LINE


แนะนำ 5 Synthesizer 61 คีย์ น่าใช้งาน ปี 2022

ไปซื้อ แนะนำ 5 Synthesizer 61 คีย์ น่าใช้งาน ปี 2022ที่สาขา

หลังจากที่แนะนำคีย์บอร์ดใบ้หรือ MIDI Controller ไปเมื่อวันก่อน ทำให้มีเพื่อนๆชาว Musicarms หลายคนสนใจในเครื่องดนตรีชนิดนี้ และหลายคนต้องการที่ทำเพลงไปด้วย วันนี้ Musicarms จะขอยกระดับจากคีย์บอร์ดใบ้มาเป็น Synthesizer หรือ Workstation เนื่องจากฟังก์ชั่นการทำงานจะมีมากกว่า เหมาะสำหรับทำเพลง แต่ละยี่ห้อนั้นเชื่อว่าเพื่อนๆน่าจะคุ้นหูกันดีอยู่แล้ว สามารถเลือกได้ตามราคาและการใช้งาน มีตั้งแต่รุ่นเริ่มต้นราคาไม่แพงมาก จนไปถึงระดับมืออาชีพใช้งานฟังก์ชั่นครบ เราจึงขอแนะนำ Synthesizer 5 รุ่นยอดนิยมให้เพื่อนๆรู้จัก จะมีรุ่นกันบ้างนั้นไปชมกันเลย

ดู Synthesizer ทั้งหมด คลิกที่นี่

1. Roland XPS-30

ราคา : 28,800 บาท
36,000 บาท
ประหยัด20%
Cover คีย์บอร์ด Roland XPS-30
ข้อมูล : 

Roland XPS-30 รุ่นนี้จะเป็นการพัฒนามาจากรุ่น XPS-10 ซึ่งนำเอาข้อดีในรุ่นนั้นมาเพิ่มประสิทธิภาพให้ดียิ่งขึ้น เช่นเสียงที่ทำให้คล้ายคลึงกับเสียงเปียโนอะคูสติค สามารถปรับโดยใช้ปุ่มคอบคุมตามหน้าจอ รุ่นนี้มี 61 แป้นคีย์ตามมาตรฐานสามารถทำเสียงโพลีโฟนีได้สูงสุด 128 เสียง มีหน่วยความจำในเครื่องที่จัดเก็บทั้งเสียง Rhythm หรือรูปแบบซาวด์กลองสามารถซ้อมคนเดียวได้แบบชิลๆ หรือหากยังไม่พอก็สามารถเชื่อมต่อกับ Memory ภายนอกได้อีกด้วย

Roland XPS-30 ยังรองรับเทคโนโลยีอย่างหลากหลายด้วยช่องเสียบที่มาครบครันทั้ง USB, ฟุตสวิทช์ หรือจะเสียบไมค์และเครื่องเล่น MP3 ก็ยังทำได้ หน้าจอมีการปรับเพิ่มจาก XPS-10 ให้มีความละเอียดมากขึ้น ดูง่ายสบายตาสะดวกต่อการควบคุม ปุ่มคอนโทรลแยกการใช้งานอย่างชัดเจน น้ำหนักเบาแค่ 5.3 กก. กินไฟน้อย พกพาไปเล่นข้างนอกสะดวกเพียงแค่ใส่ถ่าน AA 8 ก้อนก็ใช้งานได้ยาวนานถึง 4 ชม. แบบนี้เรียกว่าคุ้มเกินคุ้มสำหรับคนที่กำลังมองหาคีย์บอร์ดดีๆไว้ใช้งาน

