LINE


10 ศิลปินเดี่ยวเพลงร็อคชื่อดังของไทย

ไปซื้อ 10 ศิลปินเดี่ยวเพลงร็อคชื่อดังของไทยที่สาขา

จิระศักดิ์ ปานพุ่ม

มือกีต้าร์ระดับเทพที่เป็นน้องชายของ เล็ก มือกลองวงทีโบน โดยแมว จิระศักดิ์นั้นเริ่มเส้นทางดนตรีมาจากการทำงานเบื้องหลัง เช่นการเป็นโค-โปรดิวเซอร์ให้กับศิลปินดังๆเช่น อัลบั้ม 0.55 ลืมตามาอ่ำของอ่ำ อัมรินทร์ และ อัลบั้มสุริยคราสของวงไมโคร รวมไปถึงการอัดเสียงกีต้าร์ให้กับ อ้อม สุนิสา จนได้รับโอกาสให้ออกเทปชุดแรกในชื่อ Catarock กับค่ายเทโร เร็คคอร์ดเมื่อปี 1997 มีเพลงดังอย่าง อย่าทำอย่างนั้น ก่อนที่จะย้ายมาอยู่ค่ายอัพจีซึ่งเป็นค่ายเปิดใหม่ในเครือแกรมมี่โดยแมวเป็นศิลปินเบอร์แรกของค่ายนี้อีกด้วย จึงทำอัลบั้มที่ 2 Get Up Higher ในปี 1999 ซึ่งชุดนี้ถือว่าประสบความสำเร็จอย่างมากมีเพลงฮิตอย่าง เลิกรา และ ปางตาย ส่งผลให้คนทั่วประเทศรู้จักกับศิลปินร็อครายนี้เป็นอย่างดี หลังจากนั้นก็ได้ย้ายไปเป็นผู้บริหารค่าย Mad Catz และทำอัลบั้มกับค่ายนี้อีก 5 ชุด ในแนวดนตรีที่หนักขึ้นเรื่อยๆ ปัจจุบันก็ยังมีอัลบั้มกับค่ายสหภาพดนตรีในแนวร็อคซึ่งนอกจากร็อคแล้ว แมว จิระศักดิ์ก็ยังชื่นชอบดนตรีแจ๊สอีกเช่นกัน ถือว่าเป็นศิลปินคุณภาพระดับแนวหน้าคนหนึ่งของเมืองไทย

ธนพล อินทฤทธิ์

นักดนตรีจากจังหวัดกาฬสินธุ์ ที่เข้าสู่วงการเพลงโดยเริ่มจากการเป็นฝ่ายศิลป์ให้กับบริษัทอาร์เอส เป็นผู้ออกแบบปกอัลบั้มชุดที่ 6 ให้กับฟรุตตี้ ซึ่งนอกจากงานศิลปแล้วเจ้าตัวยังมีความสามารถในการแต่งพลงโดยเพลงแรกที่แต่งให้กับทางอาร์เอสอย่างเก็บตะวัน กลายเป็นเพลงระดับตำนานให้กับอิทธิ พลางกูรทันที เสือ ธนพลจึงได้รับโอกาสทางดนตรีมากขึ้นกับการมาอยู่เบื้องหลังทั้งเป็นโปรดิวเซอร์และนักปั้นมือทอง เป็นผู้ดึงตังวงไฮร็อคมาอยู่กับทางอาร์เอส จนมาถึงปี 1994 ก้ได้มีอัลบั้มชุดแรกเป็นของตนเองในชื่อชุด ทีของเสือ เพลงในอัลบั้มแทบทุกเพลงกลายเป็นเพลงดังแทบทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น รักคงยังไม่พอ, กระดาษห่อไฟ, ชีวิตหนี้, เรือลำหนึ่ง, 18 ฝน เป็นต้น ปี 1998 ก็ได้ย้ายมาทำงานกับทางแกรมมี่กับอัลบั้มชุดที่ 2 ชื่อ ใจดีสู้เสือนับเป็นการสูญเสียบุลคลากรคนสำคัญของ อาร์.เอส. ครั้งหนึ่งทีเดียว โดยเสือธนพลออกอัลบั้มมาทั้งหมด 6 ชุด ในแต่ละเพลงนั้นจะมีภาษาและเนื้อหาเป็นเอกลักษณ์ของตน ซึ่งส่วนใหญ่เสือจะเป็นผู้แต่งเอง สะท้อนถึงปัญหาการใช้ชีวิตในสังคม และมุมมองการใช้ชีวิต แต่ถ้าพูดถึงเสือ ธนพลแล้ว จะไม่มีใครนึกถึงเพลงเพื่อชีวิต แต่กลับยกให้เขาเป็นหนึ่งในตำนานร็อคของบ้านเรา

