Monthly Archives: มกราคม 2019
Wirelss Guitar ความสบายที่ไม่ต้องง้อสายแจ็ค
ทีนี้มาถึงปัญหาที่หลายๆคนอยากรู้คือ เจ้า Wireless Guitar ใช้แล้วสัญญาณมันคงที่จริงเหรอ หรือเสียงจะดร็อปลงมั้ย อันนี้พูดกันตรงๆเลยว่า การนำสัญญาณผ่านอากาศยังไงก็ไม่มาเต็มเท่ากับการนำสัญญาณผ่านสายโดยตรงได้แน่นอน เรื่องเสียงดร็อปจึงยังเป็นปัญหาที่แก้ไม่หาย แต่ส่วนใหญ่แล้วนักดนตรีจะใช้วิธีเร่ง EQ หน้าตู้แอมป์แทน หรือบางคนอาจใช้วิธีปรับเอฟเฟคเพิ่มก็จะช่วยได้มาก ตรงนี้ต้องอาศัยความชำนาญซักระยะเวลาหนึ่งก่อนที่จะคุ้นเคยกับการปรับเสียงให้เข้ากับ Wireless Guitar
สำหรับคำถามที่ว่าสัญญาณคงที่มั้ย ตรงนี้นักดนตรีหลายคนยืนยันว่าเรื่องระยะนั้นแทบไม่เป็นปัญหาของเจ้า Wireless เท่าไหร่ สิ่งที่จะเป็นปัญหาคือสิ่งกีดขวางระหว่างตู้แอมป์กับกีต้าร์มากกว่า ซึ่งไม่น่าห่วงเท่าไหร่เพราะปกติเราก็ไม่มีอะไรมาบังตู้แอมป์กับตัวเราอยู่แล้ว ระยะใช้งานของ Wireless Guitar แต่ละยี่ห้อก็ไม่ต่ำกว่า 50 ฟุต ขึ้นเวทีคอนเสิร์ตเล็กๆหรือร้านอาหารได้สบาย เรียกว่าถ้าไม่ไกลเวอร์วังอลังการจนเกินไปรับรองว่าสัญญาณชัดเจน เล่นแล้วไม่มีเสียงหายแน่นอน ตรงนี้ไว้ใจได้
นอกจากความสะดวกสบายในเรื่องระยะทางแล้ว สิ่งที่หลายคนอาจจะยังไม่รู้คือเจ้า Wireless นั้นสามารถลดเสียงรบกวนต่างๆ เช่น เสียงจี่ ซึ่งเป็นอาการที่มักจะมากับสายแจ็ค หรือเสียงหอนได้มากพอสมควร เนื่องจากเราไม่ต้องเอากีต้าร์ไปใหล้หน้าตู้มาก และ Wireless นั้นจะมีการตัดสัญญาณที่ไม่พึงประสงค์ออกไป ทำให้ลดอาการเหล่านี้ได้มาก นอกจากนี้ยังปลอดภัยจากการโดนไฟดูดได้อีกด้วย ถ้ามีความจำเป็นที่จะต้องเล่นดนตรีใกล้ๆน้ำ เช่น วันสงกรานต์ ตัว Wireless ถือว่าปลอดภัยกว่ามาก
ข้อดี Wireless Guitar
- เล่นกีต้าร์ระยะไกลขึ้นได้ สะดวกสบาย
- ปลอดภัยจากกระแสไฟฟ้า
- ลดสัญญาณรบกวน
ข้อเสีย Wireless Guitar
- สัญญาณเสียงมีเอกาสมากที่จะมาไม่เต็ม
- ราคาค่อนข้างสูงกว่าสายแจ็คมาก
บทสรุปกับ Wireless Guitar
ต้องบอกว่าเป็นนวัตกรรมที่ทำมาตอบโจทย์มือกีต้าร์อย่างมากในเรื่องความสะดวกสบาย เพราะการใช้สายแจ็คยังมีข้อจำกัดในเรื่องพื้นที่ หรืออุบัติเหตุต่างๆ ซึ่งตัว Wireless จะช่วยลดสิ่งเหล่านี้ไปได้มาก อาจจะมีข้อเสียบ้างตรงเรื่องสัญญาณตามที่บอก แต่ถ้าปรับหหน้าตู้หรือเอฟเฟคเป็นแล้ว ข้อเสียตรงนี้จะหายไปอย่างสิ้นเชิง เรียกว่ายังไงก็มีข้อดีมากกว่าเห็นๆ ถ้าใครที่ชอบความเป็นอิสระบนเวทีคอนเสิร์ตก็น่ามีติดตัวไว้ไม่น้อย เพื่อนๆสามารถหาซื้อ Wireless Guitar ได้ที่ร้าน Musicarms ของเราทุกสาขาได้เลย เอาไปลองใช้ลองปรับกัน แล้วจะรู้เลยว่ามันช่วยได้มากจริงๆ
สายกีต้าร์โปร่ง Ernie Ball 2004 Earthwood
สายเบส Fender 7250-5M
Fender Premium Platinum Guitar Cable 20 ฟุต
Gibson ASGG-600 Woven Strap With Red USA Logo สายสะพาย
ขายเพียง  540฿ จาก  600฿Mooer micro preamp 002 British Gold
DiMarzio DP227 LiquiFire Neck Humbucker Pickup
DiMarzio DP384 Electric Guitar Pickup
DiMarzio DP217 HS-4 Electric Guitar Pickup
มารู้จัก Acus One แอมป์โปร่งแบรนด์จากอิตาลี