สเปค : 
  • จำนวนแป้นคีย์ 61 คีย์แบบตอบสนองความเร็ว
  • เสียงโพลีโฟนีสูงสุด 128 เสียง
  • จำนวนพาร์ท 16 พาร์ท
  • หน่วยความจำในตัวเครื่องสามารถเก็บแพทช์ได้เกิน 1400 แพทช์, เสียงกลอง 35 เสียง, เพอร์ฟอแมนซ์ได้ 28 แบบ (ใช้งานร่วมกับ GM2 ได้)
  • หน่วยความจำแบบต่อพ่วงสามารถเก็บแพทช์ได้ 256 แพทช์, เสียงกลอง 8 เสียง, เพอร์ฟอแมนซ์ได้ 128 แบบ , Favorites ได้ 100 รายการ
  • มีช่องเสียบ Wave 1 ช่อง (แต่ต้องโหลดดาต้าจาก Axial)
  • รองรับไฟล์ .wav แบบ 16 บิท, aiff และ MP3
  • มีมัลติเอฟเฟค 3 ระบบ 80 แบบ
  • มีคอรัส 3 แบบ
  • มีรีเวิร์ป 5 แบบ
  • มีรีเวิร์ปในระบบไมค์โครโฟน 8 แบบ
  • มี Rhythm ในตัว 30 แบบ 8 กลุ่ม
  • มี Arpeggio 128 เสียง
  • แผงคอนโทรลประกอบด้วย ปุ่ม Pitch bend, ปุ่มคอนโทรล 4 ปุ่ม, ปุ่มเลเวล 4 ปุ่ม และปุ่ม Multicolor pad 8 ปุ่ม
  • หน้าจอ LCD ความละเอียด 256 x 80
  • มีช่องเสียบ USB
  • มีช่องเสียบฟุตสวิทช์, ไมค์, EXT, Output, Phone, MDI และ DC in
  • ใช้อแดปเตอร์ขนาด 9 โวลต์ หรือถ่านขนาด AA 8 ก้อน
  • อุปกรณ์แถมมีหนังสือรับรองสินค้า, ใบคู่มือ, อแดปเตอร์ และ Power Chord
  • ขนาด 1008x300x97 มม.
  • น้ำหนัก 5.3 กก.


2. Korg Krome 61 Keys

ราคา : 34,200 บาท
38,000 บาท
ประหยัด10%
Face cover Korg-krome-61-Keys
ข้อมูล : 

Korg krome 61 Keys คีย์บอร์ดขนาดมาตรฐาน 61 แป้นคีย์ที่มาพร้อมกับฟังค์ชั่นสุดล้ำเต็มรูปแบบ ไล่กันตั้งแต่ระบบแป้นที่เป็ยแบบใหม่ไวต่อการสัมผัส ซึ่งปกติจะเป็นคีย์ C2-C7 แต่สามารถปรับลดและเพิ่มได้ 1 ออคเต็ปอีกด้วย สามารถทำเสียงโพลีโฟนีได้ทั้งแบบเล่นคนเดียวหรือเล่นคู่ทั้ง 120 และ 60 เสียง ออกแบบเสียงเปียโนได้สเมือนจริงมีการเสียบแป้นเหยียบเพิ่มเติมได้ จอแสดงผลขนาด 7 นิ้วใหญ่สบายตาแบบทัชสกรีนที่ช่วยให้คุณปรับฟังค์ชั่นได้อย่างง่ายๆ เมมโมรี่ในตัวจัดเต็มขนาด 3.8 Gb ที่จุเพลงได้ถคง 128 เพลงและยังปรับเทมโประดับความเร็วได้ตามใจชอบสำหรับเวลาฝึกซ้อมอีกต่างหาก

Korg krome 61 Keys ยังสามารถอัพเดทเวอร์ชั่นจากไดร์เวอร์เพื่อเพิ่มเติมส่วนการใช้งานได้ โดยไฟล์เพลงจะเป็น .wav ซึ่งเป็นสกุลไฟล์สากลปรับแต่งแก้ไขไฟล์ได้ง่ายทั้งบันทึกและแปลงไฟล์ รูปแบบกลองแบคกิ้งแทร็คมีมาให้เกิน 2000 รูปแบบไม่ต้องจำเจกับการเล่นคนเดียวและปรับกรูฟของกลองได้ตามใจชอบ เอฟเฟคในตัวถึง 193 แบบสามารถทำเสียงโน๊ตต่างๆได้ในแนวเพลงที่ตนเองถนัด ถ้าไม่ชอบใจก็ยังมีปุ่มปรับ EQ ให้ทั้งสามย่านเสียง ตัวเดียวสามารถเล่นคู่เล่นเดี่ยวได้ แบบนี้เอนกประสงค์สุดๆพร้อมสรรพทั้งซ้อมหรือขึ้นเวทีจริง