พิสุทธิ์ ทรัพย์วิจิตร

เจี๊ยบ พิสุทธิ์ ทรัพย์วิจิตร เริ่มเส้นทางดนตรีด้วยการเป็นลูกศิษย์ของ จิรพรรณ อังศวานนท์ แห่งวงบัตเตอร์ฟลาย จากนั้นจึงได้ตั้งวงดนตรีร่วมกับเพื่อน ๆ ขึ้นมา ใช้ชื่อว่า Jonathan Hemps เล่นดนตรีตามสถานบันเทิงต่างๆเพราะเจ้าตัวชื่นชอบวงควีนและแบล็คซับบาธ จนได้โอกาสทำเพลงกับค่ายอาร์เอส มีอัลบั้มชุดแรกในปี 1990 ชื่อชุดเพลงพิสุทธิ์ ถือว่าประสบความสำเร็จในระดับหนึ่ง มีเพลงฮิตอย่าง รักไปช้ำไป จนมาทำอัลบั้มที่ 2 ชื่อชุดอาบลมห่มฟ้าในอีก 2 ปีต่อมา ซึ่งชุดนี้ประสบความสำเร็จอย่างมากกับเพลง แจ๋วจริง, ไม่ต่างกัน อีกทั้งยังได้ร้องเพลงประกอบละครเรื่อง อรุณสวัสดิ์ ทางช่อง 7 ทำให้คนทั่วประเทศรู้จักกับศิลปินร็อครายนี้ จากนั้นได้ไปจับคู่กับ เป้ ไฮร็อค ทำอัลบั้มร็อคอำพันโดยเป็นการนำเพลงเก่ามาเรียบเรียงใหม่กับแนวดนตรีร็อคซึ่งประสบความสำเร็จอย่างมาก ในช่วงนั้นขาร็อคจะร้องเพลงของเจี๊ยบ พิสุทธิ์กันได้แทบทั้งนั้น หลังจากทำเพลงกับเป้ 2 อัลบั้มก้ได้กลับมาออกเดี่ยวอีก 2 ชุด ก่อนจะผันตัวไปทำงานโปรดิวเซอร์เบื้องหลัง

