10 วง J-Rock ที่ต้องลองฟังซักครั้ง
ราคา : (กรุณาสอบถาม)
ลูกค้าองค์กร/ใบเสนอราคา
E-mail: musicarmsproject@gmail.com
วีดีโอ
X-Japan
วงร็อคญี่ปุ่นที่ประสบความสำเร็จสูงสุดของประเทศญี่ปุ่น ประกอบด้วยสมาชิกแรกเริ่ม 5 คนคือ โยชิกิ (กลอง,เปียโน), โทชิ (ร้องนำ), ฮิเดะ (กีต้าร์) พาตะ (กีต้าร์) และ ไทจิ (เบส) มาในแนวเพลงหนักแบบเมทัลและเพลงช้าแบบบัลลาด ก่อนจะเปลี่ยนมือเบสเป็น ฮีท ในอัลบั้มที่ 3, ชื่อเดิมของวงคือ X ความตั้งใจของโยชิกิคือจะสร้างวงร็อคซึ่งตีตลาดไปทั่วโลก แต่ขณะนั้นในอเมริกามีวงชื่อ X อยู่แล้วจึงใช้คำว่า Japan ต่อท้าย ออกผลงานเพลงมาตั้งแต่ปี 1988 มีเพลงโด่งดังหลายเพลงเช่น Endless Rain (เอนด์เลส เรน), Tears และ Say Anything วง X-Japan สร้างชื่อเสียงจนได้เล่นคอนเสิร์ตที่โตเกียวโดมถือว่ายิ่งใหญ่ที่สุดในประเทศขณะนั้น จนมาถึงจุดเปลี่ยนครั้งใหญ่เมื่อแฟนเพลงได้รับข่าวร้ายว่าฮิเดะมือกีต้าร์เสียชีวิต ทำให้วงนี้ต้องยุติบทบาททางดนตรีเหลือไว้เพียงแค่ตำนานเล่าขานมาจนถึงปัจจุบัน
Glay (เกลย์)
วงบัลลาดร็อคที่มือชื่อเสียงโด่งดังในประเทศค่อนข้างมาก ประกอบด้วยสมาชิก 4 คนคือ เทรุ (ร้องนำ), ทาคุโร่ (กีต้าร์, เปียโน), ฮิซาชิ (กีต้าร์) และ จิโร่ (เบส) รวมตัวกันเล่นตามผับและไลฟ์เฮ้าส์จนได้มีโอกาสทำเพลงกับค่าย Platinum Record (แพลตตินั่ม เร็คคอร์ด) โดยมีโยชิกิมือกลองวง X-Japan เป็นโปรดิวเซอร์ให้ มีอัลบั้มแรก Rain เมื่อปี 1994 มีผลงานมาแล้วทั้งหมด 39 ชุด มีเพลงฮิตมากมายเช่น I’m in love, Soul Love และ Winter Again อัลบั้มรวมเพลง Best of Glay ของพวกเขาทำยอดขายได้ถึง 4.8 ล้านแผ่น เป็นอันดับ 3 ของอัลบั้มของศิลปินที่มียอดขายสูงสุดตลอดกาลในญี่ปุ่น โด่งดังถึงขนาดเปิดคอนเสิร์ตกลางแจ้งชื่อว่า Glay Expo ที่เมืองมาฮาคุริ โดยครั้งนั้นมีผู้ชมมากเป็นประวัติการณ์ถึง 2 แสนคนและได้รับการบันทึกลงกินเนสบุ๊คว่าเป็นคอนเสิร์ตกลางแจ้งที่มีผู้ชมมากสุดในโลก
L’arc en Ciel (ลาร์ค ออง เซียล)
วงที่โด่งดังอย่างมากในเมืองไทยช่วงยุค 90′ ลุคของนักร้องนำอย่างไฮด์นั้นเท่บาดใจสาวๆอย่างแรง รวมไปถึงสไตล์การแต่งตัวคนอื่นๆทั้ง เท็ตสึ (เบส), เคน (กีต้าร์) และ ยูกิฮิโระ (กลอง) เป็นจุดกำเนิดแฟชั่น J-Rock ให้วัยรุ่นเมืองไทยแต่งตามกันพอสมควร วงนี้มีจุดเด่นเรื่องการเดินเบสและเนวเพลงซึ่งทันสมัย ทำให้วง L’arc en Ciel