ข้อดี Korg Krome 61 เอนกประสงค์ครบเครื่องเรื่องเสียงและฟังก์ชั่น

  • 61 คีย์ พร้อมซาวด์แกรนด์เปียโน German D สมจริง
  • เสียงในตัว 640 แบบ พร้อมจังหวะกลอง 288 แบบ เล่นกันเพลิน
  • จอแสดงผล Touch View 7 นิ้ว แค่สัมผัสก็ปรับแต่งได้ง่ายๆ
  • บันทึกและทำงานเพลงสบายๆด้วยช่องเสียบ USB และ SD Card
  • ใช้งานร่วมกับ Krome Editing ซอฟแวร์อัจฉริยะ ทำเพลงและแต่งเสียงในตัว โปรแกรมเดียวจบ
สเปค : 
  • ระดับคีย์ตั้งแต่ C2-C7 (สามารถปรับเป็น C1-C6 หรือ C3-C8 ได้)
  • ระบบแป้นคีย์ไวต่อการสัมผัส
  • ระบบ EDS-X (ปรับความคมชัดของเสียงสังเคราะห์ให้ดีขึ้น)
  • โพลีโฟนี 120 เสียงในซิงเกิ้ลโหมด และ 60 เสียงในดับเบิ้ลโหมด
  • เมมโมรี่ 3.8 Gb ที่ความถี่ 48 kHz เป็นระบบ 16 Bit
  • จุตัวอย่างเสียงได้ 583 เสียง (12 แบบสเตอริโอ) และเแบบกลอง 2080 แบบ (474 แบบสเตอริโอ)
  • มีโปรแกรม Oscillator (การแกว่งของเสียง) ทั้งโหมดซิงเกิ้ลและดับเบิ้ล สามารถปรับความเร็วได้
  • ระบบกรองเสียง 4 แบบ คือแบบเดี่ยว, แบบต่อเนื่อง, แบบคู่ขนาน และแบบ 24 dB สามารถเลือกใช้ 2 แบบในโปรแกรม Oscillator ได้
  • ปรับ EQ ได้ 3 ย่านเสียง
  • สามารถปรับรูปแบบเสียงได้หลายรูปแบบ เช่น เสียงแบบแกว่ง หรือเสียงแบคกิ้งแทรคแบบ 2 คีย์
  • ความจุเสียงร้อง 16 แบบ สามารถใช้ร่วมกับโปรแกรม via ปรับฟังค์ชั่นเสียงเพิ่มได้
  • ระบบเสียงกลองมีทั้งแบบโมโนและสเตอริโอ
  • มีเอฟเฟคในตัว 193 แบบ สามารถตั้งค่าเก็บไว้ได้ 32 แบบ
  • ตั้งค่า Arpeggio ได้ 5 แบบ
  • สามาถตั้งค่ารูปแบบกลองได้ 637 แบบ
  • เก็บเพลงได้ 128 เพลงโดยสามารถปรับความเร็วเทมโปตั้งแต่ 40-300 ในไฟล์ MIDI
  • สามารถแก้ไขไฟล์เพลง MIDI ได้
  • แผงควบคุมประกอบด้วยปุ่มเปิด-ปิดแทรคกลอง, ปุ่มเปิด-ปิด Arpeggio, ปุ่ม REALTIME CONTROL, สวิทช์เลือกโหมด และปุ่มปรับโทน
  • หน้าจอ LCD ขนาด 7 นิ้ว ความคมชัด 800X480 พิกเซล เป็นระบบออนบอร์ด
  • ช่องเสียบ Output แบบโมโนขนาด 6.3 มม.
  • ช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มม. แบบสเตอริโอ
  • ช่องเสียบ USB แบบ B
  • มีช่องเสียบแป้นเหยียบแบบเปียโน
  • มีช่องเสียบ SD Card โดยรองรับความจุ 32 Mb แบบ SDHC
  • ขนาด 1,027 x 313 x 93 มม. (40.43 x 12.32 x 3.66 นิ้ว)
  • น้ำหนัก 7.2 กก.
  • ใช้อแดปเตอร์ขนาด 12V
  • ใช้กำลังไฟ 13 วัตต์
  • อุปกรณ์แถมเป็นอแดปเตอร์, หนังสือคู่มือ, แผ่นไฟล์คู่มือแบบ PDF และแผ่นวีดีโอแบบ Manual


