แนะนำ 5 วิธีการเลือกกลองไฟฟ้าให้เหมาะสมกับคุณ

เห้อซื้อกลองไฟฟ้ามาไม่คุ้มกับราคาเลย รู้งี้ไปซื้ออีกตัวดีกว่า ไม่น่าซื้อแบบนี้มาเลยพกพาลำบาก เสียงก็น้อย Touching ไม่ดีเลย ฯลฯ หากคุณไม่อยากให้คำบ่นของคุณเหล่านี้เกิดขึ้นกับคุณเวลาซื้อกลองไฟฟ้าไปแล้ว วันนี้ Music Arms ขอเป็นตัวช่วยคุณในการแนะนำ 5 วิธีการเลือกกลองไฟฟ้าให้เหมาะสมกับคุณกันครับ

1. เลือกกลองให้เหมาะสมกับลักษณะการใช้งานของคุณ

Electronic Drum Pad เป็นกลองไฟฟ้าที่มีขนาดเล็กกะทัดรัด พกพาไปไหนก็สะดวกและติดตั้งได้ง่ายมาก ๆ  แป้นที่ใช้ตีเป็นแป้นยาง (Rubber pad) ซึ่งจำนวนแป้นยางจะมีด้วยกันหลาย ๆ แป้นในบางรุ่นจะมี 4 แป้น มากไปจนถึง 8 แป้นเลย ลักษณะการใช้งานเพียงคุณนำไปวางไว้บนโต๊ะหรือขาตั้งสำหรับติดตั้งก็เสียบปลั๊กไฟเสียบแจ้คเข้าลำโพงหรือหูฟังก็สามารถใช้งานได้แล้ว ซึ่งกลองไฟฟ้าในลักษณะนี้คุณจะเห็นว่ามือกลองอาชีพเลือกใช้ในการไปเล่นดนตรีกลางคืนหรือ Event ต่าง ๆ นั่นเอง ซึ่งอุปกรณ์เพิ่มเติมหากคุณต้องการก็จะมีพวก Hi-hat Pedal หรือ Drum Pedal ด้วยเพื่อเพิ่มอรรถรสในการเล่นของคุณก็ได้ แต่หากคุณสงสัยว่าไม่มี Pedal ทั้ง 2 ตัวนี้ได้มั้ย ตอบเลยว่าได้เหมือนกันเพียงคุณตั้งค่า Module ในแต่ละแป้นก็จะได้เสียงที่คุณต้องการแล้ว

Electronic Drum Set เป็นกลองชุดที่มีลักษณะเหมือนกลองชุดจริงเลย ไม่ว่าจะเป็นลักษณะการตั้งเครื่อง ตำแหน่งของกลองแต่ละใบ การเหยีบ Pedal ต่าง ๆ ก็เหมือน เพียงแต่ว่า Touching อาจจะไม่เท่ากับกลองจริง ๆ แต่คุณรู้มั้ยครับว่าเดี๋ยวนี้กลองไฟฟ้านี้มีการพัฒนากันไปไกลมาก ๆ สามารถทำให้คุณได้ Touching ที่สมจริงมาก ๆ เลยที่เดียว ลักษณะการใช้งานก็ง่ายมาก ๆ เหมือนกันครับใช้พื้นที่ไม่เยอะในการติดตั้งด้วย เพียงแค่เสียบปลั๊กไฟ เสียบลำโพง หรือ หูฟังคุณเพลิดเพลินและได้กับอรรถรสของการตีกลองชุดแล้วครับ เหมาะสมสำหรับทุกการใช้งานของคุณมาก ๆ ครับ

เมื่อคุณได้อ่านมาถึงตรงนี้คุณก็จะเข้าใจแล้วครับว่าหากคุณอยากได้กลองไฟฟ้านั้นคุณจะเลือกแบบไหนให้เหมาะสมกับคุณ Music Arms อยากจะขอเพิ่มเติมรายละเอียดอีกนิดเกี่ยวกับ Electronic Drum Set เพื่อให้คุณตัดสินใจซื้อกลองไฟฟ้าที่เหมาะสมกับคุณครับ

