ประวัติกีต้าร์ Charvel
เอ่ยถึงกีต้าร์ Charvel นั้นหลายคนน่าจะรู้จักกันดี แต่บางคนอาจจะสงสัยว่ากีต้าร์ยี่ห้อนี้มีดียังไง อาจจะแค่เคยได้ยินชื่อยังไม่ได้สัมผัส หรือฟังคลิปเสียงต่างๆ ขอเกริ่นก่อนว่า Charvel นั้นเป็นแบรนด์กีต้ารที่มีมานานโดยเมื่อก่อนนั้นเป็นแบรนด์พันธมิตรของ Jackson กีต้าร์ชื่อดัง ก่อนที่ทาง Fender จะเข้ามาซื้อกิจการ ทำให้ปัจจุบันนั้นกีต้าร์ Charvel อยู่ในการควบคุมการผลิตของ Fender มีฐานโรงงานอยู่ที่อเมริกาและเม็กซิโกเช่นเดียวกัน ทำให้มั่นใจได้ในคุณภาพการผลิต และกีต้าร์จะออกมาแนวร็อคอย่างชัดเจน
สำหรับจุดเริ่มต้นของ Charvel นั้นต้องท้าวความไปเมื่อปี 1974 จากผู้ก่อตั้งคือ Wayne Charvel ช่างซ่อมกีต้าร์ที่ทำงานในบริษัท Fender ตัดสินใจมาเปิดร้านรับซ่อมกีต้าร์ของตัวเองเล็กๆ แต่ความที่ฝีมือฉกาจฉกรรจ์ และมีฐานลูกค้าอยู่ก่อนแล้ว ทำให้ร้านของเขาได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว นอกจากซ่อมกีต้าร์แล้ว นาย Wayne Charvel ยังได้รวบรวมอะไหล่ของกีต้าร์ต่างๆมาประกอบขายเองอีกด้วย จนร้านค้าได้รับชื่อเสียงอย่างมากในหมู่ศิลปินนักดนตรี ซึ่งอะไหล่ยุคแรกๆนั้นมาจากกีต้าร์ไฟฟ้าหลายยี่ห้อ
อย่างไรก็ตามด้วยความที่เป็นช่างทำกีต้ารือย่างเดียวไม่ได้มีหัวทางธุรกิจมากนัก การผลิตกีต้าร์ขายจึงอยู่ได้แค่ 4 ปีเท่านั้น ก่อนที่ Wayne Charvel จะขายกิจการให้กับบริษัท Grover Jackson ซึ่งยังคงใช้ชื่อกีต้าร์ Charvel เช่นเคย เพียงแต่กลายเป็นรับอะไหล่จาก Schecter, BC Rich, SD Curlee และ Music Man ขายควบคู่ไปกับกีต้าร์แบรนด์ Jackson แต่ด้วยความที่ไม่ต้องการแย่งตลาดกันและยุคนั้นแบรนด์ Fender เริ่มออกทรงใหม่มา ทำให้กีต้าร์ Charvel ในช่วงแรกกับ Jackson เป็นทรง Strat ซึ่งเจาะตลาดคนละกลุ่มกับ Jackson
จุดเปลี่ยนที่ทำให้กีต้าร์ Charvel สร้างชื่อขึ้นมาคือ ในปี 1980 Grover Jackson ได้พบกับ Randy Rhoads มือกีต้าร์คนดังซึ่งเพิ่งเข้าร่วมวงใหม่ของ Ozzy Osbourne พวกเขาได้ร่วมกันออกแบบกีต้าร์ Charvel ทรง Flying V ซึ่งได้รับความนิยมอย่างมาก กลายเป็นสร้างชื่อให้ Charvel จนขายดี แต่กลับกลายเป็นว่ากลุ่มลูกค้าที่ชื่นชอบ Randy Rhoads นั้นมาแย่งตลาดกีต้าร์ Jackson จึงต้องส่งแบรนด์ Charvel ไปตีตลาดทางเอเชียแทน
อย่างไรก็ตามการตีตลาดเอเชียไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะขนาดแบรนด์แข็งๆอย่าง Fender ยังลำบาก ยิ่งช่วงนั้นมีแบรนด์ดังญี่ปุ่นหลายปบรนด์ เช่น Tokai, Maya หรือ Ibanez ทำให้ยอดขายของ Charvel ไม่สู้ดีนัก จนต้องขายกิจการให้กับผู้ผลิต IMC ของญี่ปุ่น (International Music Corporation) ในปี 1986 ซึ่งกีต้าร์ Charvel ตั้งแต่ปี 1986 ถึงปี 1991 จะเป็น Made in japan ทั้งหมด และหลังปี 1991 ทาง IMC ก้ได้หยุดการผลิตกีต้าร์ Charvel เป็นเวลานาน
Charvel กลับมาเกิดใหม่อีกครั้งในปี 2002 เมื่อ Fender Musical Instruments Corporation ซื้อ Charvel และฟื้นฟูแบรนด์ขึ้นมาโดยมีจุดขายคือซีรี่ย์ San Dimas ซึ่งย้ายฐานการผลิตไปที่อเมริกา และทำให้กีต้าร์ Charvel กลายเป็นกีต้าร์แนวร็อคซึ่งคนละตลาดกับ Fender ทันที นอกจากนี้ยังได้มือกีต้าร์คนดังอย่าง Eddie Van Halen ช่วยโปรโมท กีต้าร์ Charvel จึงกลับมาได้อย่างสมบูรณ์อีกครั้งโดยมีฐานแฟนคลับเป็นสายร็อคนั่นเอง