นครินทร์ กิ่งศักดิ์

ศิลปินร็อคชื่อดังรายนี้เคยออกเทปคู่กับปอนด์ ธนา ลวสุต เพื่อนในจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยจนโด่งดังไปทั่วบ้านทั่วเมืองมาแล้ว ก่อนที่จะแยกย้ายกันไปและในช่วงดนตรีอัลเทอร์เนทีฟกำลังรุ่งเรืองก้ได้กลับมาทำอัลบั้ม ไข้ป้าง กับค่ายโซนี่ มิวสิค เมื่อปี 1994 เปิดตัวด้วยเพลง สบายดี ในแนวดนตรีร็อคที่พลิกโฉมจากสมัยเป็นวงไฮดร้าอย่างสิ้นเชิง อัลบั้มนี้ได้รับการตอบรับที่ดีเกินคาดนอกจากเพลงสบายดีแล้วก็ยังมีเพลง คำตอบ และ เอื้อมไม่ถึง ที่ฮอตติดหูคนฟัง จึงได้ทำอัลบั้มชุดที่ 2 ฉลองครบรอบ 30 ปี ในปี 1997 มีเพลงดังอย่าง คนฉลาด และ หัวล้านใจน้อย”และต่อด้วยอัลบั้มที่ 3 ขายหน้า ในปี 1999 ก็มีเพลงฮิต ผู้ชายร้องไห้ อีกเช่นกัน ก่อนจะเข้ามาร่วมงานกับแกรมมี่ออกผลงานมาอีก 4 อัลบั้ม ช่วงที่ย้ายมาอยู่แกรมมี่ช่วงแรกยังคงแนวดนตรีเดิมๆที่หนักแน่นอย่างเพลง แมน แต่งานช่วงหลังของ ป้าง นครินทร์ เริ่มเปลี่ยนเป็นแนวดนตรีที่ฟังสบายซึ่งก็ยังโดนใจผู้ฟังกับเพลง ภูมิแพ้กรุงเทพ และ คนมีเสน่ห์ แม้ว่าซิงเกิ้ลจะแนวเบาลงแต่หากใครได้ไปดูคอนเสิร์ตป้างแล้วต้องบอกว่าจัดเต็มเช่นเคย หลายคนจึงยกนิ้วให้กับศิลปินร็อคตัวจริงรายนี้

อิทธิ พลางกูร

อิทธิ พลางกูร หรือชื่อจริงว่า เอกชัยวัฒน์ พลางกูร เป็นน้องชายของนักดนตรีที่มีชื่อเสียงคือ อุกฤษฏ์ พลางกูร สมาชิกของบัตเตอร์ฟลาย ฉายแววนักดนตรีมาตั้งแต่ยังเด็ก จนเข้าสู่วงการด้วยการเป็นสมาชิกวง เดอะ เบลส์ โดยในวงก็มีสมาชิกชื่อดังอย่าง สุรสีห์ อิทธิกุล ในตำแหน่งมือเบส และไพบูลย์เกียรติ เขียวแก้ว(ปั่น) เป็นนักร้องนำ เล่นตามไนท์คลับและโรงแรมต่างๆ หลังจากยุบวง เดอะ เบลส์ ที่มีอายุถึง 8 ปี อิทธิก็ได้ไปทำงานเบื้อหลังเป็นซาวด์เอ็นจิเนียร์และโปรดิวเซอร์ให้กับศิลปินหลายรายอยู่พักใหญ่ๆ จนได้รับการชักชวนจาก สุรชัย เชษฐ์โชติศักดิ์ เจ้าของบริษัทอาร์เอส ให้ออกอัลบั้มชุดแรกในปี 1988 ชื่อชุด ให้มันแล้วไป เพียงแค่อัลบั้มแรกก็ประสบความสำเร็จสุดขีดสามารถทำยอดขายได้เกิน 7 แสนตลับ มีเพลงฮิตอย่าง ให้มันแล้วไป และ เก็บตะวัน ยุครุ่งเรืองของอิทธิเรียกได้ว่าออกอัลบั้มแทบทุกปี เพราะอัลบั้มที่ 2 ชุดไปต่อไป จนถึงอัลบั้มที่ 5 อิทธิ 5 กำลัง D ออกในปี 1989-1995 หรือ 4 อัลบั้มใน 6 ปีเท่านั้น แต่ก็ส่งเพลงดังเข้าสู่วงการมากมายไม่ว่าจะเป็นเพลง เราสามคน หรือเพลง ทรมาน จนกระทั่งปี 2002 ก็มีข่าวร้ายเมื่ออิทธิประกาศว่าเป็นมะเร็งขั้นรุนแรง เจ้าตัวจึงได้ทำอัลบั้มสุดท้ายชุด เวลาที่เหลืออยู่ ก่อนจะเสียชีวิตในวันที่ 9 พฤศจิกายน 2004 เป็นอีกหนึ่งตำนานศิลปินร็อคเมืองไทย

พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง

เจ้าของเพลงตำนานผับเมืองไทยอย่าง ใจนักเลง เริ่มเข้าสู่วงการด้วยการสมัครเข้าแข่งขันในรายการเกมโชว์ที่โด่งดังในยุคนั้น คือ มาตามนัด และ พลิกล็อก และเป็นที่เข้าตาทีมงานบริษัทเจเอสแอล เมื่อทางบริษัทกำลังจะเปิดตัวละครเรื่องใหม่ที่ต้องการนักแสดงที่มีร่างกายกำยำ แข็งแรง พงษ์พัฒน์จึงถูกเรียกให้เข้ามาทดสอบการแสดง จนได้แสดงละครครั้งแรกคือเรื่อง เมฆินทร์พิฆาต ในปี 1985 หลังจากสร้างชื่อเสียงจากการเป็นนักแสดง ทางค่ายคีตาก้ได้ชักชวนให้มาทำเพลง เพียงแค่อัลบั้มแรกชื่อชุด พงษ์พัฒน์ ในปี 1988 ก็เข้าไปอยู่ในใจชาวร็อคทันที มีเพลงดังคือ ตัวสำรอง และทำอัลบั้มที่ 2 พงษ์พัฒน์ ภาค 2 ในปีต่อมาก็มีเพลง ฟั่นเฟือน ที่โด่งดังไปทั่วประเทศอีกเช่นเคย ซาวด์ดนตรีแบบร็อคแท้ๆผสานกับเสียงร้องเหน่อนิดๆที่เข้าอารมณ์เจาะตลาดอย่างรวดเร็ว ทำให้คนทั้งประเทศรับรู้ว่าศิลปินรายนี้มีดีนอกเหนือจากการแสดง พงษ์พัฒน์ทำอัลบั้มกับค่ายคีตาทั้งหมด 7 อัลบั้ม โดยเพลงดังของเขาอย่าง ใจนักเลง อยู่ในชุดที่ 5 ชื่อชุด ร้อคนี่หว่า ถือเป็นศิลปินร็อคแห่งยุคคนหนึ่งมีคอนเสิร์ตหลายครั้ง ปัจจุบันหันหลังให้กับวงการเพลงและการแสดงไปเป็นผู้กำกับภาพยนต์และละคร

อัญชลี จงคดีกิจ

ร็อคเกอร์สาวรุ่นใหญ่รายนี้เริ่มเล่นดนตรีตามรอยครอบครัว โดยหัดเล่นกีต้าร์และได้เข้าร่วมวง The Waves ของพี่ชายซึ่งเล่นตามโรงแรมในตำแหน่งมือเบส ก่อนจะขยับมาเล่นกีต้าร์และร้องนำ หลังจากวง The Waves ยุบวงเธอก็ได้ไปเป็นนักร้องนำให้กับวง The Everests ก่อนที่จะเดินทางไปศึกษาต่อที่อเมริกา หลังจากสำเร็จการศึกษาก็ได้มาร่วมวงบาราคูดัสในตำแหน่งนักร้องนำ ช่วงนั้นก็มีงานแสดงและถ่ายแบบอีกด้วย หลังจากแสดงหนังเรื่องถามหาความรักในปี 1984 ก็ได้รับการทาบทามให้ทำเพลง อัลบั้มแรกในชีวิตของ ปุ๊ อัญชลี ชุด หนึ่งเดียวคนนี้ จึงออกมาในปี 1985 สร้างปรากฏการณ์อัญชลีฟีเวอร์ไปทั่วประเทศกับบทเพลง หนึ่งเดียวคนนี้ จนต้องสร้างหนังเรื่อง ด้วยรักคือรัก ที่ใช้เพลงในอัลบั้มนี้เป็นหลัก ได้ เบิร์ด ธงไชย แม็คอินไตย์ ซึ่งตอนนั้นเบิร์ดยังไม่ได้ออกผลงานชุดแรกมาประกบการแสดง กลายเป็นคู่ขวัญทางจอเงินระดับคลาสสิกอีกคู่หนึ่งของวงการหนังไทย หลังจากออกอัลบั้มที่ 3 ชุดเขย่าโลก ในปี 1987 ปุ๊ อัญชลี ว่างเว้นผลงานเพลงไปนานก่อนจะมีชุด Crossroads กับสังกัด Oh My God ในปี 1997 ก็มีเพลงฮิต Crossroads, มีเธอ และ ด้วยความคิดถึง มาให้แฟนๆอีกเช่นเคย ก่อนจะย้ายไปทำอัลบั้มที่ 5 กับค่าย Loveis ในปี 2005 ชื่อชุด 50 แม้ว่าผลงานเพลงช่วงหลังจะเป็นแนวป็อปฟังสบาย แต่ถ้าใครทันฟังเพลงช่วงแรกของพี่ปุ๊ ต้องยอมรับและยกให้เธอคือร็อคเกอร์หญิงเบอร์ต้นๆของเมืองไทย

