LINE


การเลือกไม้กลองให้เหมาะกับตนเอง

ไปซื้อ การเลือกไม้กลองให้เหมาะกับตนเองที่สาขา

สำหรับมือกลองนอกจากลองชุดคู่ใจของตนเองแล้วคงปฏิเสธไม่ได้ว่าการเลือกไม้กลองก็เป็นสิ่งสำคัญอย่างหนึ่งที่จะช่วยเสริมความถนัดและฝีมือตนเองไปด้วย การใช้ไม้กลองที่ถนัดมือก็จะช่วยสร้างความมั่นใจในการเล่นได้มากขึ้น และหากเลือกไม้ตรงกับประเภทดนตรีก็จะเสริมซาวด์และจังหวะให้กลมกลืนไปกับวงได้อีกด้วย ดังนั้นเราจะมาบอกเทคนิคการเลือกไม้กลองในสไตล์ที่ต้องการแล้วควรรู้กันดังนี้

1. ขนาดไม้

ขนาดไม้กลองถือเป็นสิ่งสำคัญอย่างแรกเพราะมือกลองย่อมต้องการความเหมาะมือและกระชับเวลาจับ โดยไม้กลองส่วนใหญ่จะมีขนาดรุ่นบอกอยู่แล้วเช่น 3S, 2B หรือ 5A ความหมายก็คือยิ่งตัวเลขมากขนาดเส้นรอบวงของไม้กลองก็จะเล็กลง เช่น 7A ก็จะมีขนาดเล็กกว่า 5A แต่ทั้งนี้ก็ต้องดูตัวอักษรอังกฤษเป็นหลักว่าเป็นไม้กลองรูปแบบใด เช่น 3S จะมีเส้นรอบวงที่ใหญ่กว่า 2A เป็นต้น

ตัวอักษรชนิดไม้กลองจะมี 3 แบบ คือ S, A และ B ซึ่งการใช้งานก็จะแตกต่างออกไปดังนี้
แบบ S จะเป็นไม้กลองขนาดใหญ่หรือเรียกว่าไม้กลอง street สวนใหญ่จะใช้กับวงขนาดใหญ่เช่นวงโยธวาทิตหรือกองพลกลองในหน่วยทหาร สาเหตุที่ใช้กับวงเหล่านี้เพราะไม้กลองชนิดนี้จะให้เสียงดังกังวานเหมาะกับวงดนตรีที่มีเครื่องดนตรีหลายประเภทและต้องการความดังในการตี
แบบ B จะเป็นไม้กลองมาตรฐานทั่วไปเรียกว่าไม้กลอง band หรือสำหรับเล่นวงดนตรีตามปกติ ขนาดยอดนิยมของรุ่นี้คือ 2B ที่มือกลองทั่วไปมักจะเลือกใช้กัน แบบ B ถือเปนมาตรฐานเพราะสามารถเล่นได้ทุกแนวดนตรี แบบ A จะเป็นไม้กลองที่ขนาดเส้นรอบวงเล็กที่สุด ส่วนใหญ้ไม้กลองไซส์นี้จะนิยมในหมู่คนเล่นดนตรีแจ๊สเพราะต้องการน้ำหนักที่เบาและกระชับเหมาะมือ แต่ก็มีบางกลุ่มที่ใช้กับดนตรีร็อคอีกด้วยเพราะเหมาะสำหรับการตีเร็วๆหรือเบาๆ

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ drum stick

2. หัวไม้

หัวไม้กลองถือเป็นส่วนสำคัญเพราะต้องสัมผัสกับไฮ-แฮทอยู่ตลอดเวลา ดังนั้นเพื่อให้เสียงที่เข้ากับดนตรีที่เล่นจึงจำเป็นต้องเลือกหัวไม้ด้วย หัวไม้กลองจะมี2 แบบคือ หัวไม้แท้ที่จะให้เสียงนุ่มนวลเวลากระทบกับทองเหลืองเช่นฉาบหรือไฮ-แฮท แต่มีข้อเสียคือจะแตกหักได้ง่าย อีกแบบคือหัวพลาสติกหรือที่เรียกว่าหัวไนล่อนเวลากระทบกับทองเหลือเสียงจะคมใสกว่า แต่ข้อเสียคือเสียงจะไม่เป็นธรรมชาติเท่าไรนัก

ส่วนหัวไม้ก็จะมี 2 แบบเช่นกันคือแบบวงรีและแบบวงกลม ซึ่งข้อแตกต่างนั้นแบบวงรีจะให้เสียงที่เล็กแหลมและพุ่งกว่า เหมาะสำหรับการตีเพลงทุกแนวแต่เน้นไปทาง ร็อค, ป็อป และแจ๊ส อีกแบบจะเป็นหัวไม้กลมซึ่งเสียงที่ออกมาจะหนักและมีพลัง มักจะใช้ในเพลงร็อคหรือเมทัล

Image result for wood to make drumsticks

3. ชนิดไม้

ไม่ที่นิยมเอามาทำเป็นไม้กลองส่วนมาจะเป็นไม้เมเปิ้ลและไม่โอ๊คซึ่งมีน้ำหนักเบาเหมาะกับทุกแนวเพลง นอกจากนั้นยังมีไม้ฮิกคอรี่ซึ่งจะเป็นไม้แบบหนักที่ไว้ใช้เล่นเพลงเฮฟวี่ร็อคเพราะเป็นไม้ประเภทเดียวกับที่ใช้ทำไม้เบสบอล จึงเนื้อแข็งมีความทนทานสูงไม่หักง่าย แต่จะให้เสียงสู้ไม้เมเปิ้ลและไม้โอ๊คไม่ได้ นอกจากนั้นยังมีไม้กลองที่ทำมาจากไม้สังเคราะห์ซึ่งข้อดีคือราคาถูกมาก แต่ไม้ชนิดนี้จะไม่ทนทาน ส่วนใหญ่นักดนตรีจะใช้แค่ในห้องซ้อมไม่กี่ครั้งก็แตกหัก จึงไม่เป็นที่นิยมมากนัก

3 หัวข้อนี่จะเป็นทางเลือกให้มือกลองมือใหม่ได้เลือกไม้กลองในแบบที่ตนเองต้องการ แต่เหนือสิ่งอื่นใดนั้นต้องไม่ลืมว่าการฝึกซ้อมคือสิ่งสำคัญที่สุดของนักดนตรี ดังนั้นหากได้ไม้กลองที่ถูกใจแล้วก็อย่าลืมไปฝึกฝนอย่างหนักเพื่อพัฒนาฝีมือตนเองกันต่อไป

ขอบคุณบทความจาก thehub.musiciansfriend

ขอบคุณรูปภาพจาก thehub.musiciansfriend, troys-drums และ reverb

Music Arms