9 วงอัลเทอร์เนทีฟไทยสมัยยุครุ่งเรือง
เนื่องจากวันเสาร์ที่ 18 มีนาคมนี้จะมีคอนเสิร์ต Moderndog22 ที่ฉลองครบรอบ 22 ปีวงโมเดิร์นด็อก ตำนานวงร็อคยุคอัลเทอร์เนทีฟของไทยเมื่อช่วงปี 90′ ซึ่งขณะนั้นถือเป็นยุคทองของวงร็อคหน้าใหม่ในบ้านเราอย่างแท้จริงที่ออกเพลงมาแบบไม่ง้อค่ายยักษ์ใหญ่และแจ้งเกิดกันได้หลายวง เชื่อว่าคนยุค 90′ หลายคนคงไม่พลาดที่จะไปร่วมคอนเสิร์ตนี้อย่างแน่นอน แต่วันนี้ทาง Musicarms จะขอมาเรียกน้ำย่อยก่อนด้วยการพาไปรำลึกความหลังกับ 9 วงอัลเทอร์เนทีฟที่โด่งดังในขณะนั้น
Smile Buffalo
เจ้าของเพลงดังอย่าง”ดีเกินไป”ที่แจ้งเกิดอย่างเต็มตัวโด่งดังไปทั่วบ้านทั่วเมือง ปล่อยเพลงแรกมาก็ขึ้นอันดับ 1 ชาร์ตเพลงตามคลื่นวิทยุอย่างรวดเร็วจนต้องไปแก้บนเล่นคอนเสิร์ตกลางสี่แยกราชประสงค์เพราะบนกับพระพรหมเอราวัณไว้ว่าถ้าขายได้เกินแสนตลับจะมาเล่นคอนเสิร์ตให้ท่านฟัง วงนี้ประกอบด้วยสมาชิก 4 คน คือ เต็น (กีต้าร์), ดิษ (เบส,ร้องนำ), หนึ่ง (คีย์บอร์ด) และเชษฐ์ (กลอง) หลังจากซิงเกิ้ลแรกดังเปรี้ยงแล้วก็สามารถสานความต่อเนื่องจนค่ายยักษ์อย่างแกรมมี่ต้องดึงตัวไปเข้าสังกัดและได้รางวัลสีสันอวอร์ดในฐานะศิลปินกลุ่มยอดเยี่ยมเมื่อปี 2542 ปัจจุบันแยกย้ายกันไปตามเส้นทางส่วนตัวเช่น เชษฐ์ ที่ออกไปทำเกษตรส่วนตัว แต่บางคนอย่างดิษยังเห็นหน้าในวงการซึ่งล่าสุดก็ไปเป็นแบ็คอัพให้กับ เสก โลโซ
Paradox
คุ้นหน้าคุ้นตากันอย่างดีกับวงร็อคเอนเตอร์เทนวงนี้เพราะยังมีผลงานมาจนถึงปัจจุบัน Paradox ประกอบด้วยสมาชิก 4 คนคือ ต้าร์ (ร้องนำ,กีต้าร์), บิ๊ก (กีต้าร์), สอง (เบส) และ โจอี้ (กลอง) รวมตัวกันเนื่องจากเป็นเพื่อนสมัยเรียนที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยชื่อเดิมของวงคือ”หอยจ๊อ” ออกมาในยุคอัลเทอร์เนทีฟกับค่ายอีสเทิร์นสกาย เร็คคอร์ดโดยมีเพลงดังอย่าง”นักมายากล”ทำให้คนรู้จักด้วยแนวดนตรีที่เป็นเอกลักษณ์ จนค่ายยักษ์ใหญ่ย่านอโศกต้องดึงตัวเข้าสู่สังกัดจีนี่เร็คคอร์ดและได้ทำเพลงเพิ่มอีก 6 อัลบั้มมาจนถึงปัจจุบันและได้รับคำชมว่าเป็นวงดนตรีที่เล่นสดได้มันส์โดยมีตำแหน่งว้ากเกอร์และโจ๊กเกอร์อีกด้วย ผลงานเพลงตอนอยู่จีนี่ที่โด่งดังก็มี ฤดูร้อน หรือ น้องเปิ้ล ที่ยังคงกลิ่นอายเดิมๆเหมือนอัลบั้มแรก
Big Ass