3. Yamaha MODX6

ราคา : 43,000 บาท
ประหยัดพิเศษ
Yamaha-MODX6.-1
ข้อมูล : 

Yamaha MODX6 61-key Synthesizer คีย์บอร์ดแบบ Synthesizer สำหรับนักทำเพลง รุ่นนี้มี 61 คีย์ ให้เสียงที่มีมิติไม่ว่าจะต่อกับลำโพงแบบไหนก็ตามเพราะทาง Yamaha ติดระบบ AWM2, FM-X มาให้ มีระบบ Live Sets เปลี่ยนการตั้งค่าได้ 4 รูปแบบโดยที่เพลงไม่สะดุด ทำซาวด์ในตัวเพลงกันชิลๆ มีหน่วยความจำภายในมากถึง 1 Gb โหลดแอปต่างๆที่ชื่นชอบมาทำเพลงได้ รองรับทั้ง iOS และ Windows เพียงแค่ต่อ USB งานดีเทคโนโลยีมาเต็ม เหมาะสำหรับเป็นคีย์บอร์ดของคนรุ่นใหม่

สเปค : 

รายละเอียด Yamaha MODX6 61-key Synthesizer

  • ประเภท Synthesizer
  • ระบบเสียง AWM2, FM-X
  • ระบบดิจิตอล
  • 61 คีย์
  • มีวงล้อ Pitchbend, Mod wheel
  • อินพุท 2 ช่อง แบบโมโนขนาด 1/4 นิ้ว
  • เอาท์พุต 2 ช่อง แบบโมโฯขนาด 1/4 นิ้ว
  • ต่อหูฟังและ USB ได้
  • ต่อแป้นเหยียบได้ 2 แบบ (sustain, assignable)
  • ต่อคอนโทรลเลอร์ได้
  • ใช้แบตเตอรี่ 12V DC


4. Korg Kross 2 61 Keys

ราคา : 21,600 บาท
24,000 บาท
ประหยัด10%
Korg-Kross-2-61-Keys
ข้อมูล : 

Korg Kross 2 หรือ Korg Synthesizer KROSS-2 61 คีย์บอร์ด 61 คีย์ซีรี่ย์ 2 ที่ได้รับการพัฒนาให้ดียิ่งขึ้นจากรุ่นแรก ฟังค์ชั่นสุดล้ำในซีรี่ย์แรกยังคงเดิมเต็มรูปแบบ ไล่กันตั้งแต่ระบบแป้นที่เป็นแบบใหม่ไวต่อการสัมผัส ซึ่งปกติจะเป็นคีย์ C2-C7 แต่สามารถปรับลดและเพิ่มได้ 1 ออคเต็ปอีกด้วย สามารถทำเสียงโพลีโฟนีได้ทั้งแบบเล่นคนเดียวหรือเล่นคู่ทั้ง 80 และ 40 เสียง ออกแบบเสียงเปียโนได้สเมือนจริงมีการเสียบแป้นเหยียบเพิ่มเติมได้ และยังปรับเทมโประดับความเร็วได้ตามใจชอบสำหรับเวลาฝึกซ้อมอีกต่างหาก

ซีรี่ย์นี้จะมีการปรับซาวด์ให้หนาสมจริงมากขึ้นด้วยระบบ EDS-i และเพิ่มความจุเมมโมรี่ในตัวเป็น 128 Mb จุเพลงได้มากขึ้น รวมถึงเพิ่มการตั้งค่า Preset ถึง 1075 แบบ ใช้งานได้หลากหลายไม่ว่าจะทำเพลงหรือแก้ไขตัวเพลง เพราะเชื่อมต่อเข้ากับคอมพิวเตอร์ได้ง่ายด้วยช่องเสียบ USB แบบ B ยามอยู่ข้างนอกก็ใช้ถานขนาด AA แค่ 6 ก้อนก็สามารถเล่นได้สบายๆ เอฟเฟคในตัวมากถึง 134 แบบ เรื่องซาวด์บอกเลยว่าจัดเต็ม น้ำหนักเบาแป้นคีย์ครบ งานนี้จะยกไปเล่นที่ไหนก็ไม่มีปัญหา

