สัมผัสความวินเทจที่แท้จริง! จากกีตาร์ไฟฟ้า และเบส “Sire”
สัมผัสความวินเทจที่แท้จริง! จากกีตาร์ไฟฟ้า และเบส “Sire”
หากพูดถึงในเรื่องของเครื่องดื่มไวน์ที่ยิ่งเก่ายิ่งดี เมื่อมาพูดถึงกีตาร์ก็เช่นเดียวกัน เพื่อนๆบางคนอาจจะมีข้อสงสัยว่า ในยุคนี้เราจะยังสามารถสัมผัสความวินเทจในแบบของกีตาร์รุ่นเก่า บนกีตาร์ที่ผลิตใหม่ได้หรือไม่ ? สำหรับบทความนี้เรามาหาคำตอบกันดีกว่าครับ ว่ากีตาร์ไฟฟ้า และเบสที่ผลิตออกมาเพื่อตอบสนองความวินเทจโดยเฉพาะของทาง Sire จะทำให้เราสามารถสัมผัสความวินเทจในแบบของกีตาร์รุ่นเก่าได้หรือไม่ เราจะมาพูดคุยถึง 3 รุ่นนี้กันครับ ได้แก่
-
Sire Marcus Miller D5
-
Sire Larry Carlton S7 Vintage
-
SIre Larry Carlton T7
Sire เป็นแบรนด์ที่ไม่เคยหยุดที่จะพัฒนาและปรับปรุงสินค้าใหม่ ๆ เพื่อให้นักดนตรีได้รับประสบการณ์ที่ดีที่สุด และในครั้งนี้ก็ไม่ทำให้ผิดหวังกับการเปิดตัวโมเดลกีตาร์เบสและกีตาร์ไฟฟ้าใหม่ที่มีทั้งสไตล์คลาสสิคและเทคโนโลยีที่ทันสมัย โดยนำเสนอ “ความเป็นวินเทจที่แท้จริง” ในตัวของแต่ละโมเดล
การสร้างสัมผัสให้รู้สึกถึงความวินเทจของ “Sire”
Sire ไม่ได้หยุดเพียงแค่การผลิตเครื่องดนตรีคุณภาพสูง แต่ยังมุ่งมั่นที่จะสร้างประสบการณ์ “ความวินเทจ” ที่แท้จริง ด้วยความร่วมมือกับสองตำนานดนตรีระดับโลกอย่าง Marcus Miller และ Larry Carlton
Sire ได้นำเอาคุณสมบัติที่ผสมผสานระหว่างนวัตกรรม และเสียงอันเป็นเอกลักษณ์ของยุคเก่าหรือความวินเทจ มาไว้ในเครื่องดนตรีของเค้า
ย้อนกลับไปในปี 2018 ทางแบรนด์ ได้เปิดตัวเบสรุ่นที่ 2 ซึ่งมีฟีเจอร์เด่นอย่าง ขอบเฟรตบอร์ดแบบมน (Rolled Edges) ฟีเจอร์นี้ทำให้คอเบสของเรามีสัมผัสที่สมูทลื่นไหล และได้รับความนิยมจนเป็นจุดเด่นของทางแบรนด์
หลังจากนั้น เค้าได้เปิดตัวเบสรุ่นวินเทจ 10 Series ที่มาพร้อมกับ คอไม้เมเปิลแข็งอบ (Roasted Hard Maple Neck) ซึ่งหลายคน พอได้ลองแล้วต่างคิดเหมือนกันว่าเครื่องดนตรีในช่วงราคานี้จะได้คุณภาพงานระดับสูงขนาดนี้
การค้นพบคุณสมบัติที่ทำให้สัมผัสและเสียงแบบวินเทจ
เมื่อเวลาผ่านไป Sire พบว่า ขอบเฟรตบอร์ดแบบมน (Rolled Edges) และ คอไม้เมเปิลแข็งอบ (Roasted Hard Maple Neck) คือสองคุณสมบัติที่ช่วยเสริมความวินเทจของเครื่องดนตรีได้อย่างสมบูรณ์แบบ นอกจากนี้ ยังใส่ใจอย่างมากในรายละเอียดของ วัสดุงานประกอบ และระบบอิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ ที่ใช้ให้ได้สิ่งที่ดีที่สุด
ทาง Sire ได้พัฒนาและปรับปรุงคุณสมบัติเหล่านี้ให้ดีขึ้น เพื่อให้เครื่องดนตรีของแบรนด์ยังคงคุณภาพแบบดั้งเดิมไว้โดยไม่ทิ้งรากฐาน และเอกลักษณ์ที่เป็นแกนหลักของทางแบรนด์