วงร็อคแถวหน้าในปัจจุบันอบ่างบิ๊กแอสก็ใช้ช่วงเวลาเฟื่องฟูของยุคอัลเทอร์เนทีฟเป็นช่วงแจ้งเกิด โดยขณะนั้นนักร้องนำยังคงเป็น แด๊ก และสมาชิกที่เหลืออีก 4 คนคือ อ็อฟ (กีต้าร์), หมู (กีต้าร์), ต้น (เบส) และ กบ (กลอง) ภายใต้สังกัดมิวสิคบัคส์ซึ่งอัลบั้มแรกวางแผงปี 2540 หรือช่วงท้ายของยุคอัลเทอร์เนทีฟในชื่ออัลบั้ม Not Bad กับซิงเกิ้ลดังๆอย่าง”ทางผ่าน” ที่ยังคงดังมาถึงปัจจุบัน แม้ว่าล่าสุดจะยังคงมีผลงานออกมาอย่างต่อเนื่องแต่แฟนบิ๊กแอสรุ่นเก่าคงเสียดายไม่น้อยเมื่อ แด๊ก ต้องแยกทางกับวงไปออกกับวงร็อคไรเดอร์ และวงได้ เจ๋ง นักร้องนำคนใหม่มาแทน อีกคนที่ต้องออกจากวงไปคือต้นมือเบสที่ได้และได้โอ๊คมาแทน หลังจากยุคอัลเทอร์ฯแล้ววงบิ๊กแอสก็ได้มีอัลบั้มเพิ่มมาอีก 6 อัลบั้มภายใต้สังกัดจีนี่เร็คเคอร์ดในเครือแกรมมี่
ซีเปีย
วงนี้มีแต่เดิมสมาชิกเพียงแค่ 2 คนเท่านั้นคือ โอ๋ เจษฎา สุขทรามร และ ปาเดย์ ภานุ กันตะบุตร ซึ่งเป็นเพื่อนกันตั้งแต่สมัยเรียนคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง โดยปล่อยซิงเกิ้ลเพลงดังที่หลายคนต้องเคยได้ยินอย่าง”เกลียดตุ๊ด”มาในปี 2537 ซึ่งบทเพลงในอัลบั้มจะเป็นแนวเสียดสีสังคมทำให้ดูแปลกใหม่เข้าถึงกลุ่มวัยรุ่นได้ไว แต่เนื่องจากเป็นแนวเพลงเฉพาะกลุ่มเกินไปทำให้ยอดขายไม่ดีนัก แม้ว่าจะโดนค่ายเบเกอรี่ มิวสิคดึงตัวไปก็ไม่อาจแจ้งเกิดได้จนต้องแยกย้ายกันไปตามเส้นทาง ซึ่งโอ๋ได้ไปอยู่กับวงดูบาดูจนโด่งดังในนาม “โอ๋ดูบาดู” ส่วนปาเดย์ได้ไปเล่นเบสให้กับวงทีโบน ทำให้เส้นทางหลังจากช่วงอัลเทอร์เนทีฟนั้นคนฟังหลายคนรู้จักชื่อเสียงของทั้งสองคนมากกว่าสมัยอยู่วงซีเปียที่รู้จักแค่ชื่อเพลงเท่านั้น
อะลาดิน
วงร็อคอัลเทอร์เนทีฟที่ผสานแนวเพลงฮิพฮอพเข้ามาด้วย วงนี้ประกอบด้วยสมาชิก 5 คนคือ ยุฟ (ร้องนำ), เอ็ด (ร้องนำ), เอ็ม (กีต้าร์), มัด (เบส) ปล่อยเพลง”นางมารร้าย”มาในปี 2541 ด้วยท่อนแร๊พสุดเฟี้ยวฟ้าวเข้ากับดนตรีร็อคในสไตล์ตนเองจนดังเปรี้ยงภายในเวลาอันไม่นาน โดยเพลงอื่นๆในอัลบั้มอย่างศรีทนหรือ In Pub ต่างก็เป็นการผสานดนตรีสองแนวนี้ทั้งสิ้น จนได้รับรางวัลศิลปินหน้าใหม่ยอดเยี่ยมจากสีสันอวอร์ดในปี 2452 น่าเสียดายที่ค่ายทรีมิวสิคของพวกเขาในขณะนั้นเป็นค่ายเล็กและไม่ได้ดันต่อ ทำให้ชื่อของอะลาดินค่อยๆเงียบหายไป ที่พอเห็นหน้าค่าตากันบ้างก็สมาชิกอย่าง แสบ ไปร่วมวงแฮงค์แมนในฐานะมือกลองเท่านั้น
พราว
วงดนตรีจากเด็กหนุ่มคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ที่รวมตัวกัน 4 คน ประกอบด้วย เล็ก (ร้องนำ/กีต้าร์), เจ (กีต้าร์), แจ็ค(กีต้าร์) และ พิซซ่า (เบส) จับมือร่วมกัยภายใต้ชื่อ “วงครับ” ได้ลองทำซิงเกิ้ลขึ้นมา 6 เพลงและส่งให้กับ ยุทธนา บุญอ้อมซึ่งขณะนั้นเป็นดีเจที่คลื่นฮอตเวฟช่วยเปิดให้ โดยเพลงเหรียญสลึง และ Sleepless ได้รับความนิยมในกลุ่มแนวอินดี้พอสมควรจึงได้เซ็นสัญญากับค่ายอีสเทิร์นสกายซึ่งเป็นค่ายเพลงอัลเทอร์เนทีฟในขณะนั้นทำขึ้นมาอีก 4 เพลงให้ครบ 10 เพื่อที่จะวางขายอัลบั้มได้ โดยมีเพลงดังอย่าง “เธอคือความฝัน” ที่แต่งเพิ่มขึ้นมาและเป็นที่รู้จักในหมู่คนฟัง ปัจจุบันวงพราวต่างแยกย้ายไปทำงานส่วนตัวกันหมดเรียบร้อย