สเปค : 

รายละเอียดคีย์บอร์ด Korg Kross 2

  • จำนวนแป้นคีย์ 61 คีย์
  • คีย์ตั้งแค่ C2-C7 (สามารถปรับเป็น C1-C6 และ C3-C8 ได้
  • ระบบซาวด์ EDS-i
  • แป้นคีย์แบบ NH ที่ให้สัมผัสเหมือนเปียโนอะคูสติค ให้เสียงตามการลงน้ำหนักนิ้ว 4 ระดับ
  • ทำเสียงโพโลโฟนีได้ 80 เสียงในซิงเกิ้ลโหมด
  • ทำเสียงโพโลโฟนีได้ 40 เสียงในดับเบิ้ลโหมด
  • ตั้งค่า Preset ได้ถึง 1075 แบบ
  • เมมโมรี่ 128 Mb เป็นแบบ 16 บิท
  • แหล่งกำเนิดสัญญาณเสียงมีทั้งแบบซิงเกิ้ลและดับเบิ้ล
  • จำนวนเอฟเฟค 134 แบบ
  • ซาวด์กลอง 58 แบบ
  • ใช้แบตเตอร์รี่ AA x 6 ก้อน
  • ช่องต่อ Input แบบ Mic 1 ช่อง แบบ Line 1 ช่อง
  • ช่องตอ่ Output แบบ Line out 2 ช่อง แบบหูฟัง 1 ช่อง
  • ทำเสียงซีเควนซ์ได้ 16 แทร็ค
  • มีช่องเสียบ USB แบบ B
  • ใช้พาวเวอร์ซัพพลายขนาด 120 V
  • ขนาด 935 × 269 × 88 มม.
  • น้ำหนัก 3.8 กก.


5. Roland XPS-10

ราคา : 18,800 บาท
23,500 บาท
ประหยัด20%
Roland-XPS-10-10
ข้อมูล : 

คีย์บอร์ดซินธีไซเซอร์ Roland XPS-10 คีย์บอร์ดรุ่นใหม่ที่ออกมาพร้อมกับลูกเล่นด้านเสียงมากมาย จำนวนแป้นคีย์ 61 แป้น ตามมาตรฐาน สามารถทำเสียงโพลีโฟนีได้ถึง 128 เสียง ตัวแบบเสียงนั้นมาจาก รุ่น JUNO-Di อันโด่งดัง และยังเพิ่มรูปแบบเสียงของทาง Roland รุ่น XP,JV และรุ่น D-50 เข้าไปอีก พิเศษสุดคือมีเสียงดนตรีไทยเพิ่มมาให้ (อยู่ในหมวด World) สามารถ Sampling ได้ และแต่งเสียงเองในเครื่องได้เลย มีซาวด์กลองมาหใ้เกิน 30 รูปแบบ ใช้งานได้หลากหลาย

ตัวเอฟเฟคที่ให้มานั้นเป็นมัลติเอฟเฟคถึง 3 แบบและมีคอรัสกับรีเวิร์ปเป็นลูกเล่นเพิ่ม รุ่นนี้จะพัฒนาขึ้นโดยการตัดส่วน MIDI ออกไปและใช้งานเชื่อมต่ออุปกรณ์ต่างๆผ่าน USB อย่างเต็มรูปแบบ มีฟังก์ชั่น User Scale ปรับแต่งตัวโน๊ตในเพลงที่จะเล่นได้ แผงควบคุมก็แยกระดับเสียง 9 แบบให้ปรับแต่งกันอิสระ เล่นไฟล์ .wav และ MP3 ตามมาตรฐาน น้ำหนักเบาสบายสามารถพกพาไปได้ทุกที่ ฟังก์ชั่นใช้งานๆต่างๆมีปุ่มลัดพร้อมสรรพสำหรับนักดนตรีที่ต้องการเล่นสด ราคาถูกคุ้มค่าคุณภาพที่ได้รับ น่าจับจอเป็นเจ้าของอย่างมาก