เข้าไปครองใจสาวกเมืองไทยได้อย่างรวดเร็ว ส่งเพลงดังมาตีตลาด J-Rock ชุดใหญ่ไม่ว่าจะเป็นเพลงเร็วอย่าง Stay Away หรือเพลงช้าอย่าง Pieces (พีซเซส) รวมถึงเพลงประกอบการ์ตูนชื่อดัง GTO คุณครูพันธุ์หายากอย่างเพลง Driver’s High (ไดร์เวอร์ส ไฮ)ทำยอดขายเกินหนึ่งล้านแผ่นในหลายๆชุด ขึ้นอันดับ 1 ในโอริกอนชาร์ตและรับรางวัลอีกมากมาย เมื่อปี 2006 จัดคอนเสิร์ตฉลองครบรอบ 15 ปีของวง จำหน่ายบัตร 1 แสนที่นั่งหมดภายใน 2 นาทีเป็นสถิติของวงร็อคญี่ปุ่นที่ยากจะหาใครทำลาย
Luna Sea (ลูนาซี่)
โด่งดังเป็นพลุแตกกับเพลง I for You เพลงประกอบซีรี่ย์เรื่อง อยู่เพื่อรัก ที่ได้พระเอกนางเอกแห่งยุคอย่าง ทาเคชิ คาเนชิโร่ และ เคียวโกะ ฟุคุดะ แสดงนำ ณ เวลานั้นวัยรุ่นไทยหาผลงานของวง Luna Sea มาฟังกันยกใหญ่ ซึ่งก็ไม่ผิดหวังเพราะฝีมือของ ริวอิจิ (ร้องนำ), สึกิโซะ (กีต้าร์, ไวโอลิน), อิโนะรัน (กีต้าร์), เจ (เบส) และชินยะ (กลอง) ต่างไม่ธรรมดากันเลย วงเริ่มจากการแสดงในไลฟ์เฮ้าส์รวมถึงเล่นสดตามถนนซึ่งมีคนดูแค่ 100 คน ยอดขายตอนทำเพลงกันเองแค่ 800 แผ่น แต่พวกเขาไม่เคยย่อท้อ จนได้เซ็นสัญญาทำเพลง ปัจจุบันมีผลงานมาแล้ว 7 ชุด ทำยอดขายแต่ละอัลบั้มได้มากกว่า 7 แสนแผ่น ขึ้นอันดับ 1 โอริกอนชาร์ตในหลายๆเพลง และได้ทำเพลงประกอบภาพยนตร์ดังๆเช่นเพลง Breathe (บรีท) จากเรื่องมู่หลาน และเพลง Gravity ที่ประกอบภาพยนตร์เรื่อง Another Heaven
Lucifer (ลูซิเฟอร์)
วงนี้เปิดตัวในไทยครั้งแรกก็ได้รับเสียงกรี๊ดจากแฟนคลับสาวๆอย่างล้นหลาม เพราะหน้าตาของนักร้องนำอย่าง มาโกโตะ นั้นเป็นที่ถูกอกถูกใจจนติดอันดับผู้ชายหน้าตาดีทุกโพลเมื่อช่วงยุค 90′ แต่วงนี้ไม่ได้มีจุดขายแค่หน้าตาอย่างเดียว เพราะฝีมือของ ยูกิ (กีต้าร์), อัตสึโระ (กีต้าร์), โทวะ (เบส) และ ซันตะ (กลอง) ต่างเป็นที่ยอมรับทั้งในญี่ปุ่นและเมืองไทย จุดกำเนิดของวงมาจากการ์ตูนเรื่อง จังหวะร็อค ดนตรีรัก (ทุกคนในวงใช้ชื่อตามการ์ตูนหมด ยกเว้นมาโกโตะ) เปิดตัวเมื่อปี 2002 ด้วยซิงเกิ้ล Datenshi Blue (ดาเทนชิ บลู)ใช้ประกอบอนิเมชั่นเรื่องนี้ มีกลิ่นอายของวิช่วลร็อคเต็มเปี่ยม ตามด้วยเพลง Plasmagic (พลาสเมจิค) ที่เล่นตามอนิเมชั่นในเรื่อง นอกจากนี้ยังมีเพลง Realize ที่ซาวด์ดนตรียังคงเปี่ยมความเป็น J-Rock ขนานแท้ แต่หลังจากอนิเมชั่นจบลงในปี 2003 Lucifer ก็ยุบวงไป ส่วนมาโกโตะไปเป็นศิลปินเดี่ยว
One Ok Rock (วัน โอเค ร็อค)