2. แป้นที่ใช้ตีไม่เหมือนกัน

คุณอาจจะคิดว่าแป้นมีมายังไงก็ตีไปเหมือนกันต่อปลั๊กไฟต่อลำโพงก็มีเสียงเหมือนกันคำตอบคืดใช่ครับได้เสียงเหมือนกันแต่ Touching ในการตีให้ฟิลลิ่งที่ต่างกันมากครับในที่นี้ แป้นกลองนั้นได้ทำออกมา 2 แป้นด้วยกันครับ

แป้นยาง (Rubber Pad) ข้อดีของแป้นนี้คือจะมีราคาที่ประหยัดกว่าแป้นหนังมุ้ง แต่การเด้งหรือTouching Dynamic Control จะทำได้ไม่เท่ากับการตีกลองจริง ๆ และแน่นอนหากคุณนำไปใช้ซ้อมใช้ตีแบบเงียบ ๆ แล้วละก็ ไม่ได้เงียบขนาด 100% ครับเพราะเสียงของยางจะดังมากกว่าหนังมุ้ง

แป้นตาข่าย หรือ หนังมุ้ง (Mesh Heads) จะมีราคาที่ค่อนข้างสูงแต่แลกมาด้วยการได้ Touching ที่เหมือนกลองจริง ๆ และยิ่งไปกว่านั้นหนังมุ้งรุ่นใหม่ ๆ ที่ออกมาก็สามารถที่จะปรับความตึงของหนังได้แล้วยิ่งทำให้ผู้เล่นได้ Touchin ที่ดีมากขึ้นไปอีก ยิ่งไปกว่านั้นหากคุณเป็นมือกลองที่ต้องสลับการตี Acoustic Drum กับ Electronic Drum Set เป็นประจำคุณไม่จำเป็นที่ต้องเปลี่ยนเทคนิคในการเล่นเลย

3. ดูที่ความสามารถของ Modle

Sound Module (สมองกล) เป็นเสมือนแผงรับสัญญาจากแป้นต่าง ๆที่เราตีและแปลงออกไปเป็นเสียงรวมไปถึงการดีเลด้วย Sound Module นี้มีด้วยกันหลากหลายฟังชั่นขึ้นอยู่กับแต่ละยี่ห้อเลย ไม่ว่าจะเป็น Metromnoum  backing track Effect Recoding เป็นต้น แต่แน่นอนครับยิ่งสมองกลของเรามีฟังชั่นมากเท่าไหร่กลองก็จะมีราคามากขึ้นไปด้วยนั่นเอง

4. ทำไมซื้อกลับไปแล้วเสียงไม่เหมือนในร้านนะ

แน่นอนครับเมื่อคุณอ่านมาถึงตรงนี้คุณพร้อมที่จะซื้อกลองไฟฟ้ากลับบ้านไปตีเรียบร้อย แต่ช้าก่อนอีกสิ่งที่คุณควรเตรียมไว้นั่นก็คืองบประมาณในการซื้อหูฟังหรือแอมป์ที่เอาไว้ใช้สำหรับกลองไฟฟ้าโดยเฉพาะเพื่อให้ได้รับรู้ถึงอรรถรสเสียงกลองที่ยอดเยี่ยมของคุณครับ

5. งบประมาณ

เช่นเดิมครับเมื่อคุณรู้ข้อมูลที่คุณอ่านมาจนถึงตรงนี้ควรเลือกกลองที่งบประมาณใกล้เคียงกับที่คุณมีครับเพื่อให้ได้ประโยชน์ในการใช้งานมากที่สุด คุณตจะได้ไม่ต้องมานั่งเสียใจว่าฉันซื้อกลองมาตั้งแพงแต่ใช้งานนิดเดียวเอง ยังไงก็พิจารณาให้ดีครับ วันนี้ Music Arms ลาไปก่อนขอบคุณครับ