บิลลี่ โอแกน

หนุ่มลูกครึ่งฟิลิปปินส์ที่มีชื่อจริงว่า บิณฑ์ลี่ฎ์ มิตตกริน โอแกน เข้าสู่วงการบันเทิงโดยเริ่มต้นจากการเป็นนายแบบถ่ายโฆษณา และได้เล่นภาพยนตร์ไทยหลายเรื่อง จนได้ร่วมงานกับทางแกรมมี่ซึ่งช่วงแรกนั้นบิลลี่นั้นรับงานพิธีกรก่อนจะมีอัลบั้มแรกชุด บิลลี่ บิลลี่ ในปี 1987 เป็นเพลงป็อปซึ่งกระแสตอบรับดีพอประมาณเท่านั้นเนื่องจากคนคุ้นหน้าในภาพยนตร์ จนมาอัลบั้มที่ 2 ชุด บิลลี่เข้ม ปี 1989 ก็เปลี่ยนแนวดนตรีมาเป็นร็อคเต็มตัวทำให้อัลบั้มนี้เป็นอัลบั้มที่ประสบความสำเร็จที่สุด มีเพลงฮิตมากมายเช่น เอาอะไรมาแลกก็ไม่ยอม, ฟ้าคงสะใจ, ฝังลงในพื้นดิน เมื่อเริ่มจับตลาดได้แล้วทางแกรมมี่จึงให้บิลลี่ออกเพลงร็อคมาอีก 2 อัลบั้มใชื่อชุด บิลลี่เข้มตลอด และ บิลลี่ทรงเครื่อง หลังจากหมดสัญญากับทางแกรมมี่ก็ได้ย้ายไปค่ายคีตาและเริ่มทำเพลงแนวอื่นมาบ้าง แต่คนรุ่นเก่าจะจดจำภาพของบิลลี่ โอแกนกับเพลงร็อคมันส์ๆ อีกทั้งยังเป็นศิลปินรุ่นบุกเบิกของไทยที่ทำเพลงแนวอินดี้ เช่นเพลง เจ้าชายกบ ที่ใช้การท่องกลอนมาผสมกับดนตรีร็อค โดยบิลลี่ออกผลงานมาทั้งหมด 10 ชุด ก่อนะหันไปทำธุรกิจส่วนตัว

