LINE


แนะนำ 5 หูฟังมอนิเตอร์สำหรับทำเพลงปี 2022

ไปซื้อ แนะนำ 5 หูฟังมอนิเตอร์สำหรับทำเพลงปี 2022ที่สาขา

ถ้าคุณเป็นคนชอบฟังเพลงผ่านหูฟังที่ให้เสียงที่เป็นธรรมชาติ หรือไม่ถูกปรุงแต่งจนเกินไป หูฟังส่วนใหญ่ที่ขายกันอยู่อาจจะไม่ตอบโจทย์ความต้องการของคุณ การเลือกหูฟังที่ตอบสนองต่อเสียงอย่างสมบูรณ์ ครบถ้วนทุกย่านความถี่ ประหนึ่งหูฟังที่เหล่า Sound Engineer ใช้งานกันตามสตูดิโอ ซึ่งหูฟังมอนิเตอร์นั้นจะถูกออกแบบมาเพื่อการทำเพลง ให้ได้ซาวด์ที่ครบทุกย่าน วันนี้ Music Arms จะมาแนะนำ 5 หูฟังมอนิเตอร์เจ๋งๆสำหรับทำเพลงให้เพื่อนๆที่กำลังมองหาหูฟังดีๆซักตัว จะมีรุ่นไหนบ้างนั้นไปรับชมกันเลย

ดูหูฟังมอนิเตอร์ทั้งหมด คลิกที่นี่

1. AKG K72

ราคา : 1,990 บาท
2,390 บาท
ประหยัด17%
Face cover AKG-K72

AKG K72 หูฟังแบบ Full-Size ที่สามารถใช้งานได้ทั้งแบบ Monitor และ ฟังเพลงทั่ว ๆ ไป โดยตัวหูฟังนั้นมาในรูปทรงแบบเดียวกับที่ใช้ในสตูดิโอ ตัวก้านนั้นให้ความยืดหยุ่นได้ดีเยี่ยม โดยตัวแพดนั้นจะมีขนาดใหญ่สามารถครอบปิดใบหูได้อย่างเต็มใบโดยให้ความนุ่มนวลไม่บีบรัดใบหูจนอึดอัด ตัวสายนั้นมีความยาวมาให้ 3 เมตร ช่วยให้ใช้ทำงานได้อย่างสะดวก โดยหัวแจ็คนั้นจะมาในขนาด 3.5 mm ซึ่งจะมีอแดปเตอร์แปลงไปเป็น 6.3 mm มาให้อยู่ในกล่อง

สรุป

AKG K72 Headphone ราคาคุ้มค่าแบบสุดๆ แต่ได้ระดับเดียวกับที่ใช้ใน Studio แบบ Monitor เลยทีเดียว เรื่องเสียงที่มีความเที่ยงตรงสูงมากๆ ไร้การปรับแต่งใดๆ เหมาะกับคนที่ชอบฟังเพลงแบบที่ให้เสียงแนวเดียวกับต้นฉบับ ชื่นชอบในความเที่ยงตรงของเสียง หรือมองหาแบบที่สวมใส่ได้สบาย ปรับขนาดได้ น้ำหนักเบา หรือแม้แต่คนที่มองหาที่เป็นแบบปิด เพื่ออิ่มเอมดื่มด่ำกับประสบการณ์ด้านเสียงล้วนๆ แบบไร้สิ่งใดๆ ที่จะมารบกวนหรือแม่แต่เล็ดลอดเข้ามา บอกเลยว่ารุ่นนี้ตอบโจทย์สุดๆ ไม่ต้องมีงบที่มากมายก็เป็นเจ้าของได้แล้ว

สเปค : 
  • ช่วงความถี่ 16 ~ 20,000 Hz
  • แรงต้านไฟ 32 โอห์ม
  • หูฟังแบบ Closed
  • ความยาวสายเคเบิล 3 เมตร
  • แจ็คขนาด 3.5 มม.


2. Audio Technica ATH-M50X

ราคา : 5,990 บาท
ประหยัดพิเศษ
Audio Technica ATH-M50X

Audio Technica ATH-M50X หูฟังมอนิเตอร์รุ่นกลาง เป็นแบบ Closed หรือปิดหู ใช้วัสดุทำจากพลาสติกเป็นหลักจึงมีน้ำหนักเบา ใช้งานสะดวก สายเคเบิ้ลยาวถึง 3 เมตร คอยล์เสียงเป็นอะลูมิเนียมหุ้มทองแดง รับคลื่นเสียงได้กว้างและชัดเจน ซาวด์ออกชัดทุกย่านเสียง เหมาะทั้งใช้งานในสตูดิโอหรือใช้งานทั่วไปก็ได้สบายๆ

