที่ต้องเลือก Yamaha FG-TA

Yamaha FG-TA เป็นกีต้าร์ซีรี่ย์ FG ที่ทาง Yamaha ออกมาอย่างยาวนานตั้งแต่ปี 1966 โดยมี FG180 เป็นรุ่นแรก หลังจากนั้นก็ได้พัฒนามาอย่างต่อเนื่องเกินกว่า 50 ปี เพื่อมือกีต้าร์ทั่วโลก มีการปรับปรุงเรื่องเสียงและเนื้อไม้ให้ดียิ่งขึ้น จนปี 2016 ก็ได้นำนวัตกรรมใหม่ที่ทาง Yamaha คิดค้นขึ้นมาคือ TranAcoustic คือสามารถใส่เสียงเอฟเฟคต่างๆลงในซาวด์กีต้าร์อะคูสติกได้โดยไม่ต้องต่อพ่วงสายหรือเสียบแอมป์

สำหรับนวัตกรรม TramAcoustic นี้ทาง Yamaha ได้เริ่มจากกีต้าร์ซีรี่ย์ LL เป็นซีรี่ย์แรก แต่เนื่องจากซีรี่ย์ LL นั้นเป็นไม้แท้ทั้งตัว (All Solid) จึงทำให้มีราคาสูง เมื่อมีเสียงเรียกร้องจากมือกีต้าร์ทั้งหลาย รวมถึง Yamaha ต้องการที่จะตีตลาดวงกว้าง จึงนำ TranAcoustic มาปรับปรุงใส่ในรุ่นท็อปฮิตอย่าง FG ส่งผลให้ทีราคาที่จับต้องได้ แม้ว่าจะลดสเปคไม้ลงไปบ้าง แต่ไม้หน้ายังคงเป็นท็อปโซลิดหรือไม้แท้ ที่ส่งผลต่อเสียงกีต้าร์โดยตรง สำหรับกีต้าร์ซีรี่ย์ FG รุ่นใหม่นี้ จะมีอะรเปลี่ยนไปบ้าง ลองไปดู 5 เฟตุผลที่เพื่อนๆต้องเลือกกันได้เลย

เทคโนโลยี TranAcoustic

เป็นเทคโนโลยีที่นำเอารูปแบบของกีต้าร์ไฟฟ้ามาใช้ เป็นนวัตกรรมใหม่ของโลกคือการนำเอาเอฟเฟคกีต้าร์เสียงต่างๆมาใช้โดยที่ไม่ต้องต่อพ่วงกับแอมป์หรือเสียบปลั๊ก TransAcoustic จะทำหน้าที่โดยการนำแรงสั่นสะเทือนของเสียงอะคูสติกในกีต้าร์ ด้านหนึ่งจะเป็นสัญญาณ (Dry) และอีกด้านหนึ่งจะส่งไปไปผสมกับสัญญาณ (Wet) ที่มีเอฟเฟคอยู่ ทำให้เกินเสียงเอฟเฟคในซาวด์อะคูสติคต่างๆ เสียงเกิดมีมิติ โดยจะปรับแต่งได้ที่ด้านข้างกีต้าร์ตรงๆปรับปุ่ม Chorus และปุ่ม Reverb

ปิ๊กอัพ System 70 แบบ SRT

สำหรับกีต้าร์ Yamaha FG-TA นี้ได้มีการปรับปรุงปิ๊กอัพมาใช้เป็น System 70 แบบ SRT ที่ทาง Yamaha นำร่องลองใช้กับรุ่น AC1 และ AC3 จนได้รับความนิยมอย่างมากและกีต้าร์โปร่งไฟฟ้ารุ่นสูงในยุคหลังๆของ Yamaha จะเป็นปิ๊กอัพรุ่นนี้หมดไม่ว่าจะเป็นซีรี่ย์ TA และซีรี่ย์ APX จุดเด่นของมันคือเป็นการฝังปิ๊กอัพลงในเนื้อไม้ ให้เสียงที่นุ่มนวลมากขึ้น เป็นกีต้าร์ที่ทาง Yamaha อัพเกรดระบบเสียงโดยไม่ต้องปรับ EQ และย่านเสียงทุกเสียงมาเต็ม ยิ่งถ้าใส่เอฟเฟคเล่นปิ๊กกิ้งด้วย เสียงจะมีมิติมากขึ้นอย่างเหลือเชื่อ