ข้อดีและจุดเด่น คีย์บอร์ด Roland XPS-10

  • เป็นรุ่นที่พัฒนาต่อเนื่องมาจาก JUNO-Di จึงนำคุณสมบัติรวมถึงเสียงของ JUNo ทั้งหมดมาใส่ไว้และทำให้ดีขึ้น
  • มีจุดเด่นด้านการทำซาวด์และลูกเล่นอย่างชัดเจน สามารถทำซาวด์ได้หลากหลาย
  • เป็นคีย์บอร์ดเพียงไม่กี่รุ่นที่ทำเสียงเครื่องดนตรีไทยได้
  • ตัดช่องเสียบที่ไม่จำเป็นออกและใช้เป็น USB แทบทั้งหมด ทำให้หาอุปกรณ์มาเชื่อมต่อได้ง่าย
  • เสียงที่ออกมาค่อนข้างหนา เต็มเสียง สามารถ Sampling ได้
  • ในราคาระดับ 20000 ถือวาเป็นคีย์บอร์ดที่เสียงดีและลูกเล่นเยอะระดับต้นๆ และเป็นคีย์บอร์ด synth
  • ขนาดและน้ำหนักพกพาง่าย
สเปค : 

รายละเอียดคีย์บอร์ด Roland XPS-10

  • จำนวนแป้นคีย์ 61 แป้น
  • จำนวนเสียงโพลีโฟนีสูงสุด 128 เสียง
  • ระบบ Parts ถึง 16 Parts
  • เมโมรี่ในเครื่องรองรับ Patches 1,273 + 256 แบบ, Drum Kits 19 + 9 แบบ และ Performances 16 แบบ
  • สามารถเชื่อมต่อเมโมรี่เพิ่ม รองรับเพิ่ม Patches 256 แบบ, Drum Kits 8 แบบ Performances 128 แบบ และ Favorites 100 แบบ
  • มีมัลติเอฟเฟค 3 ประเภท 78 แบบ
  • มีเอฟเฟคคอรัส 3 แบบ, เอฟเฟครีเวิร์ป 5 แบบ
  • ป้อนข้อมูลไฟล์เสียงแบบ .wav ด้วยความถี่44.1 kHz, 16 บิท
  • เล่นไฟล์เสียงออดิโอได้ 3 แบบ คือ .wav, AIFF และ MP3
  • ใช้ USB แบบ 2.0 ในการเชื่อมต่อ
  • แพทเทิร์น Rhythm ทำได้ถึง 24 แบบ
  • ตั้งค่า Arpeggio ได้ 128 แบบ
  • แผงควบคุมมีตัวปรับ Pitch Bend และ Modulation และตัวสไลด์ปรับระดับเสียง 9 แบบ
  • หน้าจอแสดงผล LCD 2 บรรทัด
  • ช่องเชื่อมต่ออุปกรณ์ภายนอกมีทั้ง ช่องเสียบหูฟัง, ชื่อ Output ขนาด 1/4 นิ้วแบบโมโน, ช่องต่อสวิทช์เท้า และช่องต่อ USB
  • ใช้อแดปเตอร์ DC ขนาด 1.3a 9 โวลท์
  • ขนาด 1002 x 251 x 93 มม.
  • น้ำหนัก 4 กก.


และทั้งหมดนี่คือ 5 Synthesizer ที่มีฟังก์ชั่นการใช้งานในส่วนของการทำเพลงอย่างครบครัน มีตั้งแต่รุ่นเล็ก ไปจนถึงรุ่นใหญ่กันเลย โดยแต่ละรุ่นก็สามารถเชื่อมต่อ MIDI ได้ ส่วนจะต่อกับ Bluetooth หรือฟุตสวิทช์นั้นต้องแล้วแต่รุ่น และบางรุ่นก็เป็นถึง Work Station สำหรับทำเพลงระดับมือโปรกันเลย เพื่อนๆสามารถเลือกตามการใช้งานของตนเองได้ และหากคิดไม่ออกว่าจะมาซื้อที่ไหนบอกเลยว่าทุกรุ่นมีจำหน่ายที่ร้าน Music Arms ทั้ง 6 สาขา ใครที่ยังไม่แน่ใจจะมาลองตัวเป็นๆก็เชิญมาได้ ทีมงานของเรายินดีต้อนรับและให้บริการเพื่อนๆอย่างสุดความสามารถ เพื่อเพื่อนๆจะได้รับสิ่งดีๆก่อนออกจากร้านไปเสมอครับ

Music Arms