วงดนตรีมากความสามารถกับ 5 สมาชิกยุคแรกเริ่ม ทะกะ (ร้องนำ), โทรุ (กีต้าร์), อเล็กซ์ (กีต้าร์), เรียวตะ (เบส) และ ยู (กลอง) ชื่อวงนั้นแปลงมาจากคำว่า one o’clock หนึ่งนาฬิกา ซึ่งเป็นเวลาที่พวกเขาซ้อมดนตรีในวันหยุดสุดสัปดาห์ ที่พวกเขาเลือกเล่นเวลาตีหนึ่งก็เพราะว่าเวลานั้นค่าห้องซ้อมราคาถูก, One Ok Rock เดบิวต์ในปี 2007 ด้วยซิงเกิลชื่อว่า “Naishi Shinso” (นาอิชิ ชินโซ) และสามารถเข้าถึงอันดับที่ 48 ในออริกอนชาร์ตด้วยยอดขาย 15,000 แผ่น และสุดท้ายพวกเขาได้ทำอัลบั้มเต็มชุดแรกเมื่อปี 2007 แต่หลังจากปี 2009 ก็เหลือสมาชิกแค่ 4 คน เนื่องจากอเล็กซ์ถูกจับข้อหาจับขานักเรียนหญิงอายุ 21 ปีบนรถไฟ ปัจจุบันพวกเขาออกอัลบั้มมาทั้งหมด 7 ชุด มีเพลงดังมากมายไม่ว่าจะเป็นเพลง Clock Strikes หรือเพลง The Beginning ที่นำไปประกอบภาพยนตร์ และเพลง Nothing Helps ซึ่งนำไปประกอบเกมดัง Devil May Cry (เดวิล เมย์ คราย)
Gazette (กาเซ็ท)
วงร็อคที่ล้มลุกคลุกคลานกันมายาวนานกว่าจะมีผลงานของตนเอง ถึงขั้นอับจนกันจนถึงไม่มีเงินจ่ายค่าเข้าห้องอาบน้ำเพื่ออาบน้ำ มีสมาชิก 5 คน โดยใช้ชื่อวงตอนแรกว่า มาติน่า ออกผลงานตั้งแต่่ปี 2002 แต่ไม่ได้รับความนิยมเท่าไหร่นัก จนโชคชะตาพลิกผันเมื่อทางค่าย Ps company สนใจให้เซ็นสัญญาเนื่องจากเห็นความพยายาม และเปลี่ยนชื่อวงเป็น Gazetto (กาเซ็ทโตะ) ออกอัลบั้มแรกในปี 2004 ชื่อชุด Disorder (ดิสออร์เดอร์) ส่งผลงานขึ้นโอริกอนชาร์ตถึงอันดับ 3 โด่งดีงไปทั่วประเทศทันทีถึงขั้นมีไลฟ์สดที่ชิบุย่า ในปี 2006 พวกเขาเปลี่ยนชื่อวงอีกครั้งเป็น Gazette (กาเซ็ท) และย้ายค่ายไปคิง เร็คคอร์ด ออกอัลบั้มมาอีก 2 ชุด ก่อนจะย้ายมาอยู่ค่ายยักษ์ใหญ่อย่าง โซนี่ มิวสิค ตั้งแต่ปี 2011 กลายเป็นวงร็อคแถวหน้าของญี่ปุ่นในปัจจุบัน มีเพลงดังมากมายไม่ว่าจะเป็น Dogma, Filth in the Beauty (ฟิลธ์ อิน เดอะ บิวตี้)และ The Invisible Wall
Dir en grey (เดล ออง เกรย์)
วงที่ได้โปรดิวเซอร์มือดีอย่าง โยชิกิ X-Japan มาช่วยในซิงเกิ้ลแรกๆเนื่องจากเห็นความสามารถของตัว 5 หนุ่ม เคียว (ร้องนำ), คาโอรุ (กีต้าร์), ดาย (กีต้าร์), โทชิยะ (เบส) และ ชินยะ (กลอง) คำว่า Dir en grey นั้นเกิดมาจากการรวมกันของของภาษาสามภาษาคือ สเปน ฝรั่งเศส และอังกฤษ แปลว่า เหรียญสีเทา การที่มีข่าวว่า โยชิกิ เป็นโปรดิวเซอร์ให้ทำให้พวกเขาได้รับการจับตามองทันที