อ่ำ อัมรินทร์

หนุ่มกรุงเทพที่รักในเสียงดนตรีตั้งแต่สมัยยังเรียน โดยหลังจากดร็อปเรียนที่มหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต อ่ำก็ได้ทำเพลงกับเพื่อนๆส่งเดโมไปตามค่ายเพลงต่างๆแต่โดนปฏิเสธ จนมาเทสหน้ากล้องผ่านกับค่ายแกรมมี่และได้เริ่มงานพิธีกรและดีเจ หลังจากเป็นพิธีกรให้กับแกรมมี่ก้ได้มีอัลบั้มแรกของตัวเองในปี 1994 ชื่อชุด 0.55 ลืมตามาอ่ำ ตามเวลาเกิด แต่เนื่องจากตอนนั้นเป็นเพลงป็อปทำให้ไม่ได้รับการตอบรับเท่าที่ควร จนมาถึงช่วงอัลเทอร์เนทีฟเฟื่องฟู อ่ำ อัมรินทร์ก็พลิกลุคจากศิลปินป็อปหน้าตาดีเป็นแนวร็อคในชุดที่ 2 AMARIN ปี 1996 แค่เพลงแรก รักเธอ(คนเดียว) ก้ได้รับกระแสนิยมที่ดี ต่อด้วยเพลง ดม ติดหูคนฟังอย่างรวดเร็ว ทำให้งานเพลงชุดต่อๆมาของอ่ำจะเป็นแนวดนตรีร็อคทั้งหมด ในช่วงนั้นอ่ำ อัมรินทร์ถือเป็นศิลปินที่ทำยอดขายให้กับทางแกรมมี่ได้ดีมาก อัลบั้มชุดที่ 3-6 ในปี 1998-2001 นั้นเรียกว่าออกมาปีละชุดเลยทีเดียว เป็นเรื่องยากที่จะมีศิลปินที่ทำแบบนี้กับค่ายเพลงยักษ์ใหญ่ย่านอโศกได้ ซึ่งช่วงนั้นอ่ำก็มีเพลงดังมากมาย เช่น รักเมืองไทยไม่ตายหรอกครับ, ลอยกระทงวันสงกรานต์ หรือ หิริโอตัปปะ หลังจากอัลบั้มที่ 9 อ่ำก็ได้พักงานดนตรีไปเล่นกอล์ฟและแข่งรถ

รังสรรค์ ปัญญาเรือน

เป็นที่รู้จักกันดีในนาม สงกรานต์ เดอะ วอยซ์ เนื่องจากเจ้าตัวคว้ารางวัลชนะเลิศการประกวดร้องเพลงรายการเดอะ อวยซ์ซีซั่นที่ 2 โดยแต่เดิมสงกรานต์เป็นชาวลำปาง ก่อนจะย้ายมาอาศัยอยู่ที่จังหวัดนครราชสีมา ประกอบอาชีพเป็นพ่อค้าขายลูกชิ้นอยู่หน้าร้านเกมส์ในชุมชนหนองไผ่ล้อม เจ้าตัวรักในเสียงดนตรีร็อคตั้งแต่ยังเด็กๆและเคยตั้งวงกับเพื่อนสมัยเรียนชื่อวง “The Bantam” แต่พอเรียนจบ เพื่อนๆก็แยกย้ายกันไปเรียนมหาวิทยาลัย ในช่วงที่ขายลูกชิ้นสงกรานต์ก็เล่นดนตรีกลางคืนตามผับไปด้วย คืนหนึ่งนักร้องประจำมาสาย สงกรานต์เลยต้องขึ้นร้องแทน และหลังจากนั้นก็มีงานร้องเพลงเข้ามาเรื่อยๆ จนถึงจุดเปลี่ยนสำคัญของชีวิตเมื่อเจ้าตัวตัดสินใจเดินทางเข้ามากรุงเทพเพื่อประกวดรายการเดอะ วอยซ์ เปิดตัวด้วยเพลงเจ้าตากผ่านเข้ารอบและไปถึงตำแหน่งแชมป์ จนมีผลงานเพลงแรกกับค่ายไอแอม คือเพลง คงไม่ทัน เป็นหนึ่งในเพลงยอดวิวสูงของยูทูปเกิน 200 ล้านวิว จากนั้นร้องเพลงประกอบภาพยนตร์ที่ตนได้ร่วมแสดงด้วยคือเรื่อง รักหมดแก้ว…Love On The Rocks เพลง “ใจนักเลง” ซึ่งเป็นเพลงเก่าของพงษ์พัฒน์ วชิระบรรจง และยังคงโลดแล่นในวงการดนตรีซึ่งถือว่าเป็นศิลปินร็อคยุคใหม่ที่น่าจับตามองที่สุด

Music Arms