5 เหตุผลที่ต้องเลือก Les Paul
กีต้าร์ทรง Les Paul ถือเป็นจุดเด่นของค่าย Gibson เพราะคู่แข่งโดยตรงอย่าง Fender ไม่ได้ผลิตทรงนี้ออกมาขาย แม้ว่าระยะหลังจะมียี่ห้อเล็กๆเจ้าอื่นผลิตทรงนี้ออกมาบ้าง แต่โดยรวมๆแล้วหากนึกถึงทรง Les Paul ก็จะคิดถึง Gibson แน่ นอน ศิลปินดังๆที่ใช้กีต้าร์ทรงนี้มีมากมายทั่วโลก เช่น Slash มือกีต้าร์ชื่อดังแห่งวง guns n’roses, Jimmy Page แห่ง Led Zepplien รวมไปถึงของไทยเราเช่น พี่ป้อม อัสนี เป็นต้น ทีนี้หลายๆคนก็อาจจะสงสัยว่าทรง Les Paul นี้มีดีอะไรซึ่งแน่นอนว่า 1 ในนั้นคือความสวยงามแน่ล่ะ แต่องค์ประกอบอื่นๆที่หลายคนอาจไม่ทราบ ก็จะขอยกออกมาเป็น ข้อย่อยๆ 5 ข้อดังนี้
1. ซาวด์อันเป็นเอกลักษณ์
หากใครได้ลองจับ Gibson Les Paul แล้วล่ะก็จะพูดเหมือนกันว่าตกหลุมรักเสียงของมันตั้งแตกแรกเริ่ม ด้วย ซาวด์ที่หนา หนักหน่วงในสไตล์ของ Gibson แท้ๆ ทำให้เข้ากับดนตรีทุกแนวไม่ว่าจะเป็น บลู แจ๊ส หรือร็อค และถ้าผลิตโดย Gibson นั้นตัวบอดี้และคอจะใช้ไม้มะฮอกกานีซึ่งให้เสียงหนาเฉพาะตัวเป็นเอกลักษณ์ เสียงที่ออกมาจะนุ่มลึก ทำให้กีต้าร์ Les Paul มีจุดเด่นในเรื่องซาวด์ที่ชัดเจน
2. การตั้งสายและจูนเนอร์
ปกติแล้วทรง Les Paul จะไม่มีคันโยกมาให้ซึ่งต้องซื้อแยกต่างหาก แต่เป็นข้อดีของทรงนี้เพราะโอกาสที่สายจะเพี้ยนมีน้อยมาก ลูกบิดของทรงนี้จะเป็นแบบโอเมติกทำให้ง่ายต่อการดูแลรักษา อีกทั้งเลสพอลแทบทั้งหมดจะมีแค่ 22 เฟรต ทำให้ช่วงระยะห่างระหว่างเฟรตค่อนข้างกว้างง่ายต่อการเล่น อุปกรณ์เสริมของเลสพอลยังมีไม่มากเพราะส่วนใหญ่มือกีต้าร์จะชอบซาวด์และบอดี้
แบบเดิมๆ ทำให้ทรงนี้มีจุดเด่นที่การดูแลรักษาง่ายและไม่จุกจิกยุ่งยาก
3. Sustain (ความยาวของเสียง)
อย่างที่บอกไปในข้อแรกว่า Les Paul จะใช้ไม้มะฮอกกานีทำบอดี้และคอ ซึ่งไม้มะฮอกกานีนี้จะมีลักษณะเด่นคือ สามารถเก็บเสียงไว้ได้นาน ทำให้มือกีต้าร์สามารถลากเสียงยาวไว้ได้ด้วยการดีดแค่ครั้งเดียว และทรง Les Paul จะมี ด้านเว้าเข้าไปในบอดี้แค่ด้านเดียว ทำให้เนื้อไม้ไม่ถูกกินมากจึงมีลักษณะหนาและน้ำหนักมาก เหมาะต่อการเล่นแบบลากเสียง sustain ในแนวบลูส์หรือร็อคได้ตามความต้องการ
4.กระบวนการผลิต
ทราบกันดีว่าบอดี้ของ Les Paul จะมีน้ำหนักมากกว่ากีต้าร์ทรงอื่น แต่ตรงนี้ทำให้เป็นจุดเด่นเพราะตัวไม้จะมีผลต่อ เสียงแบบชัดเจน และทรงนี้จะคงสภาพเนื้อไม้ไว้ได้มากกว่าทรงอื่นเพราะบอดี้เป็นแบบ one cut away หรือเว้าด้าน เดียวต่างจากทรงอื่นๆ รวมไปถึงช่วงเฟรตกีต้าร์ที่ใช้ไม้โรสวู้ดมาประกบกับช่วงคอที่เป็นไม้มะฮอกกานีทำให้หนาและมีขั้นตอน ผลิตที่ค่อนข้างยุ่งยากกว่า ดังนั้นราคาของทรง Les Paul นี้จึงค่อนข้างสูงกว่ากีต้าร์ทรงอื่นนั่นเอง
5.Humbuckers
นี่คือจุดเด่นและเป็นตำนานที่ลอกเลียนแบบไม่ได้ของ Les Paul อย่างแท้จริง ซึ่งบริษัท Gibson จะใช้ปิ๊กอัพ Humbuckers กับ Les Paul ทุกรุ่น ทำให้เสียงออกมาค่อนข้างพุ่งไม่แบนราบ ซึ่งเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้มือกี ต้ารืไม่ว่าจะเป็นแนวไหนก็หลงรักเจ้าอ้วนกลมตัวนี้ทั้งนั้น ซาวด์ของ Humbuckers ยังเข้ากับดนตรีทุกประเภทไม่ว่าจะ เป็นเพลงช้าอย่าง SMooth Jazz จนไปถึงแนวเร็วๆอย่าง Hard Rock ทำให้นักดนตรีที่ต้องการเสียงพุ่งแต่ นุ่มลึกคงไม่ปฏิเสธที่จะมี Les Paul สักตัวเก็บไว้แน่นอน
ข้อดี 5 ข้อที่ยกมาน่าจะเป็นแนวทางให้กับผู้ที่กำลังตัดสินใจเลือกซื้อกีต้าร์อยู่ว่าทรงไหนถึงเหมาะกับตนเอง ซึ่ง Les Paul นี้ก็ถือเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่น่าสนใจหากมือกีต้าร์ต้องการทรงและซาวด์ดังกล่าว ซึ่งเชื่อได้เลยว่าหากคุณมาเป็นสาวก Les Paul แล้วจะไม่ผิดหวังกับกีต้าร์ทรงนี้อย่างแน่นอน
ขอบคุณที่มา spinditty
ขอบคุณรูปภาพจาก musiciansfriend, pourlesmusiciens และ spinditty