นี่คือแอมป์โปร่งแบรนด์ดีจากอิตาลีที่ Music Arms ขอแนะนำ ใครที่อ่านบทความนี้แล้วยังไม่แน่ใจเรื่องเสียง ขอให้มาลองฟังที่ร้าน Music Arms ได้เลย รับประกันว่าเสียงดีสมราคาจริงๆ ใครที่ต้องการใช้งานแบบไหนสามารถเลือกได้ตามความชอบและความถนัด เช่นหากชอบพกพาไปนอกสถานที่บ่อยๆก็น่าเล่นรุ่น One For Street แอม์ซีรี่ย์นี้ทำมาตอบโจทย์นักดนตรีอย่างแท้จริงไม่ว่าจะเรื่องเสียงที่ใช้ลำโพง Tweeter เพิ่มความคมชัดหรือการดีไซด์ ใครสนใจก็สามารถติดต่อเข้ามาที่ Music Arms ได้เลย เชื่อเลยว่าถ้าได้มาฟังเสียงนุ่มๆของ Acus แล้วเพื่อนๆจะหลงรักแอมป์รุ่นนี้มากกว่าเดิม
5 ความแตกต่างของ Gibson Les paul VS. Gibson SG
คอกีต้าร์
แม้ว่าช่วงหลังทาง Gibson จะใช้นวัตกรรมใหม่ปรับคอกีต้าร์ให้บางลง แต่คอกีต้าร์ของสองรุ่นนี้ยังมีความแตกต่างกันพอสมควร เพราะทาง SG นั้นถูกออกแบบมาให้เล่นแนวดนตรีร็อค คอกีต้าร์จึงมีความบางมากกว่าในหลายๆรุ่น เช่น Gibson SG Standard 2018 ปรับคอเป็น SLimTaper บางเล่นได้ง่าย ส่วนทาง Les Paul นั้นในหลายๆรุ่นยังใช้โมเดลการผลิตแบบย้อนยุค ทำให้คอกีต้าร์ยังคงเป็นทรง Rounded หรือทรงกลมแบบยุคเก่า คอแบบนี้จะค่อนข้างอวบหนา เหมาะกับการเล่นเพลงบลูส์ ที่ต้องใช้การดันสายอยู่ตลอด ตรงนี้ต้องขึ้นอยู่กับความถนัดของผู้เล่นว่าจะชอบแบบไหน
ราคา
เป็นที่รู้กันดีกว่าทรง Les paul นั้นเป็นหนึ่งในทรงรุ่นคลาสสิคของทาง Gibson ดังนั้นจึงมีกีต้าร์ Les Paul หลายปีที่เข้าขั้นเกรด “นักสะสม” รุ่นเก่าๆ Les paul Gold Top ปี 1959 เคยถูกประมาณราคาไว้สูงถึง 1 ล้านบาท ในขณะที่ SG นั้นยังไม่มีรุ่นที่นักสะสมคัดเกรดกันเท่าไหร่นัก ทำให้ราคาตอนที่ออกวางจำหน่ายนั้นทรง Les paul จะค่อนข้างแรงกว่ามากพอสมควร แม้ว่าช่วงหลังทาง Gibson จะผลิตทรง Les Paul mี่มีราคาย่อมเยาออกมาแต่ก็ถือว่าสูงกว่าทรง SG อยู่นิดๆ ยิ่งถ้าเป็นรุ่นสูงๆของ Les Paul นี่ไม่ต้องพูดถึงกันเลยเพราะวัสดุที่ใช้นั้นแตกต่างกันพอสมควร ทำให้การเป็นเจ้าของกีต้าร์ Les paul ต้องใช้ทุนสูงกันซักนิด
แนวเพลงที่นำเอาไปใช้เล่น
แม้ว่ากีต้าร์ไฟฟ้าของทาง Gibson จะผลิตออกมาให้เล่นได้ทุกแนว แต่น้อยครั้งที่เราจะเห็นคนเอาทรง SG ไปเล่นแนวแจ๊สหรือบลูส์ ผิดกับทรง Les paul ที่เรามักจะคุ้นตากว่าพอสมควร สาเหตุแรกคือเรื่องเสียงของปิ๊กอัพที่มีความแตกต่างชัดเจน ทำให้ทรง SG ไปเล่นนวอื่นที่ไม่ใช่ร็อคแล้วซาวด์จะแปลกๆไป ส่วนอีกประการหนึ่งคือรูปทรงที่ดูขัดหูขัดตากับการนำไปเล่นแนวดนตรีนั้นๆ และด้วยความที่ทาง Gibson เน้นกลุ่มเป้าหมายของ Les Paul เป็นวงกว้างกว่า ทำให้แม้ว่ากีต้าร์จะมีน้ำหนักที่มากกว่าแต่หลายคนก็ยังนำไปใช้เล่นแนวดนตรีที่หลากหลายกว่านั่นเอง
และนี่คือความแตกต่างชองสองทรงสุดฮิตจากทาง Gibson จะเห็นได้ว่าทรง Les Paul นั้นมีความหลากหลายมากกว่าพอสมควร แต่ด้วยราคาที่สูงกว่า และถ้าใครที่เน้นแนวดนตรีร็อคอาจใช้แค่ทรง SG ก็เพียงพอ นอกจากนี้แล้วยังต้องดูความชอบแต่ละคนอีกด้วย เพราะหากได้จับกีต้าร์ที่ตนเองชื่นชอบแล้ว ความหยากเล่นมันก็จะตามมาจนทำให้เล่นได้อย่างชำนาญมากขึ้น รักทรงไหน ก็เลือกทรงที่ชอบ แล้วความสุขในการเล่นจะตามมาเอง