ซึ่งก็ไม่ทำให้ผู้ฟังผิดหวังเพราะงานอัลบั้มแรก Gauze (ก๊อซ) ที่ออกมาในปี 1999 ทะยานขึ้นอันดับ 10 โอริกอนชาร์ตอย่ารวดเร็ว, 15 ปีในวงการเพลง พวกเขาสร้างเพลงฮิตมากมายเช่นเพลง Obscure (อ็อบสคิล) ,Lotus และ Unraveling (อันราเวลลิ่ง) พวกเขาได้รับการยอมรับว่าเป็นวงร็อคแถวหน้าและออกอัลบั้มทั้งหมดมา 9 ชุดจนถึงปี 2014
Girugamesh (กิรุกาเมจ)
วงวิช่วลร็อคที่เริ่มจาก ปี 2003 โดย ชู (เบส) และนี่ (กีต้าร์) เป็นเพื่อนกันในสมัยเรียนชั้นประถมศึกษา มีโอกาสกลับมาเจอกันอีกครั้งช่วงเรียนมัธยมปลาย มีความคิดรวมตัวตั้งวงดนตรี จึงชักชวน ซาโตชิ (ร้องนำ) และ เรียว (กลอง) เข้าร่วมวงโดยเซ็นสัญญากับค่าย Gaina-Japan แจ้งเกิดได้ทันทีกับซิงเกิ้ลแรก Kaisen Sengen (ไคเซ็น ซังเกน)ซึ่งติดอันดับชาร์ตเพลงอินดี้ของโอริกอนชาร์ต ได้รับการจับตามองอย่างมากเพราะทางวงอายุน้อย โดยเฉพาะเรียวมือกลองซึงขณะนั้นอายุแค่ 14 ปี แต่กว่าจะมีอัลบั้มเต็มชุดแรกก็ต้องรอกันจนถึงปี 2007 เพระทางวงเน้นทัวร์คอนเสิร์ตระหว่างที่ทำเพลงไปด้วย อัลบั้มเต็มชุดแรกมีชื่อเดียวกับวงคือ Girugamesh ได้รับความนิยมอย่างมากถึงขั้นมีคอนเสิร์ตที่ เยอรมัน ฝรั่งเศส อังกฤษ สวีเดน และฟินแลนด์ ถือเป็นช่วงขาขึ้นของทางวงจนมีงานเพลงออกมาอีก 4 ชุด มีเพลงดังมากมาย เช่น Incomplete และ Crying Rain แต่ในปี 2016 แฟนเพลงก็ช็อคไปตามกันเมื่อ Girugamesh ประกาศยุบวงด้วยเหตุผลว่าถึงจุดอิ่มตัวทั้งที่กระแสความนิยมยังดีอยู่
Scandal (สแกนดัล)
4 ร็อคเกอร์สาว ฮารุนะ, มามิ, โทโมมิ และ รินะ ตั้งวงกันในปี 2006 หลังจากรู้จักกันที่โรงเรียนสอนเต้นและขับร้องที่โอซาก้า พวกเธอเริ่มจากการแสดงตามโรงเรียน, สวนสาธารณะ และ มิวสิคฮอลล์ในจังหวัด เป็นที่แปลกตาแก่ผู้พบเห็นเนื่องจากเป็นวงร็อคหญิงล้วน ทำให้แพร่หลายในอินเตอร์เน็ตอย่างรวดเร็ว, ปี 2007 สแกนดัลมีโอกาสเข้าร่วมแสดงอีเวนท์พิเศษที่ Shibuya Club Asia ผลตอบรับจากการโชว์ครั้งนี้ค่อนข้างดี จนได้รับการเซ็นสัญญากับค่ายอินดี้ชื่อ Kitty Records ด้วยคาแรคเตอร์สดใสน่ารักทำให้ทางวงมีละครซีรี่ย์ระหว่างช่วงทำเพลงจนโด่งดังมากขึ้นไปอีก และปี 2009 อัลบั้มเต็มชุดแรกของพวกเธอ BEST★SCANDAL ก็ออกวางจำหน่าย ได้รับความนิยมอย่างสูง จนต้องออกอัลบั้มแทบทุกปี ปัจจุบันพวกเธอมีผลงานมาแล้ว 7 ชุด มีเพลงดังเช่น Departure (ดีพาร์ทเจอร์), Love Survive และ Haruga (ฮารุกะ)