บอดี้กีต้าร์บางลง

สำหรับซีรี่ย์ FG รุ่นใหม่นี้ ทาง Yamaha มีการบอดี้ให้บางลง เนื่องจากตัวภาคไฟฟ้านั้นมี TranAcoustic มาช่วยในเรื่องของเสียงร้องทั้ง Reverb และ Chorus อยู่แล้ว การปรับบอดี้ให้บางจึงเป็นข้อดีที่ช่วยลดเสียงเบส และเพิ่มย่านเสียงกลางกับแหลมให้ตัวกีต้าร์มากขึ้น ซาวด์คลีนของ FG-TA จึงมีความบางใสกว่ารุ่นก่อนอยู่มาก เหมาะทั้งสตั้มคอร์ดและเล่นแบบปิ๊กกิ้ง ยิ่งถ้าเล่นภาคไฟฟ้าจะรู้สึกเลยว่าเสียงลงตัวมีมิติอย่างมาก และการปรับบอดี้บางลง ช่วยให้เล่นได้ง่ายขึ้นอีกด้วย

วางโครง Bracing ภายในกีต้าร์ใหม่

ข้อนี้จะสัมพันธ์กับการที่บอดี้บางลง เพราะโครงไม้ภายในกีต้าร์ต้องมีการปรับแต่งตามลักษณะบอดี้ แต่ทาง Yamaha ยังใชิวิธีวางโครงไม้รูปเปลอกหอยเช่นเดิม เพียงแต่ขอบไม้จะชิดกับตัวบอดี้มากขึ้น ผสมกับวางไม้รูปกากบาท ช่วยยึดให้บอดี้แข็งแรง การวางโครงไม้แบบใหม่นี้มีผลต่อเสียงเช่นกัน ซาวด์จะออกมาพุ่ง คมชัด มากกว่าของเดิมที่มีลักษณะเสียงก้อง ตัวกีต้าร์มีความทนทานมากขึ้น ซาวด์ใสชัดเจนขึ้นกว่ารุ่นก่อนเยอะพอสมควร

การปรับราคาและเนื้อไม้ต่างๆ

อย่างที่เกริ่นกันไปในย่อหน้าแรกๆว่า TranAcoustic นี้มีการใส่ในรุ่น LL มาก่อนหน้า แต่เนื่องจากราคาสูงเกินไปเลยนำมาใส่ในซีรี่ย์ FG ทำให้ราคานั้นย่อมเยาลงมาค่อนข้างเยอะ ใครที่ต้องการกีต้าร์เสียงดีๆสำหรับออกงานหรือเล่นในห้องอัดเสียงสตูดิโอสามารถจับต้องได้ การมีเอฟเฟคประกอบเสียงกีต้าร์โปร่งนั้นถือเป็นสเน่ห์อย่างมากและไม่เหมือนใคร ถ้าเพื่อนๆต้องการทำเพลงลงยูทูปหรือเล่นสดตามร้านอาหารก็ไม่ต้องง้อเอฟเฟคอีกต่อไป กับราคาแบบนี้ถือว่า Yamaha ตีตลาดได้กว้างขึ้น แม้ว่าจะลดไม้ด้านข้างและหลังเป็นลามิเนท เสียงก็ไม่ได้ตกลงไปจากรุ่น LL มากมายเลย

ทั้ง 5 ข้อนี้คือเหตุผลหลักๆที่เพื่อนๆคนไหนกำลังมองหากีต้าร์ดีๆอยู่ต้องมาลอง Yamaha FG-TA ดูซักครั้ง เพราะเสียงกีต้าร์ที่คลอด้วยเอฟเฟคนั้นมีมิติ และไพเราะอย่างเหลือเชื่อ ด้วยนวัตกรรมใหม่จากทาง Yamaha นี้ทำให้การทำซาวด์กีต้าร์ดีๆกลายเป็นเรื่องง่าย เรื่องราคาก็ไม่ได้แพงจนเกินไป ถ้าใครอยากมาลองเสียงด้วยตัวเองก็มาได้เลยที่ร้าน Musicarms ทุกสาขา เชื่อเลยว่าเพื่อนๆจะต้องแปลกใจและหลงรักในนวัตกรรม TranAcoustic ของแบรนด์ Yamaha นี้แน่นอน Musicarms รับรองด้วยตัวเองเลยว่าของเค้าดีจริงๆ