บาร์บี้ส์
เจ้าของเพลง”ตากลมๆ”ที่วัยรุ่นยุค 90 ต่างร้องกันได้ทั่วบ้านทั่วเมือง โดยวงนี้มีสมาชิก 5 คนคือ แพท (กีต้าร์),กบ (กีต้าร์),ซิก (เบส),ต้า (ร้องนำ)และซิ่ว (กลอง) ซึ่งแพทนั้นเริ่มจากเป็นเด็กฝึกงานที่ค่ายดนตรี Warner Music ก่อนที่ทางค่ายจะเห็นแววชวนทำเพลงจึงได้รวบรวมเพื่อนสนิทอีก 4 คนที่เหลือเริ่มทำวงบาร์บี้ส์ โดยคอนเซปต์ของวงคือแนวดนตรีแบบซาวด์สังเคราะห์ผสมร็อคซึ่งในขณะนั้นถือว่าเป็นของแปลกใหม่และด้วยชื่อของวงทำให้หลายครั้งขึ้นคอนเสิร์ตในชุดผู้หญิงจึงได้กระแสในหมู่วัยรุ่นค่อนข้างดี วงบาร์บี้ส์เคยถึงจุดสูงสุดด้วยการเล่นเป็นวงเปิดให้กับวง Greenday ตอนมาทัวร์คอนเสิร์ตที่เมืองไทยมาแล้ว ก่อนจะแยกย้ายกันไปตามกาลเวลาซึ่งเราอาจได้เห็นต้าร์ นักร้องนำแสดงหนังอยู่บ่อยครั้ง
Nursery Sound
วงดนตรีที่โดดเด่นในเรื่องของเสียงร้องอันเป็นเอกลักษณ์ของ บัติ สมบัติ พิทักษ์สินธุ์ นักร้องนำของวง จนท่อนฮุค “ตื่นตั้งแต่ 6 โมงเช้า รีบๆๆออกไปหา” ของเพลง “หวาน” ฮิตกันไปทั่วบ้านทั่วเมืองและสามารถขึ้นอันดับ 1 ของชาร์ตวิทยุได้ภายในเวลาอันรวดเร็ว น่าเสียดายที่ค่าย Lepso Revolution ที่พวกเขาในเวลานั้นเป็นแค่ค่ายเล็กๆและปิดตัวลงในเวลาต่อมา ทำให้บัติและเพื่อนร่วมวงอีก 4 คนคือ ศิลป์, วุธ, อาไก่ และสาร ต้องกระจัดกระจายกันไป โดยทิ้งเพลงอย่าง”หวาน”, “คนผ่านทาง” และ”อากาศดีๆ”ให้กับวงการดนตรีไทย ตัวบัติเองก็ได้มีโอกาสออกเทปกับค่ายแกรมมี่ในชื่อ “Cutton บัติ” แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จเหมือนตอนรวมวง
Modern Dog
เปิดตัวกับเพลงบุษบาได้อย่างสวยงามด้วยแนวดนตรีแปลกใหม่ในสมัยนั้น ทำให้สามหนุ่ม ป๊อด ธนชัย, เมธี และ ปวิณ โด่งดังเป็นพลุแตกในทันที โมเดิร์นด็อกเริ่มมาจาการประกวดดนตรีโค้กมิวสิคอวอร์ดและชนะวงสมายบัฟฟาโลได้อันดับ 1 มาครองจึงถูกค่ายเบเกอรี่มิวสิคค่ายเพลงน้องใหม่ในขณะนั้นจับเซ็นสัญญา ซึ่งแค่เพลงเปิดตัวก็ทำได้อย่างสวยงามต่อยอดด้วยเพลง”ก่อน” เพลงช้าที่มีเนื้อหากินใจ ทำให้วงโมเดิร์นด็อกกลายเป็นศิลปินซิกเนเจอร์ของยุคอัลเทอร์เนทีฟไปโดยปริยาย ซึ่งก็ได้ออกอัมบั้มทั้งหมด 5 ชุด ก่อนจะหายจากวงการไปถึง 5 ปีเพื่อสะสมประสบการณ์ด้วยการร่วมแจมกับศิลปินอื่นๆซึ่งเราจะได้เห็นพี่ป๊อดร้องแจมบ่อยครั้ง จนล่าสุดกลับมารวมวงกันอีกครั้งเพื่อมีคอนเสิร์ต Moderndog22 เพื่อฉลองครบรอบ 22 ปีของวง Moderndog