สรุป

หูฟัง Audio-Technica M50x เหมาะสำหรับนักฟังเพลงที่แสวงหารายละเอียดของเสียงร้องและชิ้นดนตรี รวมไปถึงความแม่นยำของการถ่ายทอดของเสียงเพลงจากห้องอัด ต้องการฟังเพลงอย่างจริงจัง รวมไปถึงผู้ที่จะใช้งานในระดับสตูดิโอ ห้องอัด หรือทำดนตรี แต่อาจจะไม่เหมาะกับนักฟังเพลงที่ชอบเสียงเพลงแบบปรุงแต่ง มีสีสัน หรือเน้นเสียงเบสเป็นหลัก อย่างไรก็ตามด้วยราคาหลักพันกลางๆ ทำให้หูฟังตัวนี้ เป็นหูฟังที่คุ้มค่า น่าหามาครอบครองเป็นอย่างมาก

สเปค : 
  • หูฟังประเภท Closed
  • Driver Diameter 45 มม.
  • แม่เหล็กนีโอไดเมี่ยม
  • คอยล์เสียงเป็นอะลูมิเนียมหุ้มทองแดง
  • รับความถี่ที่ 15 – 28000 Hz
  • กำลังขับ Input สูงสุด 1600 mW ที่ 1 kHz
  • ค่า Sensitivity ที่ 99 dB
  • ค่า Impedance 38 โอห์ม
  • น้ำหนัก 285 กรัม
  • สายเคเบิ้ลยาว 3 เมต


3. Sennheiser HD 280 Pro

ราคา : 5,490 บาท
ประหยัดพิเศษ
Sennheiser HD 280 Pro

Sennheiser HD 280 Pro เป็นหูฟังครอบหูแบบปิด ได้รับการออกแบบมาเพื่อความต้องการของมืออาชีพ เสียงต่ำที่คมชัดเสียงกลางที่แตกต่างและเสียงสูงที่ชัดเจนคือสิ่งที่ HD 280 PRO สมบูรณ์แบบสำหรับการบันทึกและการมิกซ์เสียง การออกแบบที่พับเก็บได้ไม่เหมือนใครรวมกับเอียร์คัพแบบหมุนได้มอบความยืดหยุ่นสูงสุดในทุกการใช้งาน การลดทอนสัญญาณรบกวนรอบข้างสูง ใช้ได้ทั้งสตูดิโอบันทึกเสียงในบ้านและระดับมืออาชีพ

สรุป

หูฟัง Sennheiser HD 280 Pro มาพร้อมกับเสียงต่ำที่ไพเราะ เสียงกลางที่ชัดเจนและเสียงสูงที่ชัดเจนคือสิ่งที่กำหนด ทำให้เป็นคู่หูที่สมบูรณ์แบบสำหรับการบันทึกและมิกซ์เซสชัน และด้วยความสบายใจ ชั่วโมงเหล่านั้นที่อยู่หน้าจอจะไม่ทำให้หูของคุณเหนื่อยมากเท่ากับที่ตาของคุณ พบได้ในบ้านและสตูดิโอบันทึกเสียงระดับมืออาชีพทั่วโลก HD 280 PRO ได้กลายเป็นมาตรฐานอุตสาหกรรมด้วยเหตุผลมากกว่าหนึ่งประการ

สเปค : 
  • แบบคาดศีรษะ
  • การตอบสนองความถี่ 8 – 25000 เฮิรตซ์
  • ระดับความดันเสียง (SPL) 113 เดซิเบล
  • THD ค่า distortion ของฮาร์โมนิค 0,1%
  • Contact pressure 6 N
  • ช่องต่อสเตอริโอ 3.5 / 6.3 มม.
  • สายเคเบิลขด ยาว 3 เมตร
  • รูปแบบไดนามิค
  • ค่า impedance 64 Ω
  • Load rating 500 mW
  • น้ำหนัก 285 กรัม


4. Beyerdynamic DT990 Pro

ราคา : 8,490 บาท
ประหยัดพิเศษ
Face cover Beyerdynamic-DT-990-PRO-250-OHMS

Beyerdynamic DT990 Pro อีกหนึ่งรุ่นยอดนิยมของทาง Beyerdynamic ที่ผลิตในเยอรมัน รุ่นนี้จะมีความแตกต่างจากรุ่น DT770 Pro ที่จะเป็นหูฟังแบบ Open-Back ด้านหลังมีความโปร่งสามารถปล่อยให้เสียงเล็ดลอดออกมาได้ จึงเป็นหูฟังที่เหมาต่อการฟังในสถานที่ส่วนตัวเช่นห้องสตูดิโอมากกว่า และรุ่นนี้จะให้ย่านเสียงต่ำที่ดีกว่า เป็นประเภทกลมกลืนทุกย่านเสียง จึงใช้ได้ทั้งการฟังเพลงส่วนตัวและตัดต่อเพลง