รุ่นที่ตอบสนองความวินเทจโดยเฉพาะของ “Sire”
Sire Marcus Miller D5 4-String – ย้อนสู่ยุค ‘50s
เบสไฟฟ้ารุ่นนี้ถูกออกแบบมาเพื่อให้เสียงที่ชัดเจน แน่น และมีบาลานซ์ที่ดี ด้วยฟีเจอร์ที่โดดเด่น ได้แก่
-
คอไม้เมเปิลแข็งอบ (Roasted Hard Maple) ช่วยเพิ่มเสถียรภาพและความทนทาน
-
ปิ๊กอัพสไตล์ P-Bass ให้โทนเสียงหนาและอุ่น
-
ดีไซน์แบบคลาสสิก ผสมผสานความเรียบง่ายและความทันสมัย
Sire Larry Carlton S7 Vintage – เสียงและความสวยงามแห่งยุคคลาสสิก
กีตาร์ไฟฟ้ารุ่นนี้ออกแบบมาสำหรับคนที่ต้องการโทนเสียงที่หลากหลายและความสวยงามเหนือกาลเวลา
-
คอไม้เมเปิลแข็งอบ และ ขอบเฟรตแบบมน (Roasted Hard Maple Neck,Rolled Edges) ให้สัมผัสการเล่นที่ลื่นไหลสะดวกสบาย และแข็งแรงสวยงาม
-
ปิ๊กอัพ Sire LC Super-V (Alnico V) ให้เสียงที่คมชัดและตอบสนองไดนามิกได้ดี
-
คันโยกวินเทจ S7V 2-post เพื่อการเล่นที่อิสระเหมาะสมกับสไตล์วินเทจ
Sire Larry Carlton T7 – ผสานความทันสมัยและความวินเทจอย่างลงตัว
เหมาะสำหรับมือกีตาร์ที่ต้องการคาแรคเตอร์เสียงที่ชัดเจนในแบบของ Tele Style พร้อมดีไซน์ที่ตรงคอนเซปต์วินเทจอย่างแท้จริง
-
คอไม้เมเปิลแข็งอบ และ ขอบเฟรตแบบมน (Roasted Hard Maple Neck,Rolled Edges) เพื่อความสะดวกสบายและแข็งแรง
-
ปิ๊กอัพ Sire LC super-T ให้เสียงที่มีความบาลานซ์ ชัดเจน
ทรง Tele Style ที่ดูทันสมัยแต่ยังคงเอกลักษณ์ดั้งเดิม
“สัมผัสอดีตผ่านเสียงดนตรี”
กีตาร์และเบสรุ่นเหล่านี้จะพาคุณย้อนเวลากลับไปยังเสียงและความรู้สึกแบบตรงยุค
-
Sire Marcus Miller D5 : จะพาคุณกลับไปสู่ยุค ‘50s ทั้งเรื่องเสียงและความรู้สึกที่ได้
-
Sire Larry Carlton S7 Vintage และ Sire Larry Carlton T7 จะเป็นอาวุธคู่ใจในการเปิดโลกเสียงวินเทจที่มีเสน่ห์ และไร้กาลเวลา
แน่นอนว่าสองตำนานอย่าง Larry Carlton และ Marcus Miller ก็เป็นผู้ร่วมออกแบบ กับ Sire มาอย่างยาวนาน ทำให้ในเรื่องของเสียง และคุณภาพงานประกอบ หรือวัสดุที่ใช้ เป็นอย่างที่ควรจะเป็น และดีที่สุดแน่นอน
รุ่นที่กล่าวมานี้ตั้งใจที่จะมอบความรู้สึกเหมือนได้เดินทางข้ามเวลาเพื่อสัมผัสความคลาสสิก ในแบบของ Sire การผสมผสานระหว่างเทคโนโลยีล้ำสมัยและความคลาสสิคที่มีเอกลักษณ์ เหมาะสำหรับนักดนตรีที่ต้องการเครื่องดนตรีที่มีทั้งเสียงดีและดีไซน์โดดเด่น เข้ากับคอนเซปท์ “สัมผัสอดีตผ่านเสียงดนตรี”
เพื่อนๆสามารถเข้ามาสัมผัส และทดลองเสียงตัวจริงได้ที่ร้าน Music Arms ทุกสาขา ร้านเรายินดีให้บริการทุกท่านดุจญาติมิตรแน่นอนครับ