5 ประเภท Nut และ Saddle ที่นิยมในกีต้าร์โปร่ง
Nut และ Saddle เป็นหนึ่งในอุปกรณ์ที่สำคัญสำหรับกีต้าร์ทุกชนิดโดยเฉพาะกีต้าร์โปร่ง เพราะเป็นตัวรองสายซึ่งมีผลต่อเสียงโดยตรงเนื่องจากจะตอบรับการสั่นสะเทือนของสาย รวมถึงทัชชิ่งการเล่นต่างๆอีกด้วย ทำให้เพื่อนๆหลายคนเริ่มสนใจว่าซื้อกีต้าร์โปร่งทั้งทีเลือก Nut หรือ Saddle แบบไหนดี เนื่องจากปัจจุบันก็มี Nut Saddle มากมายหลายแบบให้เลือกใช้งาน วันนี้ Music Arms จะพาไปรู้จักกับ 5 ประเภท Nut และ Saddle ที่นิยมในกีต้าร์โปร่ง เพื่อช่วยในการตัดสินใจเลือกซื้อกีต้าร์ของเพื่อนๆมากขึ้น
กระดูก (Bone)
เป็น Nut และ Saddle ที่ได้รับความนิยมมาที่สุดซึ่งเราจะเห็น Nut ประเภทนี้ในกีต้าร์ราคาสูง แต่หลังๆมากีต้าร์ระดับกลางๆหลายรุ่นก็เริ่มใช้กระดูกกันบ้างแล้ว ข้อดีของ Nut แบบกระดูกคือมีความทนทานไม่สึกหรอง่าย เสียงที่ได้จะมีความกังวาน แหลมคม ชัดเจน แต่ก็มีข้อเสียที่เสียงจะคมไปจนบางคนรู้สึกกระด้าง อีกทั้งการที่ Nut แบบกระดูกค่อนข้างแข็ง ทำให้การตั้งทัชชิ่งด้วยตนเองเปนเรื่องยากต้องเอาไปให้ร้านที่ชำนาญการทำให้ซะมากกว่า แต่โดยรวมแล้วถือเป็นข้อดีมากกว่าข้อเสียเพราะจะได้ซาวด์แบบอะคูสติคชัดเจน
ไม้ (Wood)
ในกีต้าร์โปร่งหลายรุ่นมีการนำเอาไม้มาใช้เป็น Nut และ Saddle ส่วนมากไม้ที่นิยมก็ได้แก่ไม้โรสวู้และไม้อีโบนี่เพราะเป็นกลุ่มไม้ในตะกูลเนื้องแข็ง รองรับสายได้ดีและทนทาน ข้อดีของ Nut แบบไม้นั้นจะให้เสียงที่แตกต่างจากแบบกระดูกชัดเจน คือเสียงจะมีความทุ้มของเนื้อไม้อย่างโรสวู้ดและอีโบนี่แฝงอยู่ในตัว ทำให้กีต้าร์ที่ Nut เป็นไม้มักนิยมใช้ในดนตรีแจ๊ส แต่ก็มีข้อเสียเล็กน้อยเนื่องจากเป็นไม้ซึ่งมีการเปลี่ยนแปลงได้ง่าย ทำให้ต้องดูแลรักษากันอย่างดีนิดนึง
กระดูกสังเคราะห์ (Nubone)
เป็นวัสดุที่นำมาทำ Nut และ Saddle แล้วซาวด์มีความแตกต่างค่อนข้างมาก เนื่องจากขึ้นอยู่กับวัสดุสังเคราะห์ที่นำมาใช้ทำ โดยมากก็จะเป็นพมิคาร์ต้าหรือที่เราคุ้นเคยกับการเป็นวัสดุด้ามมีด รวมถึงเขี้ยวสัตว์ แต่ก็ต้องขึ้นอนู่กับคุณภาพวัสดุนั้นด้วย ทำให้ Nut ประเภทนี้จะเห็นได้ทั้งกีต้าร์รุ่นสูงๆหรือรุ่นต่ำๆบางรุ่นก็เป็น Nubone แต่ใช้พลาสติกแบบราคาถูกลงมา มีข้อดีคือให้โทนเสียงที่คล้ายคลึงกระดูก ซาวด์แหลมชัดและทนทาน ส่วนข้อเสียนั้นอาจต้องชำนาญการในการเลือกซักนิดเพราะช่วงราคาและคุณภาพค่อนข้างห่าง หากเป็นรุ่นต่ำๆแล้วเสียงจะแตกต่างจากกระดูกชัดเจน
เรซิน (Resin)
เป็นอีกประเภทที่มาแรงในขณะนี้ ซึ่งทุกคนน่าจะคุ้นเคยกับวัสดุเรซินอย่างดี เป็นสารสังเคราะห์ที่สามารถหล่อให้แข็งได้ มีข้อดีที่ความยืดหยุ่น ซาวด์จะออกมาย่านกลางๆ แต่ราคาถูกทำให้นิยมกันในช่วงหลัง อีกทั้งเรซินยังเป็นวัสดุที่มีความแข็งน้อยกว่า 3 ประเภทด้านบน ทำให้การปรับแต่งทัชชิ่งทำได้ง่าย เหมาะสำหรับมือใหม่ที่ชอบกีต้าร์ทัชชิ่งต่ำ แต่ก็มีข้อเสียเนื่องจากความทนทานจะน้อยกว่าแบบไม้และกระดูกอย่างเห็นได้ชัด และเสียงจะไม่แหลมคมเท่า
พลาสติก (Plastic)
เป็น Nut และ Saddle ที่คุ้นเคยกันในกีต้าร์ราคาถูก แต่ความเป็นจริงแล้วพลาสติกก็มีหลายเกรด ดังนั้นทำให้กีต้าร์รุ่นกลางๆบางรุ่นก็ใช้เช่นเดียวกัน ข้อดีอย่างแรกที่เห็นได้ชัดคือราคาย่อมเยา ปรับทัชชิ่งง่าย หาซื้อง่าย แต่มีข้อเสียที่เสียงจะทึบกว่าแบบอื่นๆ ความทนทานในการใช้งานก็ไม่เท่ากระดูกแน่นอน แม้ว่าจะเป็นพลาสติกรุ่นสูงๆก็จะไม่ได้เสียงที่คมเท่าแบบกระดูก ดังนั้น Nut แบบนี้จึงคล้ายเรซินที่เหมาะสำหรับมือใหม่ราคาเบาๆมากกว่า
และนี่คือ 5 ประเภท Nut และ Saddle ที่นิยมในกีต้าร์โปร่ง ซึ่งเพื่อนๆก็สามารศึกษาข้อมูลของแต่ละแบบก่อนเลือกซื้อกีต้าร์โปร่งตัวโปรดของคุณ แต่จริงๆแล้วบอกเลยว่ามีผลต่อเสียงไม่มากนัก เหมาะสำหรับคนที่เปลี่ยนอะไหล่กีต้าร์มากกว่า เพราะนอกจาก Nut และ Saddle แล้วส่วนอื่นๆของกีต้าร์ก็มีผลต่อเสียงเช่นกันเช่นไม้ที่ใช้ทำบอดี้หรือคอ หากเพื่อนๆคนไหนเลือกดีแล้วอยากได้กีต้าร์ซักตัวก็เชิญที่ร้าน Music Arms ได้เลย ทางเรายินดีให้บริการเสมอเพื่อที่เพื่อนๆจะกีต้าร์คุณภาพก่อนออกจากร้านไปครับผม