สรุป

Beyerdynamic DT990 Pro หูฟังครอบหูแบบมอนิเตอร์ซึ่งจะเหมาะสำหรับคนที่ต้องการทำเพลงโดยแยกเสียงต่างๆ เช่น ทุ้ม กลาง แหลมให้ชัดเจน รุ่นนี้แยกเสียงรบกวนรอบข้างได้ดีเยี่ยม และมีความแม่นยำ ใส่สบายหู หากใครกำลังสนใจหูฟังมอนิเตอร์ดีๆสักตัวแอดมินแนะนำรุ่นนี้เลยครับ

สเปค : 
  • รูปแบบไดนามิค
  • หูฟังแบบ Open-Back
  • น้ำหนัก 270 กรัม
  • การตอบสนองความถี่ 5Hz-35kHz
  • ขนาดไดร์เวอร์ 45 มม
  • ความต้านทาน 250 โอห์ม
  • การเชื่อมต่อเสียงกับ Circumaural ของหู
  • ช่องต่อแจ็คสเตอริโอ 3.5 มม.
  • สายเคเบิ้ล 9.8 เมตร


5. Beyerdynamic DT 880 PRO

ราคา : 10,900 บาท
ประหยัดพิเศษ
Face cover Beyerdynamic-DT-880-PRO-250-OHMS

Beyerdynamic DT 880 PRO 250 OHMS หูฟังสตูดิโอที่ใช้การมิกซ์เสียงในห้องอัดได้ดี ผลิตจากประเทศเยอรมันได้มาตรฐานสูง รุ่นนี้การออกแบบจะเป็นแบบ Semi Open ด้านหลังเปิด ทำให้ใส่สบายรู้สึกปลอดโปร่งมากขึ้น อีกทั้งตัวหูฟังยังทำจากทำจากผ้า Microfiber ใส่นานๆจะไม่รู้สึกเจ็บหู รุ่นนี้จะรับเสียงกลางได้ชัดเจน สามารถใช้งานได้หลากหลาย นำไปฟังเพลงก็ได้ แนวเสียงที่ได้มีความเป็นธรรมชาติ ฟังแล้วรู้สึกถึงความสมจริง

รุ่นนี้จะมีค่า Impedance สูงสุดถึง 250 ohms ทำให้ได้ซาวด์ชัดเจนแม้จะเชื่อมต่อกับโทรศัพท์และคอมพิวเตอร์ ภายในบรรจุไดร์เวอร์ขนาด 45 มม. เพิ่มประสิทธิภาพในการรับเสียง รูปทรงดูเท่ สวยงาม หรูหรา มาพร้อมสายเคเบิ้ลแบบขด ยาว 3 เมตรซึ่งตัวสายจะถอดออกได้ รองรับความถี่เสียงที่ 5 – 35,000 Hz ซึ่งถือว่ากว้างมาก ใครมองหาหูฟังที่ใช้ได้หลากหลาย ต้องรุ่นนี้แล้วจะติดใจ

สรุป

Beyerdynamic DT 880 PRO 250 OHMSหูฟังครอบหูแบบมอนิเตอร์ซึ่งจะเหมาะสำหรับคนที่ต้องการทำเพลงโดยแยกเสียงต่างๆ เช่น ทุ้ม กลาง แหลมให้ชัดเจน รุ่นนี้แยกเสียงรบกวนรอบข้างได้ดีเยี่ยม และมีความแม่นยำ ใส่สบายหู หากใครกำลังสนใจหูฟังมอนิเตอร์ดีๆสักตัวแอดมินแนะนำรุ่นนี้เลยครับ

สเปค : 
  • รูปแบบไดนามิค
  • หูฟังแบบ Semi Open
  • การตอบสนองความถี่ 5Hz-35kHz
  • ขนาดไดร์เวอร์ 45 มม.
  • ความต้านทาน 250 โอห์ม
  • สายเคเบิ้ลแบบขด ยาว 3 เมตร
  • การเชื่อมต่อเสียงกับ Circumaural ของหู
  • ถอดสายเคเบิ้ลได้
  • ช่องต่อแจ็คสเตอริโอ 3.5 มม.
  • น้ำหนัก 65 ปอนด์


และนี่คือทั้ง 5 หูฟังมอนิเตอร์ยอดนิยมที่เหมาะต่อการทำเพลง โดยมีตั้งแต่รุ่นเริ่มต้นราคาเบาๆ ไล่ไปจนระดับที่เหมาะต่อการทำเพลงในรูปแบบต่างๆ แต่ละรุ่นก็จะให้ซาวด์ในการรับเสียงที่ดีเยี่ยมแตกต่างกันไป หากเพื่อนคนไหนสนใจหูฟังมอนิเตอร์สำหรับทำเพลง ก็สามารถเข้ามาซื้อหากันได้ที่ Music Arms หรือหากยังไม่แน่ใจสามารถเข้ามาสอบถามที่ร้าน Music Arms ทุกสาขาได้เลย เรายินดีให้คำปรึกษาเพื่อนๆทุกคนเพื่อให้ได้ประสบการณ์ดีๆก่อนออกจากร้านไปเสมอครับผม

Music Arms